ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 753 เวลานั้น กับเวลานี้
บทที่ 753 เวลานั้น กับเวลานี้
“หากมีอะไรคืบหน้า แจ้งให้ฉันทราบทันที ”จิ้นเฟิงเฉินสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ครับ”
โม่เหยียตอบรับ แล้วหันหลังจากไป
จิ้นเฟิงเฉินมองตามทิศทางที่เขาจากไป แล้วยิ่งทุกข์ใจจนคิ้วขมวดเข้าหากัน
สักพัก กู้เนี่ยนผลักประตูออก “คุณชาย นี่คือโครงการความร่วมมือใหม่ของเรา”
จิ้นเฟิงเฉินกวาดสายตาดูคร่าวๆ แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงไป
กู้เนี่ยนนึกถึงสายตาเคร่งขรึมของโม่เหยียที่เดินจากไปเมื่อกี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “คุณชาย คุณหญิงท่าน…….”
ได้ยินเช่นนั้น จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเยาะที่มุมปาก “โม่เหยียก็ไม่มีปัญญา แต่ว่าเรื่องนี้ยิ่งนานวันยิ่งน่าสนใจขึ้นแล้ว ”
ถึงแม้เขาจะยิ้ม แต่ความเย็นชานั้นกลับทำให้คนรู้สึกผวา
กู้เนี่ยนได้ยินเช่นนั้น “แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป”
นิ้วของจิ้นเฟิงเฉินค่อยๆเคาะไปบนโต๊ะ พร้อมร่องรอยโหดเหี้ยมฉายผ่านดวงตา “ ในเมื่อฝั่งตรงข้ามจะเล่นเกมนี้กับเรา เราก็ต้องเล่นด้วยให้ถึงที่สุด”
ระงับอารมณ์ลงแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ลืมตามองไปและสั่งการอย่างเฉียบขาด
“คุณไปหาข้อมูลสถานที่ต่างๆที่สื้อสื้อเคยไปปรากฏตัว และข้อมูลคนที่เคยเข้าใกล้สื้อสื้อมาอีกรอบ แล้วทำรายงานส่งผม ยิ่งละเอียดมากยิ่งดี ห้ามพลาดรายละเอียดใดๆ จำไว้ เร็วด้วย”
กู้เนี่ยนกลัวจะล่าช้า จึงรีบถาม “คุณชาย ควรจะเริ่มต้นตรวจสอบตั้งแต่เมื่อไหร่เป็นต้นมา”
จิ้นเฟิงเฉินคิ้วขมวดเล็กน้อย พวกเขาอยู่ในที่สว่างฝั่งตรงข้ามอยู่ในที่มืด ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาระวังตัวกันมากไม่ได้ทิ้งหลักฐานใดๆไว้เลย
บอกได้ว่าจะไม่ทำการอย่างผลีผลามแน่นอน พวกเขามีการวางแผนไว้อย่างดีในทุกฝีก้าวที่จะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้หาเจอ
จะไม่ลงมือในที่สาธารณชนอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นในห้อง
และต้องเป็นสถานที่ที่ไม่ดึงดูดความสนใจของคน และต้องเป็นสถานที่ที่เข้าถึงง่ายและเมื่อฉีดเข้าไปจะไม่ทำให้สื้อสื้อเกิดความสงสัย……….
คิดไปพลัน จิ้นเฟิงเฉินก็พูดอย่างหนักแน่นเด็ดขาดว่า “โรงพยาบาล ปัญหาต้องอยู่ตรงนี้แน่นอน”
“ใช่ครับ”
กู้เนี่ยนรับคำสั่งแล้ว ก็ไปปฏิบัติหน้าที่ทันที
เวลานี้ ภายในวิลล่าส่วนตัวหลังหนึ่งที่ชานเมือง ฝู้จิงเหวินกำลังคุยโทรศัพท์
สระว่ายน้ำในสวนใสสะอาดสีฟ้าคราม ส่องแสงทอประกายระยิบระยับ
“ใช่แล้ว จิ้นเฟิงเฉินรู้เรื่องในร่างกายสื้อสื้อมีเชื้อโรคแล้ว เราจะทำอย่างไรกันต่อไป ”
ฝู้จิงเหวินมองดูสระว่ายน้ำใสสะอาดจนเห็นก้นสระภายใต้แสงอาทิตย์ ในมือจับจี้หยกอันสวยงามสะดุดตาอยู่
ไม่ทันระวังเชือกขาดโดยบังเอิญ เขาจึงโยนจี้ลงไปในสระว่ายน้ำอย่างโมโห
น้ำใสสะอาดมีคลื่นขึ้นมา และไม่นานก็สงบลง
“เจอกันแล้วค่อยคุยกัน”
พูดจบ ฝั่งตรงข้ามก็วางสายไป
มองไปหน้าจอมือถือที่มืดลง ฝู้จิงเหวินกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
สิบนาทีให้หลัง รถสีดำคันหนึ่งเข้ามาจอดหน้าประตูวิลล่า
ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่คนหนึ่งเดินลงมาจากรถ ข่ายสื้อลินนั่นเอง แต่ว่าวันนี้เธอไม่ได้มาในชุดพยาบาลก็เท่านั้น
เมื่อฝู้จิงเหวินเห็นก็โบกไม้โบกมือให้เธอ “พูดมา ตอนนี้จะแก้ไขอย่างไร ”
ฝู้จิงเหวินกึ่งนั่งกึ่งลุก ถือขวดไวน์แดงบนโต๊ะขึ้นมาค่อยๆรินลงในแก้วขายาว
ข่ายสื้อลินยิ้มตอบ “ไม่ต้องรีบร้อน คนข้างกายจิ้นเฟิงเฉินไม่ธรรมดาจริงๆ ดูๆแล้วช่วงนี้ต้องระวังกันหน่อย
ต่อไปถ้าไม่มีเรื่องสำคัญคุณไม่ต้องมาหาฉันแล้ว กลัวจิ้นเฟิงเฉินจะเห็น เมื่อถึงเวลานั้นเราต่างคนต้องแบกรับผลเสียไม่หมดแน่นอน ”
ดื่มเหล้าในแก้วจนหมดแล้วข่ายสื้อลินก็ลุกขึ้นเดินจากไป กลับถูกฝู้จิงเหวินใช้มือขวางไว้
“คุณลืมเรื่องอะไรไปหรือเปล่า”
เห็นสายตาเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อน ข่ายสื้อลินยิ้มที่มุมปาก น้ำเสียงขึ้นเล็กน้อย “อ๋อ ยังมีเรื่องอะไรเหรอ”
“คุณลืมให้ยาถอนพิษผมหรือเปล่า”
พูดจบ ฝู้จิงเหวินวางแก้วในมือลงบนโต๊ะหยกขาวเสียงดัง “เพี้ยง”
ไวน์ในแก้วหกกระเด็นออกมาครึ่งแก้ว ทันใดนั้นโต๊ะขาวบริสุทธิ์เปลี่ยนเป็นสีแดงสด
“เมื่อตอนที่ผมตอบรับทำข้อตกลงกันก็เคยพูดแล้วว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของสื้อสื้อ มันคือเงื่อนไขเบื้องต้นที่ผมตอบตกลงร่วมมือด้วย ”
เผชิญกับฝู้จิงเหวินที่กำลังอารมณ์ลุกเป็นไฟ ข่ายสื้อลินเหน็บผมไว้หลังหูอย่างไม่แยแส “เวลานั้นกับเวลานี้ ”
เสียงดัง“ โครมคราม ” เห็นเพียงเก้าอี้หนึ่งตัวที่ถูกฝู้จิงเหวินใช้แรงเตะเข้าไปในสระว่ายน้ำ น้ำกระเด็นพุ่งกระจัดกระจาย
“ฤทธิ์ของยาตัวนั้นแม้แต่พวกคุณก็ยังไม่ชัดเจนนัก เห็นได้ชัดว่าคุณต้องการชีวิตเธอ”
เพราะความโกรธ ฝู้จิงเหวินจึงได้เสียสติไปแล้ว เส้นเลือดในมือปูดขึ้น ราวกับว่าวินาทีถัดไปจะฆ่าผู้หญิงตรงหน้าอย่างนั้น
ต่างจากฝู้จิงเหวินที่กำลังโกรธอย่างรุนแรง ข่ายสื้อลินกลับพูดอย่างใจเย็น “อย่าพูดคำที่ไม่น่าฟัง อะไรตายไม่ตายพวกนั้น มันน่ากลัว
ผ่านไปครึ่งเกม ใครก็ไม่มีเหตุผลที่จะออกจากเกมนี้ คนที่สามารถเล่นจนจบเกม คือคนที่ชนะ คนที่ออกกลางคัน ………ผลเป็นเช่นไรคุณก็รู้”
ขณะพูดเธอก็หยุดไปพัก มองดูฝู้จิงเหวินด้วยสายตาล้อเล่นเล็กน้อย “ยาถอนเหรอ ………ฉันจะให้ แต่ว่า ไม่ใช่เวลานี้ ”
“แล้วคุณจะให้ผมเมื่อไหร่”ฝู้จิงเหวินถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ตอนนี้เขาเสียใจอย่างมากที่ตอบตกลงร่วมมือกับผู้หญิงคนนี้ เมื่อเทียบกับจื่อเฟิง เธอน่ากลัวกว่า
จื่อเฟิงยังคงมีจุดมุ่งหมาย แต่ข่ายสื้อลินกลับเหมือนคนยืนดูอยู่ข้างๆคนหนึ่ง ที่เป็นคนควบคุมเกมนี้อยู่
ข่ายสื้อลินปัดฝุ่นบนเสื้อออก แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ใจร้อนอะไร ค่อยรอให้ตอนที่เธอออกอาการป่วยจะไม่ดีกว่าเหรอ ”
คุณจะจัดการจิ้นเฟิงเฉินไม่ใช่หรือ โอกาสมาแล้วนะ ถือจังหวะที่สองวันนี้เขากำลังทุกข์ใจเรื่องยาถอนอยู่ รีบลงมือซะ ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ฝู้จิงเหวินสูดหายใจลึกๆ ค่อยๆผ่อนออกมา แล้วค่อยๆพูด “ให้รีบตายไปจะมีความหมายอะไร ทรมานไปเรื่อยๆ ถึงจะมีความรู้สึกภูมิใจ ”
เห็นท่าทางมั่นใจตัวเองของเขา ข่ายสื้อลินพูดแบบไม่แยแส “ กลัวว่าคุณยังไม่รู้มั้ง ถึงแม้ว่าความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าฝู้ซื่อกรุ๊ปครั้งก่อนจะทำให้เขาขาดทุนไปไม่น้อย แต่จิ้นเฟิงเฉินก็คือจิ้นเฟิงเฉินอยู่ดี ช่องโหว่แค่นั้น ไม่นานก็ปิดได้แล้ว สำหรับความสามารถของเขา ไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้น”
ได้ยินเช่นนั้น ฝู้จิงเหวินยิ้มเย็นชา “ชื่อเสียงป่นปี้ไปแล้ว จะทำเงินอย่างไรอีก”
“ชื่อเสียง เหอะ ”
ข่ายสื้อลินมองฝู้จิงเหวินที่กำลังหลอกตัวเองด้วยสายตาเย็นชา ในสายตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“ชื่อเสียงเสียงหายคือผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัท เปลี่ยนออกก็ได้แล้ว เกี่ยวอะไรกับจิ้นเฟิงเฉิน เงินก็ยังหาได้ปกติ”
เขาผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้ผู้บริหารระดับสูง”
ฝู้จิงเหวินได้ยินเช่นนี้ มองเธอด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด
“บริษัทไหนจะไม่มีแมลงแทะกินบ้าง ถือโอกาสนี้ให้ตำรวจเข้ามาแทรกแซงในการสอบสวน JS กรุ๊ปให้ความร่วมมือขนาดนี้ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับสถานีตำรวจ ยังมีผลพลอยได้ ได้ขุดเอาแมลงกัดกินออกมาด้วย พูดไปแล้ว คุณยังไปช่วยเขาไว้อีกแรง”
พูดจบ ข่ายสื้อลินดื่มไวน์แดงที่เหลือคำเดียวหมด ยักคิ้ว มองไปที่ฝู้จิงเหวินที่เงียบไม่พูดไม่จา
ฝู้จิงเหวินได้ยินเช่นนั้น กัดริมฝีปากไว้แน่นด้วยท่าทางโหดเหี้ยม ดวงตาแดงก่ำทุบหมัดไปที่กำแพง “ได้ ถือว่าเขาเก่ง ขาดทุนหน่อยก็คือขาดทุน ผมไม่เชื่อว่าเขาจิ้นเฟิงเฉินจะสามารถยืนหยัดไปได้ตลอดทุกครั้งไป”