ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 803 คุณเป็นอะไรกับฉัน
บทที่ 803 คุณเป็นอะไรกับฉัน
ค่ำคืนที่มืดมิด ขับรถไปตามทางคดเคี้ยว พาเจียงสื้อสื้อที่ไม่ได้สติไปยังสนามบินส่วนตัวแห่งหนึ่งตามที่นัดกับข่ายสื้อลินไว้
ข่ายสื้อลินที่มาถึงแล้วมองเห็นแสงไฟกะพริบมาแต่ไกล อารมณ์ดีมากจนเผยอยิ้มที่มุมปาก
ฝู้จิงเหวินพาผู้หญิงมาจนได้
เมื่อจอดรถสนิทแล้ว ฝู้จิงเหวินก็ลงจากรถ ถอดหมวกแก๊ปสีดำออก
มองดูรอบๆแล้ว สังเกตเห็นลานจอดอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว สอบถามทันที “เครื่องบินส่วนตัวที่คุณรับปากกับผมล่ะ”
ข่ายสื้อลินได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้ม แล้วเอาตั๋วเครื่องบินออกมาจากอกสามใบ
“นี่คือตั๋วบินตรงอิตาลี ฉันจะกลับไปพร้อมกับพวกคุณ หลังจากลงเครื่องแล้วจะมีคนมารับ เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง ”
เห็นข่ายสื้อลินพูดอย่างทำอย่าง ฝู้จิงเหวินสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที แล้วมองไปที่สายตาเธอที่น่าสงสัย ตักเตือนด้วยเสียงเย็นชา “คุณอย่าคิดจะเล่นกับผม มิเช่นนั้น คุณจะไม่ได้ยาถอนพิษตลอดไป ”
เขาจะพาเจียงสื้อสื้อหนีไปประเทศฝรั่งเศสแบบลับๆอยู่แล้ว หากข้อมูลรั่วไหล จิ้นเฟิงเฉินต้องทำการสกัดพวกเขาอย่างแน่นอน
ข่ายสื้อลินกดไหล่เขาเบาๆ ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด “ คุณชายใหญ่ฝู้ของฉัน ท่านวางใจได้ มีฉันคอยปกป้องคุณ จะไม่เกิดเรื่องใดๆขึ้นอย่างแน่นอน”
ตอนนี้เวลากระชั้นชิด เมื่อได้ยินการรับประกันจากเธอ ฝู้จิงเหวินก็ทำได้เพียงเชื่อใจเธอ
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งสามก็มาถึงสนามบิน ฝู้จิงเหวินอุ้มเจียงสื้อสื้อที่ไม่ได้สติไว้ในอ้อมกอด มองไปที่ผู้หญิงข้างกายที่สวมแว่นดำอย่างรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
“สภาพเธอเช่นนี้จะเข้าไปได้อย่างไร จะไม่โดนสกัดกั้นใช่ไหม”
ข่ายสื้อลินถอดแว่นดำบนใบหน้าออก แล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย “วางใจได้ ฉันได้วางแผนไว้หมดแล้ว คุณปล่อยเธอลงบนพื้น ประคองเธอไว้ ขอเพียงแค่อย่าแสดงอาการประหม่าเกินไปออกมาก็จะไม่มีอะไรแล้ว”
พูดจบข่ายสื้อลินก็สวมแว่นดำกลับไปใหม่ เดินนำหน้าไป และบางเวลายังโปรยเสน่ห์กับคนรอบข้างไปทั่ว
ฝู้จิงเหวินชินกับท่าทางของผู้หญิงคนนี้แล้ว แค่เพียงขำเล็กน้อย แล้วก็อุ้มสื้อสื้อเดินตามขึ้นไป
สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ ตลอดทางมานี้ผ่านฉลุย ไม่เห็นมีใครมาสกัดกั้นไว้
ขึ้นเครื่องอย่างราบรื่น
ที่ตระกูลจิ้นเวลานี้ จิ้นเฟิงเฉินกำลังกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขก
นาฬิกาบอกเวลาแปดโมงแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววของเจียงสื้อสื้อเลย
ถามกับพ่อบ้าน พ่อบ้านบอกแต่เวลาที่เจียงสื้อสื้อออกไป รายละเอียดว่าไปไหน พ่อบ้านก็ไม่ชัดเจน
ยิ่งเวลาผ่านไปนาน หัวใจจิ้นเฟิงเฉินก็ยิ่งบีบรัดแน่นขึ้น
โทรไปสองครั้ง ก็ไม่มีคนรับสาย ยิ่งทำให้ความวิตกกังวลของจิ้นเฟิงเฉินเพิ่มมากขึ้น เป็นห่วงจนหัวใจของเขาทะลุออกมาติดค้างอยู่ตรงลำคอแล้ว
ระหว่างนี้เขาก็ได้ลองไปตามหาตรงที่เจียงสื้อสื้อไปบ่อยๆแล้ว แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของเธอ
สุดท้ายหลังจากผ่านการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดรอบๆถนน ถึงรู้ว่าเจียงสื้อสื้อไปที่บ้านตระกูลฝู้
จากบทเรียนคราวก่อน ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกลัวฝู้จิงเหวินจะทำอะไรกับเจียงสื้อสื้ออีกครั้ง
เมื่อมองดูห้องของเล่น เห็นเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนยังเล่นอยู่ในห้อง จิ้นเฟิงเฉินจึงก้าวเข้าไปหาแล้วพูดกับเสี่ยวเป่าว่า “หนูกับน้องรออยู่ที่บ้านนะ แด๊ดดี้จะไปรับหม่ามี๊กลับมา”
ไม่รอคำตอบจากเสี่ยวเป่า จิ้นเฟิงเฉินหยิบเอากุญแจรถได้แล้วหันหลังเดินออกประตูไป
ท้องถนนในเมืองยามค่ำคืน รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูกำลังวิ่งไปข้างหน้า ด้วยความเร็วเหยียบคันเร่งจมมิด
ไม่มีใครรู้ว่า เขาเป็นห่วงและกังวลมากแค่ไหน
เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านตระกูลฝู้ดังขึ้น คนใช้ในบ้านตระกูลฝู้ก็รีบออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นจิ้นเฟิงเฉิน กำลังลังเลว่าจะให้เขาเข้ามาหรือไม่
แต่ เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของจิ้นเฟิงเฉิน เขาไม่กล้ารอช้า กลัวว่าจะทำให้พระใหญ่องค์นี้ขุ่นเคืองได้
เมื่อเข้ามาแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็เหมือนโจร ก้าวขาเดินเข้าไปในวิลล่า แล้วค้นหาไปทั่ว
ออร่ากระหายเลือดที่หลั่งออกมาจากกายเขา ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมแล้วก็ไม่เห็นวี่แววของเธอ
จิ้นเฟิงเฉินกำหมัดแน่น สภาพเหมือนคนทั้งคนได้บ้าคลั่งไปแล้ว
“สื้อสื้ออยู่ไหน!”
ห้องรับแขกอันใหญ่โตโอดอ่าดังก้องไปด้วยเสียงโกรธของเขา
“เธอถูกลูกชายฉันพาไปรักษาตัวที่อิตาลีแล้ว ตอนนี้เครื่องบินน่าจะบินออกไปแล้ว”เสียงมาจากชั้นสอง จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นมอง เห็นแต่แม่ฝู้ในชุดอยู่บ้านเดินลงมาอย่างช้าๆ
แววตาจิ้นเฟิงเฉินเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธที่จะแผดเผาพสุธาได้ สาปแช่งด่ารุนแรงออกมา แล้ววิ่งออกไป รีบโทรหากู้เนี่ยน ออกคำสั่งทันที “ตอนนี้รีบไปตรวจสอบการเข้าออกประเทศของสื้อสื้อเดี๋ยวนี้เลย ดูว่าเธอได้ออกนอกประเทศจริงหรือไม่ เช็กเบาะแสของเธอให้ชัดเจน”
เนื่องจากฝู้จิงเหวินไม่น่าไว้ใจเกินไป จึงทำให้ จิ้นเฟิงเฉินต้องระมัดระวังกับแม่ฝู้บ้างเล็กน้อย
เขากังวลว่า ที่แม่ฝู้บอกว่าไปอิตาลี แต่ในความเป็นจริง ปลายทางประเทศที่เจียงสื้อสื้อกำลังไป อาจเป็นที่อื่นก็ได้
กู้เนี่ยนรีบไปจัดการตามคำสั่งจิ้นเฟิงเฉินทันที ส่วนจิ้นเฟิงเฉินก็แจ้งไปทางสนามบินส่วนตัว ให้พวกเขาเตรียมเครื่องบินไปอิตาลี
ถึงแม้ยังไม่ยืนยัน แต่ต้องเตรียมการก่อน ถึงจะลดการสูญเสียเวลาเล็กน้อย
ทุกนาทีทุกวินาที ล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของสื้อสื้อ เขาจะล่าช้าไม่ได้
ราวก่อนวางยาเธอจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด คราวนี้ คิดจะทำอะไรอีก
เธออยู่กับฝู้จิงเหวิน เขาไม่มีทางวางใจได้เลย
ทุกๆหนึ่งนาทีผ่านไป หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินก็จมลงหนึ่งส่วน
ตามความเร็วปกติของการจัดการเรื่องต่างๆของกู้เนี่ยน เวลานี้น่าจะมีการส่งข่าวมาแล้ว แต่มือถือกลับเงียบตลอด
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกได้ว่า การไปครั้งนี้ของฝู้จิงเหวินต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน
สามารถพาเจียงสื้อสื้อหนีไปโดยรอดพ้นจากสายตาของเขาได้นั้น จะต้องมีคนคอยช่วยเขาลับๆอย่างแน่นอน
หลังจากเกิดมีความคิดเลวร้ายที่สุดแล้ว จู่ๆภายในรถก็มีเสียงมือถือดังขึ้น เขารับสายผ่านบลูทูธในรถ
“คุณชาย เช็กเจอแล้วครับ คุณหญิงได้ขึ้นเครื่องบินไปอิตาลีแล้วครับ มีคนจงใจปกปิดเบาะแสของคุณหญิง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงได้ข้อมูลมา ”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ จิ้นเฟิงเฉินใช้แรงทุบไปที่พวงมาลัย “แกรีบไปพบฉันที่สนามบินส่วนตัวทันที มุ่งหน้าไปอิตาลีกัน ”
“ครับ คุณชาย”
หลังจากวางสาย เขาก็โทรกลับไปที่วิลล่าจิ้น ฝากพ่อบ้านดูแลเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียน
จากนั้น ก็พากู้เนี่ยนตามไปที่อิตาลีทันที
ที่ความสูงระดับสามหมื่นฟุต เครื่องบินลำหนึ่งกำลังบินอย่างนิ่มนวล
เจียงสื้อสื้อค่อยๆเริ่มรู้สึกตัวจากการนอนหมดสติ รู้สึกว่ารอบๆตัวเงียบสงบและมืดด้วย
เอียงหัวไปดูก้อนเมฆด้านนอก แล้วเจียงสื้อสื้อก็ตื่นทันที
ก้อนเมฆ เธออยู่บนเครื่องบินหรือ
เธอจำภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะหลับไป คือกินข้าวอยู่กับฝู้จิงเหวินและแม่ของเขา
เมื่อหันหน้าไป ดวงตาเจียงสื้อสื้อก็เบิกกว้างที่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ฝู้จิงเหวินต้องวางยาเธออีกแล้ว มิเช่นนั้นตัวเองคงไม่หมดสติไปอย่างกะทันหัน และจู่ๆก็คงไม่ปรากฏตัวบนเครื่องบินลำนี้
หลอกลวงครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เจียงสื้อสื้อผิดหวังจริงๆ ความโกรธขึ้นหน้าทันที
สายตาที่จ้องไปฝู้จิงเหวินก็เต็มไปด้วยไฟโกรธ พูดเสียงเย็นชา “ฝู้จิงเหวิน คุณจะพาฉันไปไหน ”
“สื้อสื้อ ผมจะพาคุณไปอิตาลี………”
เมื่อฝู้จิงเหวินเห็นอารมณ์ในสายตาเธอจึงอยกจะอธิบาย
เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินคำว่าอิตาลีสามคำนี้ ก็ตัดบทฝู้จิงเหวินทันที “คุณเป็นอะไรกับฉัน ทำไมถึงตัดสินใจพาฉันไปที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นนี้ ”
เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ฝู้จิงเหวิน ขณะที่ฉันยังคำนึงถึงบุญคุณที่คุณมีต่อฉัน ทางที่ดีคุณควรจะปล่อยฉันไปเมื่อเครื่องลงจอดทันที อย่าให้ฉันต้องเกลียดคุณเลย”
ในสายตาของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจและการป้องกันตัวต่อฝู้จิงเหวิน ทันใดนั้นฝู้จิงเหวินก็รู้สึกสลดใจเล็กน้อย
“สื้อสื้อ คุณพูดแบบนี้ไม่รู้สึกใจร้ายไปหน่อยหรือ คุณมีแต่บุญคุณกับผมเท่านั้นเองหรือ”
ระยะห่างทั้งสองใกล้กันมาก ฝู้จิงเหวินชะโงกหน้ามามองเธอ ทันใดนั้นเจียงสื้อสื้อไม่รู้จะหลบไปทางไหน
ทำได้เพียงพิงพนักเก้าอี้ไว้แน่นๆ พยายามดึงระยะห่างสองคนออก
ความรู้สึกบอกเธอว่า การพาเธอหนีมาในครั้งนี้ของฝู้จิงเหวินจะต้องมีจุดประสงค์อย่างแน่นอน
หรือว่า บางทีเขาจะใช้ตัวเองข่มขู่จิ้นเฟิงเฉิน หรืออาจเป็นไปได้ว่า เขาจะพาตัวเองไปในที่ที่มืดไม่ให้ผู้คนหาเธอเจอตลอดไป …………
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกเสียวสันหลังวูบ