ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 838 เตรียมงานเลี้ยงวันเกิด
บทที่ 838 เตรียมงานเลี้ยงวันเกิด
ที่สวนสัตว์
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเถียนเถียนที่เหนื่อยล้าจากการเดิน ในมือเถียนเถียนยังมีไอศกรีมกรวยที่กินเหลือครึ่งอัน ถูไปมาบนหน้าของเขา ขณะพูดคุยกับเขา
ขณะคุยกัน มือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น เขาเอียงหัวเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้เจียงสื้อสื้อช่วยเขารับสาย
เจียงสื้อสื้อหยิบมือถือออกมา ทีแรกยังรู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่เห็นว่าจิ้นเฟิงเหราโทรมา ก็เลยรับสาย
เห็นได้ชัดว่าฝั่งนั้นก็ได้ยินเสียงดังของฝั่งนี้ พูดสั้นๆไม่กี่ประโยคแล้ววางสายไป
จิ้นเฟิงเฉินใช้สายตาสอบถามว่าเรื่องอะไร เจียงสื้อสื้อกล่าว“เฟิงเหราบอกว่าจะถึงวันเกิดอายุห้าสิบปีของแม่คุณแล้ว อยากจัดงานใหญ่ ให้พวกเราเตรียมตัวเตรียมตัว ”
จิ้นเฟิงเฉินนึกวันที่ขึ้นมา ใกล้จะถึงวันเกิดแม่จิ้นแล้วจริงๆ
เขาดึงเบาๆถักเปียของเด็กน้อย “เถียนเถียน เร็วๆนี้ใกล้จะถึงวันเกิดของคุณย่าแล้ว หนูอยากกลับไปดูไหม ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เถียนเถียนยกสองมือขึ้นทันที ผงกหัวราวกับตำกระเทียม“อยากค่ะ”
เห็นท่าทางดีใจของเถียนเถียนเช่นนี้ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนอดที่จะหัวเราะไม่ได้
เวลาค่ำ จิ้นเฟิงเฉินให้กู้เนี่ยนจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
เมื่อกลับถึงบ้าน เจียงสื้อสื้อก็เริ่มวุ่นอยู่กับการเก็บข้าวของ
ส่วนจิ้นเฟิงเฉินนั่งมองเธออยู่บนเตียง ทันใดนั้นรู้สึกว่าเวลาได้กลับไปเป็นเหมือนวันเวลาก่อน ทำให้เขามึนงงชั่วขณะ
ขณะที่เขากำลังตะลึงอยู่ เจียงสื้อสื้อหันหน้ากลับมา เกี่ยวคอเขาไว้ ก้มตัวจูบไปที่ใบหูของเขา “คิดอะไรอยู่ นอนได้แล้ว ”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มแล้วกอดเจียงสื้อสื้อไว้ในอ้อมกอด “ไม่ได้คิดอะไร นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
พวกเขาคิดอยากจะกลับบ้านอย่างสุดหัวใจ ส่วนแม่จิ้นที่อยู่ในประเทศจีน ก็ยิ่งเฝ้าตามอง
เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายก็เฝ้ามองอยู่ที่หน้าประตู ยังบ่นพึมพำอย่างกังวล
“ทำไมยังไม่กลับมา หรือว่ารถติด ”
เมื่อพูดบ่อยขึ้นส้งหวั่นชีงเองก็เริ่มสงสัยขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะเอียงหัวถามจิ้นเฟิงเหรา “ทำไมฉันจำได้ว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะถึงบ้านตอนกลางคืน หรือว่าฉันจำผิดหรือ”
จิ้นเฟิงเฉินเอาองุ่นยัดใส่ปากของเธอ กล่าวยืนยัน “คุณไม่ผิด เครื่องบินจะมาถึงตอนกลางคืน ผมจะไปรับพวกเขาที่สนามบินตอนหกโมงเย็น ตอนนี้เพิ่งจะบ่าย ก็ไม่รู้ว่าคุณแม่ใจร้อนอะไร”
“ฮิฮิ”
พ่อจิ้นเขย่าหนังสือพิมพ์ในมือ แล้วส่งสายตายาวๆมา
จิ้นเฟิงเหราขนหัวลุก แล้วกล่าวทันที “หม่ามี๊ไม่ผิด ผมจำผิดเอง”
ส้งหวั่นชีงปิดปากแอบหัวเราะ
……
ตอนกลางคืน จิ้นเฟิงเหรากำลังขับรถไปสนามบิน ในที่สุดกับรับครอบครัวทั้งสี่คนกลับมาถึงบ้าน
แม่จิ้นตั้งหน้าตั้งตารอ ในที่สุดก็รอจนหลานชายหลานสาวกลับมาถึงบ้าน แล้วกอดไว้จนไม่ยอมปล่อยมือ
แม้แต่ขณะนั่งบนโซฟาก็โอบไว้ เป็นภาพที่หายากจริงๆ
ฟางเสว่มั่นก็เหมือนกัน สองคนกอดคนละคน ยุติธรรมดี
“ที่รัก ย่าคิดถึงพวกหนูมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียงใสๆของเถียนเถียนกล่าว“เถียนเถียนก็คิดถึงคุณย่ามาก คิดถึงมากที่สุด คิดถึงพิเศษ ใช่ไหมคะ พี่ชาย”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าแรงๆ
มองดูสุดที่รักทั้งสองของหัวใจ แม่จิ้นปลื้มมานานแล้ว จับมือพวกเขาถามโน่นถามนี่ตลอดเวลา
พ่อจิ้นเห็นว่าแทรกเข้าไปไม่ได้แล้ว จึงหันไปพูดคุยกับจิ้นเฟิงเฉิน
“การเดินทางกลับมายังราบรื่นไหม แม่ของเธอรอพวกเธอเป็นวันแล้ว บ่นคิดถึงตั้งแต่เมื่อคืน จนฉันก็นอนไม่ดีไปด้วย”
ฟังความห่วงใยในน้ำเสียงของพ่อจิ้นออก จิ้นเฟิงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ทุกอย่างราบรื่นดีครับ”
จิ้นเฟิงเหราพูดต่อจากคำพูดของพ่อจิ้น กล่าวว่า “ใช่ๆ แม่มองจนตาทะลุแล้ว กินข้าวเที่ยงเสร็จก็เร่งให้ผมไปสนามบินแล้ว ผมบอกหลายครั้งแล้วว่า พี่กับพี่สะใภ้ไม่ได้มาถึงเร็วขนาดนี้ เธอก็ไม่ยอมฟัง”
ในเวลานี้แม่จิ้นมีหลานชายหลานสาว รู้สึกทุกอย่างเพียงพอแล้ว จึงไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขาเลย
ท้องส้งหวั่นชีงเริ่มมองเห็นชัด เธอค่อนข้างจะละเอียดอ่อน รู้ว่าเด็กนั่งเครื่องมานานขนาดนี้ จะต้องหิวแล้วอย่างแน่นอน
จึงถือโอกาสขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยระลึกความหลังกันอยู่ เธอก็นำผลไม้ที่เธอลงมือล้างเองมาให้พวกเขา
แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าใกล้ จิ้นเฟิงเหราก็เดินแกมวิ่งเข้ามารับจานผลไม้ไป กล่าวอย่างระมัดระวังว่า “โอ้ ทำไมคุณต้องไปล้างผลไม้ด้วยตัวเองด้วย อยากกินอะไรบอกผมได้ ผมล้างเอง สามีคุณไม่ได้มีไว้ประดับนะ ”
ส้งหวั่นชีงกลอกตาใส่เขา แต่ในดวงตากลับมีความสุขที่ปิดไม่มิด
“ฉันจะกินเองที่ไหนล่ะ จะเอาให้เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่า”
“ไม่ว่าเอาให้ใคร ก็สั่งผมมาก็พอ”
จิ้นเฟิงเหราประคองเธอนั่งลง ด้วยท่าทางระมัดระวัง ราวกับว่าเธอนั้นเป็นตุ๊กตาเซรามิคที่แตกง่าย
ตั้งแต่ที่เธอตั้งครรภ์เป็นต้นมา จิ้นเฟิงเหราก็เป็นแบบนี้ตลอด ส้งหวั่นชีงขี้เกียจจะพูดกับเขาอีกแล้ว
แต่ต่อหน้าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง
เจียงสื้อสื้อรู้สึกขำเล็กน้อย เดินไปนั่งลงข้างๆส้งหวั่นชีง ถามอย่างห่วงใยว่า“ทรมานไหม ยังอาเจียนอยู่หรือไม่ อาการอยากอาหารเป็นอย่างไรบ้าง”
“ช่วงสามเดือนแรกอาการอาเจียนรุนแรงมาก ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ฉันกินเก่งมาก พี่สะใภ้ดูซิ เหนียงฉันกลมเป็นรอบแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิ้นเฟิงเหราพูดแทรกขึ้นว่า “ไม่อ้วน ไม่อ้วนสักนิดเลย”
“ที่ไหนล่ะ คำพูดของคุณเชื่อไม่ได้ ก็เพราะคุณหลอกให้ฉันกินอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันต้องกินให้น้อยลงหน่อยแล้ว”
ส้งหวั่นชีงสงสัยว่าถึงแม้ตัวเองจะอ้วนเป็นหมูแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็ยังจะบอกเธอว่า เธอไม่อ้วนสักนิดเลย น่ารักเป็นพิเศษ
แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว
ได้ยินเธดพูดเช่นนี้ จิ้นเฟิงเหราก็กังวลขึ้นมาทันที “เมียจ๋า คุณจะลดความอ้วนไม่ได้นะ ต่อไปผมจะคอยจับตาดูคุณกินทั้งสามมื้อเลย ”
ส้งหวั่นชีงรู้สึกว่ากำลังขุดหลุมฝังตัวเอง “ไม่เอา คุณไปทำงานของคุณเถอะ ฉันไม่ให้ลูกชายคุณหิวหรอก”
พูดจบ ส้งหวั่นชีงตีไปที่จิ้นเฟิงเหราหนึ่งทีอย่างตำหนิ
“ผมไม่ได้กลัวว่าเขาจะหิว ผมกลัวคุณจะหิว”
เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็แอบขำกับความรักกันของคู่นี้
คุณชายรองจิ้นยังอยากอ้อนภรรยา แต่ส้งหวั่นชีงได้หันกลับไปพูดคุยกับเจียงสื้อสื้อแล้ว จึงได้ปล่อยไป
“เฟิงเหราพูดถูก ตอนนี้เธอกินของคนสองคน กินเยอะหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องจงใจลดความอ้วนหรอก ไม่อย่างนั้นโภชนาการเด็กจะตามไม่ทัน”
เจียงสื้อสื้อส่งต่อประสบการณ์ของตนเอง
ส้งหวั่นชีงยิ้ม แล้วขยับเข้าไปใกล้ กล่าวเสียงเบา“พี่สะใภ้ ฉันพูดไปอย่างนั้นเอง ฉันจะไม่กินน้อยลง คุณไม่รู้หรอกว่าเฟิงเหราน่ากลัวแค่ไหน ขอแค่ฉันบอกว่าอยากกินอะไร เขาก็จะซื้อกลับมาเต็มกระโปรงหลังรถ คุณว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ฉันจะอดใจไหวได้ไง”
เจียงสื้อสื้ออดขำไม่ได้ แล้วถาม“ฉันได้ยินว่าก่อนหน้านั้นคุณวิงเวียนล้มลง เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไร แผนกของเราช่วงก่อนค่อนข้างจะยุ่ง ก็แค่ทำโอทีไปหน่อย ก็ไม่รู้ว่าอย่างไง ก็วิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร เฟิงเหราก็ไม่เชื่อ จะให้ฉันลาออกมาอยู่บ้านให้ได้ ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆน่าเบื่อมาก ก็ยังอยากออกไปทำงานอยู่ ”
เมื่อส้งหวั่นชีงพูดถึงเรื่องนี้ รู้สึกว่าจิ้นเฟิงเหราทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็รีบพูดขึ้นว่า “งานของเธอยุ่งมากไปจริงๆ พักผ่อนอยู่บ้านอย่างสบายใจก่อนจะดีกว่า รอให้คลอดลูกก่อนแล้วค่อยไปทำงานจะดีกว่า”
แม่จิ้นกับฟางเสว่มั่นก็เห็นด้วย ส้งหวั่นชีงตั้งใจฟังทั้งสามคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนต่างเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองให้ฟัง
พร้อมกับจับและลูบท้องไปพลัน รู้สึกว่าชีวิตตอนนี้สวยงามเป็นพิเศษ
วันที่สอง คนทั้งครอบครัวเริ่มปรึกษากันเรื่องเตรียมงานวันเกิดอายุห้าสิบปีของแม่จิ้น
พี่น้องตระกูลจิ้นกับพ่อจิ้นปรึกษากันแล้วตัดสินใจไม่ไปโรงแรม จัดที่ห้องจัดเลี้ยงในบ้านนี่แหละ
พ่อลูกสามคนรับผิดชอบดูรายชื่อแขก ส่วนเจียงสื้อสื้อกับส้งหวั่นชีง ก็ไม่อยู่เฉย ขอไปยืนยันเหล้าน้ำและอาหารประเภทเย็นกับพ่อบ้าน
มันคือวันเกิดของแม่จิ้น จะมีเรื่องผิดพลาดไม่ได้