ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 804 ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นดี
บทที่ 804 ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นดี
เมื่อฝู้จิงเหวินเห็นเธอไม่สนใจตัวเอง รู้สึกเสียใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “สื้อสื้อ คุณจะเชื่อผมสักครั้งไม่ได้หรือ ผมเพียงแค่อยากพาคุณไปรักษาตัวที่อิตาลีก็เท่านั้น”
แม้ว่าฝู้จิงเหวินจะพยายามแสดงออกมาให้คนรู้สึกสงสาร แต่ตอนนี้เจียงสื้อสื้อมีแต่ความผิดหวังในตัวเขา
“คำพูดของคุณฉันจะไม่มีวันเชื่ออีกแล้ว เมื่อถึงอิตาลีแล้ว ฉันจะตีตั๋วกลับทันที”
ฝู้จิงเหวินพูดอย่างดื้อรั้น “ผมจะไม่ให้คุณกลับไป ผมจะรักษาโรคให้คุณ”
“จิ้นเฟิงเฉินจะรักษาให้ฉันจนหายเอง ไม่รบกวนคุณล่ะ”
เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ดวงตาฝู้จิงเหวินเต็มไปด้วยความเสียใจ
“สื้อสื้อ ในใจคุณมีแต่เขาเท่านั้นใช่ไหม”
เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินเช่นนั้น ยิ้มเย็นชา “แล้วไงล่ะ อย่างน้อยเขาก็จะไม่ทำร้ายฉัน และยิ่งจะไม่มีวันไม่เคารพความยินยอมของฉัน”
คำพูดของเธอทำให้ฝู้จิงเหวินพูดไม่ออก เขาอ้าปากออกคิดจะพูดอธิบาย แต่ในทุกสุดก็หุบปากลงอย่างหมดแรง
เจียงสื้อสื้อไม่สนใจฝู้จิงเหวินอีก เปลี่ยนที่นั่งกับคนข้างๆ แล้วพิงพนักเก้าอี้หลับตาลงพักสายตา
ฝู้จิงเหวินรู้ว่าการที่ตัวเองทำแบบนี้ ได้ทำร้ายต่อเจียงสื้อสื้อแล้ว แต่ในใจเขาไม่เสียใจแม้แต่น้อย อย่างน้อยตอนนี้เธอก็เป็นของเขาแล้ว
ข่ายสื้อลินที่นั่งอยู่ด้านหลังทั้งสอง หน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินคำพูดระหว่างเขาทั้งสอง
หวังว่าเมื่อถึงเวลาเจียงสื้อสื้อจะเชื่อฟังบ้าง
ไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็สะลึมสะลือหลับไปอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา หรือตัวเธอพักผ่อนไม่พออยู่แล้ว
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงดังของผู้คนปลุกเจียงสื้อสื้อตื่นจากฝัน มองดูคนรอบๆ เหลือไม่กี่คนแล้ว ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เจียงสื้อสื้อเร่งรีบลุกขึ้น เสื้อคลุมบนตัวหล่นลงพื้นตามการเคลื่อนไหวของเธอ
เมื่อฝู้จิงเหวินได้ยินความเคลื่อนไหวของเธอ ค่อยๆลืมตาขึ้น
“ตื่นแล้วหรือ ตอนนี้เราถึงอิตาลีแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้น เจียงสื้อสื้อไม่ตอบ เดินตรงออกไปที่ประตูทางออก
ฝู้จิงเหวินเห็นเช่นนั้น ก็รีบตามขึ้นไป
ค่ำคืนในอิตาลีอากาศเย็นเล็กน้อย เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิด้านนอก เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะถูแขนไปมา
ฝู้จิงเหวินที่เดินตามมาก็นำเสื้อคลุมคลุมไปที่ไหล่ของเธอ แล้วจับแขนเธอไว้
“สื้อสื้อ สักพักก็จะมีรถมารับพวกเราแล้ว คุณรอหน่อยนะ”
เจียงสื้อสื้อสะบักออกจากฝู้จิงเหวิน พูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่ต้องมาแกล้งทำดีอีกแล้ว ตอนนี้ฉันจะไปซื้อตั๋วขากลับ ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว”
พูดจบ เธอก็เดินไปอีกทาง ฝู้จิงเหวินเกลี้ยกล่อมตามหลัง “สื้อสื้อ ตอนนี้คุณยังกลับไม่ได้ เมื่อเรามาถึงที่นี่แล้ว ผมจะรักษาคุณให้หายอย่างแน่นอน”
“พอแล้ว”
เจียงสื้อสื้อหยุดกึกลง แล้วมองไปที่ดวงตาฝู้จิงเหวินอย่างไม่พอใจสุดขีด “กลับไม่กลับเป็นอิสระของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย………”
เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆมือข่ายสื้อลินก็ทุบไปที่ต้นคอเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อสลบไปทันที
ข่ายสื้อลินผลักคนให้ฝู้จิงเหวิน แล้วเลิกคิ้วพูด “จะพูดมากกับเธอทำไม ตีให้สลบแล้วพาไปไม่ดีกว่าหรือ ”
เห็นเจียงสื้อสื้อหมดสติไปอีกครั้ง ฝู้จิงเหวินโกรธมาก ประคองเจียงสื้อสื้อไว้แล้วพูดด้วยความขุ่นเคือง “ข่ายสื้อลิน ใครอนุญาตให้คุณทำแบบนี้ ”
เผชิญกับอารมณ์โกรธของฝู้จิงเหวิน ข่ายสื้อลินไม่ใส่ใจแม้แต่นิด ยักไหล่กล่าวว่า“ฉันทำเพื่อทุกคน หรือจะให้เธอวุ่นวายอย่างนี้ต่อไป”
“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะ หากคุณเตะต้องเธออีกครั้ง คุณรู้นะว่าผมจะทำอะไร ”
พูดจบ ฝู้จิงเหวินก็อุ้มเจียงสื้อสื้อที่หมดสติขึ้นแล้วนำหน้าไป
รับรู้ถึงกลิ่นความเปลี่ยนแปลงในตัวของฝู้จิงเหวินแล้ว ข่ายสื้อลินก็มองฝู้จิงเหวินแบบไม่แยแส
หากไม่ใช่เพราะถูกเขาข่มขู่ เธอจะไม่คิดจะใจดีกับเขาแบบนี้แน่นอน
จากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากสนามบิน รถคันสีเทาเข้มมารอรับอยู่ตรงที่ลับนานแล้ว
ข่ายสื้อลินโบกมือให้ฝู้จิงเหวิน เอาการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เขียนตัวเลขลงไม่กี่ตัวแล้วยื่นให้ฝู้จิงเหวิน
“ฉันต้องกลับไปรายงานที่ศูนย์บัญชาการก่อน เมื่อคุณหาที่พักได้แล้วอย่าลืมส่งให้ฉันด้วย นี่วิธีการติดต่อฉันในอิตาลี”
อีกอย่าง คุณอย่าลืมเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่และวิธีการติดต่อด้วย ไม่ว่าอย่างไร หากให้จิ้นเฟิงเฉินหาเจอก่อน ไม่เป็นผลดีกับทั้งคุณและฉันแน่”
ข่ายสื้อลินโบกมือลาฝู้จิงเหวิน แล้วขึ้นรถไป
มองดูรถที่จากไปไกลแล้ว นัยน์ตาฝู้จิงเหวินเปลี่ยนเป็นดุร้าย
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาลงมือกับเจียงสื้อสื้อ เกรงว่าเขาจะไม่มีวันติดต่อกับคนพวกนี้ตลอดไป
เวลานี้ มือถือดังขึ้น เพื่อนในอิตาลีของเขาโทรมา ฝู้จิงเหวินสูดหายใจลึกๆแล้วรับสาย
