ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 67 พวกเขาเหมาะสมกันขนาดนั้น
บทที่ 67 พวกเขาเหมาะสมกันขนาดนั้น
ผ่านไปสักพัก เจียงนวลนวลรู้สึกสบายใจลงมาก
หลานซือเฉินก็ยิ้มออกแล้ว
พวกเขายังที่นึกว่าเจียงสื้อสื้อจะสามารถกลายเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลจิ้นได้จริงๆ ตอนนี้ดูท่าแล้ว บางทีจิ้นเฟินเฉินอาจจะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นก็เท่านั้น
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประตูของานเลี้ยงก็ถูกเปิด ต่อมาก็มีเงาของคนสองคนปรากฏออกมาให้เห็น
“นั่นคือเจียงสื้อสื้อ?”แววตาของหลานซือเฉินแฝงไปด้วยความตกใจ ดูเหมือนว่าจะถูกเธอที่แต่งกายสง่างามแบบนี้ทำให้อึ้งตะลึงไป
เจียงนวลนวลมองตามไป จู่ๆเธอก็โมโหเดือดดาลขึ้นไม่น้อย แต่พอชำเลืองตาไปมองซูชิงหยิงและจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ในงาน จู่ๆเธอก็ยิ้มออกมาทันที
“คืนนี้มีอะไรสนุกๆให้ดูแล้วสิ”
เจียงนวลนวลเขย่าแก้วที่อยู่ในมืออย่างช้า งานเลี้ยงในคืนนี้ไม่ได้มาสูญเปล่าจริงๆ
……
เจียงสื้อสื้อน้อยมากที่จะมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงแบบนี้ แต่ถ้ามาปรากฏตัวแล้วล่ะก็ จะดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนไม่น้อย
ผมยาวๆของหญิงสาวรวบเก็บขึ้น เธอที่ปกติแล้วจะหน้าสดตลอด ตอนนี้แต่งหน้าอ่อนๆ ภายใต้คิ้วที่เรียงดั่งใบหลิว คือดวงตาที่ใสเป็นกระกายวับวาว สันจมูกโด่ง ริมผีปากที่แดงระเรื่อ ทุกจุดดูสวยไปหมด
ชุดเดรสยาวสีครีมรับกับเรือนร่างที่สูงเพรียวของเธอ เข็มขัดตรงช่วงเอวรัดให้เห็นสัดส่วนที่โค้งเว้า ชายกระโปรงยาวแผ่ออกบนพื้นราวกับน้ำที่แผ่กระจายออก
ภายใต้แสงส่องสว่างที่ส่องลงมาจากโคมไฟ เธอดูสวยสง่า หรูหรา งดงามจนทำให้คนแทบจะหยุดหายใจ
การมาถึงของเจียงสื้อสื้อ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสะกดคนทั้งงานอยู่ ผู้คนต่างพากันมองเธอแล้วก็ซุบซิบกัน ในตาเผยให้เห็นความประหลาดใจไม่น้อย
“ว้าว!สวยมาก!”
“ไม่รู้เลยนะเนี่ย!อยากจะเข้าไปขอที่ติดต่อเลย รู้สึกว่าดูดีมีสไตล์มากว่าซูชิงหยิงอีกนะเนี่ย!”
“เอ้า ไม่เห็นเลยว่าคุณชายรองจิ้นก็ยืนอยู่ข้างๆเธอด้วย!”
“ไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูจากตระกูลไหนกัน”
……
ซุชิงหยิงมองตามสายตาของทุกคน ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินพร้อมกับถามขึ้น“นี่คือแฟนของจิ้นเฟิงเหราเหรอคะ? สวยมากจริงๆ!”
จิ้นเฟิงเฉินหันสายตาไปมอง ขณะที่ตาหันไปเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างน้องชายของตัวเองนั้น มือของเขาก็หยุดชะงักเล็กน้อย แววตาดูแปลกไป
“เป็นอะไรเหรอคะ?”
ซูชิงหยิงเห็นแววตาของเขาแล้วรู้สึกแปลกใจ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดอะไร แต่แววตานั่นกลับมองสำรวจเจียงสื้อสื้ออยู่ตลอดเวลา
สำหรับงานเลี้ยงแบบนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง เดินตามจิ้นเฟิงเหราเข้าไปในงาน
เธอมองเห็นจิ้นเฟิงเฉินจากไกลๆ
เขาสวมเสื้อสูทสีดำ ใบหน้าที่หล่อเหลายังคงไร้ซึ่งอารมณ์เหมือนอย่างเคย ทั้งเนื้อทั้งตัวดูมีรังสีของความน่าเกรงขามดูเข้าถึงยากแผ่กระจายออกมา ท่ามกลามผู้คน เขาในตอนนี้ดูโดดเด่นส่องสว่างออกมาไม่น้อย
ทั้งสองสบตากัน เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัดในใจ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
เธอนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ว่า เช้าวันนี้จิ้นเฟินเฉินบอกกับเธอแล้วว่า ตอนค่ำเขามีงานเลี้ยง ดูทรงแล้วก็น่าจะเป็นงานเลี้ยงงานนี้
ข้างๆจิ้นเฟินเฉินก็ยังมีผู้หญิงยืนอยู่ด้วยหนึ่งคน เจียงสื้อสื้อแอบรู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตาไม่น้อย แต่ก็นึกไม่ออก
เธอหันมามองจิ้นเฟิงเหราหนึ่งรอบ กะที่จะถามว่าที่เขาพาเธอมาที่นี่คิดที่จะทำอะไรกันแน่
เจียงสื้อสื้อแอบรู้สึกว่ามีอะไรทะแม่งๆ นี่คงจะไม่ใช่งานเลี้ยงหงเหมินหรอกใช่ไหม?
จิ้นเฟินเหราดูเหมือนจะมองไม่เห็นแววตาคู่นั้น แล้วก็เดินเข้าไป มาหยุดอยู่ตรงหน้าของจิ้นเฟิงเฉินและซูชิงหยิง ก่อนจะยิ้มแย้มพร้อมกับพูดทักทายขึ้น
“พี่ชิงหยิง ขอโทษที่มาช้านะครับ”
ซูชิงหยิงยิ้มๆอย่างสง่างาม น้ำเสียงสุภาพเรียบร้อย
“ไม่เป็นไรจ่ะ งานเลี้ยงยังไม่ทันเริ่มเลย!”
จิ้นเฟิงเหราก็พูดแนะนำขึ้นมาต่อ“คนนี้คือคู่ควงของผม เจียงสื้อสื้อ”
เขาหันไปมองเจียงสื้อสื้อแล้วพูดต่อ“คนนี้คือเจ้าภาพงานในวันนี้ซูชิงหยิง เพิ่งกลับประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน งานเลี้ยงวันนี้ก็จัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของเธอ”
มองสำรวจซูชิงหยิง สักพักเจียงสื้อสื้อก็นึกขึ้นมาได้ นี่เป็นผู้หญิงที่เดินออกมาจากจิ้นกรุ๊ปพร้อมกับจิ้นเฟิงเฉินในวันนั้นไม่ใช่หรือไง?
จากนั้น ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายก็ผุดขึ้นมาในใจของเธอ
จิ้นเฟิงเหราบอกว่าซูชิงหยิงเป็นเจ้าภาพของงานเลี้ยงคืนนี้ แสดงว่า สถานะของเธอจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เธอก็ทำงานที่จิ้นกรุ๊ปเหมือนกันเหรอ? สรุปแล้วมีความสัมพันธ์อะไรกับจิ้นเฟิงเฉิน?
เห็นทั้งสองที่ยืนเคียงข้างกัน มันช่างดูเหมาะสมกันเหมือนกับวันนั้นเหลือเกิน เจียงสื้อสื้อรู้สึกเศร้าโศกอยู่ภายในใจ
ในเวลานี้ ได้ยินเพียงแค่น้ำเสียงพูดดูหมิ่นของซูชิงหยิง“คุณเจียงนี่สวยจริงๆ เฟิงเหรา นายยังคงกะล่อนไปทั่วเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลยนะ เปลี่ยนผู้หญิงมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้วนะเนี่ย!”
“คุณซูชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ!”เจียงสื้อสื้อตอบกลับไปด้วยความรู้สึกอึดอัด
เธอชำเลืองตาไปมองจิ้นเฟิงเฉินหนึ่งรอบ ถือว่าเป็นการทักทายแล้ว
ซูชิงหยิงก็เห็นสายตาที่ทั้งสองมองสบกัน เธออึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้น“พวกคุณสองคนรู้จักกันเหรอคะ?”
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินไม่ทันได้ตอบกลับไป จิ้นเฟิงเหราก็ชิงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเสียก่อน“รู้จักกันแน่นอนสิ คนที่ยืนอยู่ข้างผม เขาจะไม่รู้ได้ยังไง!”
ขณะที่พูดอยู่นั้น จิ้นเฟิงเหราเหลือบไปมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยแววตารู้สึกผิด
พี่ อย่าตีผม ที่น้องชายทำขนาดนี้ก็เพื่อความสุขของพี่นะ!
ซูชิงหยิงได้ยินแบบนี้ ก็คิดๆดูแล้วก็ใช่ ถึงยังไงจิ้นเฟิงเหราก็เป็นน้องชายของจิ้นเฟิงเฉิน แต่ว่าดูเจียงสื้อสื้อแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเธอดูจงใจแบบบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะว่าเจียงสื้อสื้อหน้าตาสวยมาก เธอที่ดูเด่นเหมือนเป็นตัวหลัก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เธอกับจิ้นเฟิงเฉินรู้จักกัน……
สักพัก ซูชิงหยิงก็รู้สึกว่าตัวเองคงคิดเล็กคิดน้อยเกินไป ยังไงนี่ก็เป็นคนของจิ้นเฟิงเหรา เธอก็ไม่ได้คิดอะไรอีก แล้วก็พูดขึ้น“เฟิงเหรา ฉันขอตัวก่อน นายพาคุณเจียงไปเดินดูงานให้สนุกเถอะ!มีเรื่องอะไรก็เรียกฉันก็แล้วกัน”
“ครับ พี่ชิงหยิง”จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า
ซูชิงหยิงมองดูคนตรงหน้าหนึ่งรอบ แล้วก็เดินจากไป
……
งานเลี้ยงเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ
พ่อซูพูดกล่าวเปิดงานบนเวที“ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาร่วมงาน และเป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกสาวผมชิงหยิงในค่ำคืนนี้ การกลับมาครั้งนี้ของชิงหยิงหลักๆแล้วก็เพื่อมารับช่วงต่อซูซื่อกรุ๊ป จากนี้ไปหวังว่าทุกท่านจะช่วยเอ็นดูเธอกันด้วยนะครับ กระผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งมา ณ ที่นี้ด้วย”
คนข้างล่างเวทีพากันปรบมือ ซูชิงหยิงถกกระโปรงขึ้น แล้วเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ภายใต้แสงไฟที่สาดส่องลงมา ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงที่ดึงดูดสายตาผู้คน……