ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 774 ใครสั่งคุณมา
บทที่ 774 ใครสั่งคุณมา
ฝู้จิงเหวินหายใจเข้าลึก ๆ สีหน้าของเขาแย่มาก
เมื่อเห็นว่าฝู้จิงเหวินกำลังจะโกรธ บริกรจึงมองทั้งสองด้วยความหวาดกลัว และกล่าวว่า ” คุณชายครับ คุณหญิงครับ พวกคุณอย่าทะเลาะกันเลยนะครับ ใจเย็นๆ นะครับ”
ฝู้จิงเหวินไม่ได้สนใจเขา เขากระตุกมุมปากแล้วมองตรงไปที่เจียงสื้อสื้อ และพูดเหมือนอมยิ้ม
” ที่แท้แล้วจิ้นเฟิงเฉินมีน้ำหนักในใจของคุณมากขนาดนี้นี่เอง”
เจียงสื้อสื้อเม้มปากของเธอเบา ๆ โดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
บรรยากาศนั้นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที บริกรมองดูเขาสองคน
และนานกว่าเขาจะพูดออกมาอย่างเบาๆ ว่า ” ผมนึกขึ้นมาได้แล้วครับ ด้านในของคุณชายคนนั้นใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาควันบุหรี่ไว้ ข้อมูลนี้มีประโยชน์กับพวกคุณไหมครับ”
เจียงสื้อสื้อมองไปที่เขาอย่างกะทันหัน เสื้อเชิ้ตสีเทาควันบุหรี่….. เหมือนกับการแต่งกายของจิ้นเฟิงเฉินเป๊ะเลย
สีของชุดสูทอาจจะชนกันได้ดู แต่ว่าใส่ชนกันทั้งสองชิ้นดูเหมือนว่าความเป็นไปได้มันน่าจะน้อยนะ
ฝู้จิงเหวินมองไปที่เจียงสื้อสื้อที่ประหลาดใจ และถามบริกรด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “แล้วคุณเห็นหรือไม่ว่าพวกเขาไปที่ไหน? ”
บริกรส่ายหัว ” ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ … ”
ขณะที่เขาพูด มีบริกรอีกคนเดินผ่านพวกเขาไป เขารีบเรียกบริกรคนนั้นไว้ถามว่า ” คุณเห็นผู้ชายสวมชุดสูทสีเทาเข้มเดินมากับผู้หญิงสุดเซ็กซี่หรือไม่? ”
บริกรคนนั้นพยักหน้า “มีอะไรเหรอ? ”
“คุณรู้ไหมว่าพวกเขาไปไหน? ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น บริกรคนนั้นก็ชี้ไป “ดูเหมือนว่าจะเข้าไปในห้องรับแขกนะ ผมบังเอิญขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับพวกเขา เราลงชั้นเดียวกัน หมายเลขห้องน่าจะเป็น 0921 แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับที่คุณกำลังพูดถึงไหม”
ทุกประโยคที่บริกรพูด ทำให้เจียงสื้อสื้อตัวสั่น
เข้าไปในห้องงั้นหรือ…
ใบหน้าของเธอซีดลง ราวกับว่าเธอไม่มีเลือดไหลเวียนแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฝู้จิงเหวินก็จับไหล่ของเธอไว้ เพื่อช่วยเธอยืนตรงได้ และพูดข้างหูของเธอว่า “ไปกันเถอะ เราไปดูกันเถอะ”
“ไม่”
เจียงสื้อสื้อส่ายหัวและถอยออกไป เธอกัดริมฝีปากล่างโดยไม่รู้ตัว .
เมื่อเห็นการปฏิเสธในดวงตาของเธอ ฝู้จิงเหวินก็ชักชวนเธอและพูดว่า ” สื้อสื้อ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่เห็นกับตาชัดๆ คุณจะสบายใจหรือ?”
“ไปเถอะ เราไปดูสักหน่อย ไม่มีอะไรหรอก”
“สื้อสื้อ …”
ไม่ว่าฝู้จิงเหวินจะพูดอะไร เจียงสื้อสื้อก็เอาแต่ส่ายหัว
ในหัวเธอเอาแต่มีคำพูดของบริกรคนนั้นดังขึ้นมา “พวกเขาเข้าไปในห้อง พวกเขาเข้าไปในห้อง ในห้อง … ”
ชายหญิงสองต่อสอง จะเข้าไปทำอะไรในห้อง และยังไปกับผู้หญิงเซ็กซี่อีกด้วย เจียงสื้อสื้อไม่อยากคิดต่อไป
เธอกดหน้าอกของตนไว้ สีหน้าของเธอแย่มาก
เธอเป็นเช่นนี้ ทำให้ฝู้จิงเหวินกังวลเป็นอย่างมาก เขาเอนตัวเข้าไปถาม ” สื้อสื้อ คุณเป็นอะไรรึเปล่า? อย่างเก็บไว้คนเดียวนะ”
เจียงสื้อสื้อ ปัดมือของฝู้จิงเหวินออกและหายใจออกยาวๆ แววตาของเธอเต็มไปด้วยปฏิเสธ
“ฉันไม่ไป”
เมื่อเห็น เจียงสื้อสื้อปฏิเสธที่ไป ฝู้จิงเหวินก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เขากัดฟัน และจงใจพูดกระตุ้น เจียงสื้อสื้อว่า ” สื้อสื้อ ที่จริงแล้วคุณเองก็กลัวเหมือนกันใช่ไหม กลัวที่จะเห็นจิ้นเฟิงเฉินอยู่กับผู้หญิงคนอื่น คุณสนใจในตัวเขา”
ถ้า เจียงสื้อสื้อไม่ไปเห็นภาพในห้องนั้นกับตา ความพยายามของเขาก็จะสูญเปล่า
เจียงสื้อสื้อปฏิเสธด้วยใบหน้าที่ขาวซีด ราวกับถูกแทงเข้าที่จุดที่เจ็บปวด
“ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น……”
เธอไม่เชื่อว่า จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนแบบที่ฝู้จิงเหวินพูด
เมื่อเห็นว่าวิธีกระตุ้นนั้นมีผล ฝู้จิงเหวินจึงเพิ่มน้ำเสียงของเขาอย่างจงใจ “ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมไปดูกับผม?”
เจียงสื้อสื้อกระวนกระวายเล็กน้อย หน้าอกของเธอแน่นมาก เธอปล่อยให้ฝู้จิงเหวินลากตัวเองไป
ขณะนี้ในห้องตรงหัวมุม ข่ายสื้อลินใช้ความพยายามอย่างมากในการลากจิ้นเฟิงเฉินเข้าไปในห้อง
เธอจงใจเปิดประตูไว้ครึ่งหนึ่งเพราะเธอรู้ว่าฝู้จิงเหวินจะพาเจียงสื้อสื้อมา
เธอเดินโซเซและพยุงจิ้นเฟิงเฉินขึ้นไปบนเตียงใหญ่ข้างๆ เธอ
เมื่อเห็นภาพที่จิ้นเฟิงเฉินนอนหลับสนิท ข่ายสื้อลินก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างประสบความสำเร็จ
เธอปีนขึ้นไปบนเตียง และปลดกระดุมของจิ้นเฟิงเฉินออกอย่างกระวนกระวาย
นิ้วที่เรียวยาวของเธอเลื่อนลงไปตามไหปลาร้าของจิ้นเฟิงเฉิน ข่ายสื้อลินทำพร้อมสีหน้าที่มีเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง
ปลายนิ้วของเธอเลื่อนลงไปแตะที่กระดุมตัวแรก
นิ้วของเธอกระตุกเล็กน้อย ข่ายสื้อลินรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
จิ้นเฟิงเฉินเป็นผู้ชายที่อันตรายเกินไป จนทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัวได้แม้เขาจะหลับไปแล้วก็ตาม
แต่เพราะแบบนี้ ถึงจะตรงสเปคของเธอ
ขณะที่เธอกำลังจะปลดกระดุมออก แขนของเธอก็ถูกฝ่ามือที่อุ่นๆ คว้าเอาไว้
วินาทีต่อมาความเจ็บปวดนั้นก็แล่นเข้าหัวใจ
สีหน้าข่ายสื้อลินบิดเบือนไป เธอเจ็บจนร้องออกมา เจ็บปวดจนน้ำตาไหลวนอยู่ในดวงตา
ทันใดนั้น เธอก็ได้สบตากับดวงตาสีดำที่เย็นชาคู่หนึ่ง
ข่ายสื้อลินมองไปที่ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินที่ดูเยือกเย็นนั้น เธอตกใจจนใจสั่นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเธอขาวซีดขึ้นมาทันที
จิ้นเฟิงเฉินตื่นแล้วเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร จะเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินก็จ้องไปที่เขา แสดงความรังเกียจออกมา
วินาทีต่อมา ข่ายสื้อลินโดนแตะลงจากเตียง ท้ายทอยของเธอกระแทกลงไปบนพื้นอย่างแรง และเธอก็ส่งเสียงอู้อี้ดังขึ้นมา
มันรุนแรงอย่างมาก เธอแทบจะถูกจิ้นเฟิงเฉินโยนออกไปอย่างไร้ปรานี
เธอล้มลงบนพื้น ดวงตาของข่ายสื้อลินมีขาของผู้ชายปรากฏขึ้นมา เขาเดินอย่างมั่นคง ไม่มีร่องรอยของคนโดนวางยาเลย
เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือ? เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่มขนาดยาแล้ว ทำไมถึงไม่ได้ผลจิ้นเฟิงเฉิน?
จิ้นเฟิงเฉินโน้มตัวลงไปบีบใบหน้าของเธอไว้อย่างแรง บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น
เมื่อเธอเห็นแสงกระหายเลือดในดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว รูม่านตาของข่ายสื้อลินก็ขยายออกมาทันที
กรามของข่ายสื้อลินถูกบีบอย่างเจ็บปวด เมื่อเธอมองไปที่ชายที่ดูเหมือนซาตานที่ตรงหน้าแล้ว ความกลัวในใจของเธอก็ปรากฏขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเธอสู้กับจิ้นเฟิงเฉินจริงๆ ละก็ เธอจะมีโอกาสชนะเท่าไหร่?
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา และเผยกลิ่นอายความหนาวเย็นไปทั่วร่างกาย เขาถามด้วยเสียงที่ดุดันว่า “ใครสั่งคุณมา?”
เขามองไปที่ข่ายสื้อลิน โดยไม่มีความสงสารใดๆ เลย ราวกับว่าเขาอาจถูกบีบคอเธอจนตายได้ในวินาทีถัดไป
บรรยากาศนั้นค่อยๆ หยุดนิ่ง และเงียบสนิทราบกับความตาย
ดวงตาสีเข้มของจิ้นเฟิงเฉินตราตรึงด้วยความเศร้าหมองและโกรธเคือง ลมหายใจของเขาดุดันอย่างมาก
ในเวลานี้ข่ายสื้อลินยังคงจมอยู่กับความตกตะลึง ปากของเธอสั่นเล็กน้อย สีหน้าของเธอดูเหลือเชื่ออย่างมาก
“คุณ เพราะอะไรกัน? ”
จิ้นเฟิงเฉินทำเสียง “หึ” แล้วมองเธออย่างเหยียดหยาม “อยากถามว่าทำไมฉันถึงไม่เป็นไรงั้นหรือ?”
เขายิ้มอย่างเย็นชา
ก่อนที่ข่ายสื้อลินจะรู้สึกตัว คอบาง ๆ ของเธอก็ถูกบีบ
จิ้นเฟิงเฉินบีบคอแล้วยกเธอขึ้นจากพื้น
ลมหายใจเย็น ๆ ของชายคนนั้นใกล้เข้ามา และข่ายสื้อลินรู้สึกหายใจไม่ออก
ทุกรูขุมขนเปิดออกด้วยความหวาดกลัว
ชายคนนี้เป็นปีศาจชัดๆ!
เขาจะฆ่าเธออย่างแน่นอน
วินาทีต่อมา จิ้นเฟิงเฉินดันข่ายสื้อลินเข้ากับกำแพง เสียงของเขาเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง “แค่กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ เธอคิดว่ามันจะได้ผลกับฉันหรือ? ทางที่ดี เธอพูดออกมาเองจะดีกว่าอย่าบังคับให้ฉันต้องใช้วิธีอื่น”
ยาสลบนี้ ถ้าเทียบกับยาแปลกๆ ที่โม่เหยียชอบคิดค้นออกมา ฤทธิ์ยานี้อ่อนกว่าอย่างมาก
เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นวางยาเขา โม่เหยียมักจะคิดค้นยาที่ไม่เป็นอันตรายออกมาให้เขา
หลังจากที่ร่างกายสร้างแอนติเจนต้านทานแล้ว อย่างน้อยเขาต้านทานต่อสิ่งพวกนี้ได้ดีกว่าคนปกติทั่วๆ ไป
อย่างน้อยเขาจะไม่เป็นลมไปในทันที
ทันใดที่เขาถูกพ่นยาใส่ เขาก็ตระหนักได้ว่านี่อาจจะเป็นยาสลบ
“เพื่อสืบให้แน่ชัดว่าใครเป็นคนสั่งผู้หญิงคนนี้มา จิ้นเฟิงเฉินจึงถือโอกาสแกล้งว่าตนนั้นสลบไป เพื่อให้เธอระแวงน้อยลง