“จิงเหวิน ที่อยู่คอนโด ฉันได้ส่งไปให้คุณทางมือถือแล้วนะ อย่าลืมตรวจดูด้วย ถ้ามีเวลาอย่าลืมหาฉันดื่มสักสองแก้ว พบเจอกันหน่อย”
“ได้ แน่นอนอยู่แล้ว”
ถามไถ่กันสองสามประโยคแล้วฝู้จิงเหวินก็วางสายลง
ก่อนจะบินมาอิตาลี เขาได้ติดต่อเพื่อนหาที่พักพิงไว้แล้ว
เปิดมือถือออก มองดูตำแหน่งแล้ว ฝู้จิงเหวินก็เรียกรถแท็กซี่พาเจียงสื้อสื้อไปทันที
เมื่อจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว เจียงสื้อสื้อยังคงสลบอยู่ พอจะจินตนาการได้ว่าข่ายสื้อลินใช้แรงไปมากเท่าไหร่
ฝู้จิงเหวินจับและลูบไล้ไปที่ใบหน้าเธอที่กำลังหลับสนิท นัยน์ตาเผยอาการความโลภออกมาอย่างไม่รู้ตัว
มีเพียงเวลานี้เท่านั้นที่เธอเชื่อฟังที่สุด
ผ่านการเดินทางมาอย่างยาวนาน ฝู้จิงเหวินเองก็รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย มือค้ำคาง นั่งข้างเตียงนอนเจียงสื้อสื้อ แล้วหลับไป
วันรุ่งขึ้น จู่ๆเสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้น ปลุกฝู้จิงเหวินตื่น
มองดูเบอร์ ข่ายสื้อลินโทรมา
ฝู้จิงเหวินเกรงว่าจะรบกวนเจียงสื้อสื้อ รีบปิดเสียงเรียกเข้า ย่องเบาๆเดินออกไป
“วันนี้เจอกันหน่อย มีบางเรื่องต้องคุยรายละเอียดกัน”
“ได้ ตำแหน่งก็ร้านกาแฟใต้อาคารแล้วกัน ผมกลัวว่าอีกสักพักสื้อสื้อก็จะตื่นแล้ว ”
ฝู้จิงเหวินกล่าวอย่างไม่วางใจเล็กน้อย
……
หลังจากสิบนาทีผ่านไป ทั้งสองก็พบกันที่ร้านกาแฟใต้อาคาร
ฝู้จิงเหวินสวมหมวกแก๊ป กดปีกหมวกให้ต่ำลงแล้วกล่าวกับข่ายสื้อลินว่า “มีเรื่องอะไรรีบพูดมา”
ข่ายสื้อลินหยิบช้อนขนมหวานขึ้นแล้วตักขนมเค้กตรงหน้าใส่ปาก
เธอทำท่ายั่วเลียริมฝีปาก “คุณชายฝู้อย่าเพิ่งใจร้อน ที่วันนี้เรียกคุณมา แค่อยากจะมาบอกเรื่องแผนการต่อไป…………”
“จิ้นเฟิงเฉินอาจจะตามหามาในไม่ช้านี้ ดังนั้นเราต้องเร่งมือกันหน่อย ร่องรอยของเรา ฉันได้หาคนไปเก็บหมดแล้ว แต่สำหรับจิ้นเฟิงเฉินน่าจะไม่ใช่ปัญหา ฉันจะแนะนำคุณให้รู้จักกับเจ้านายโดยเร็วที่สุด แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันจำเป็นต้องเตือนคุณก่อน เจ้านายของฉันเป็นคนขี้สงสัยหวาดระแวง ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า แรกๆอาจจะมีความสงสัยคุณ หวังว่าคุณจะเตรียมใจไว้ล่วงหน้า”
“ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาเตือน หากวันนี้แค่เพียงเรื่องนี้ คุณไม่ต้องมาเสียเวลาก็ได้”
หลังจากทิ้งท้ายประโยคอย่างเย็นชาแล้ว ฝู้จิงเหวินก็เดินออกไป
มองตามหลังฝู้จิงเหวินที่เดินจากไป แล้วข่ายสื้อลินก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความสนใจ
เชอะ ที่จริง เขาแคร์เจียงสื้อสื้ออย่างมาก
คนเรา ขอแค่มีจุดอ่อนก็สามารถจะควบคุมได้แล้ว ผู้ชายที่โง่รักเช่นนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง