ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 854 พอๆๆ ฉันให้เธอ
บทที่ 854 พอๆๆ ฉันให้เธอ
“ตกลง!”
คุณท่านยกมือขึ้นชนริมฝีปากแล้วไอสองสามครั้ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งไขว้ไว้ข้างหลัง ทำท่าทางน่าเกรงขามของผู้อาวุโส
เขาเหล่มองจิ้นเฟิงเหราแล้วส่งเสียงเฮอะเบาๆ “เห็นหน้าของสื้อสื้อ ฉันจะให้เลือกอะไรไปก็ได้ตามใจ!”
จิ้นเฟิงเฉินมองสีหน้าที่แสร้งทำเป็นเคร่งขรึมของคุณท่านด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
เขารู้ว่าไม่มีใครสามารถต้านทานการออดอ้อนของภรรยาเขาได้
ครั้งนี้คนที่คนที่เคร่งขรึมราวกับเฒ่าทารกอย่างคุณตาเขาอดที่จะโล่งใจไม่ได้
คุณท่านที่มองออกว่าจิ้นเฟิงเฉินกำลังหัวเราะเยาะตัวเองจึงถลึงตามองเขาอย่างฉุนเฉียว
จากนั้นก็หันหน้ามายิ้มให้เจียงสื้อสื้ออย่างเป็นมิตรแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆเพราะกลัวว่าหากเสียงดังอาจทำให้เธอตกใจ
“สาวน้อย เลือกได้ตามสบายเลยนะ! ของของตาสามารถให้หนูได้อยู่แล้ว”
“คุณตาครับ ผมว่าหยกเลือดในร้านของคุณตา…”
จิ้นเฟิงเฉินพูดในเวลาที่เหมาะเจาะ เขาจงใจยืดเสียงในตอนท้าย แล้วมองคุณท่านอย่างมีความหมาย
รอยยิ้มของคุณท่านแข็งทื่อค้างอยู่บนหน้าทันที เขาหันหน้ามาตะคอกใส่จิ้นเฟิงเฉินทันควัน “เอ้! เจ้าเด็กบ้านี่ยังเอาแต่คิดเรื่องหยกเลือดนั่นอยู่ได้ ฉันจะบอกแกให้นะว่า ไม่มีทาง!”
เจียงสื้อสื้อมองฉากปะทะฝีปากของสองปู่หลานก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ทั้งๆที่คุณตาเป็นคนเคร่งขรึมขนาดนั้น ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าเฟิงเฉินถึงได้น่ารักขนาดนี้
“อะแฮ่ม”
เมื่อตระหนักว่าภาพลักษณ์อาจจะหายไปตลอดกาล คุณท่านก็หน้าแดง เพิกเฉยต่อจิ้นเฟิงเฉิน แล้วพูดกับเจียงสื้อสื้ออย่างจริงจังว่า “สาวน้อย รีบไปเลือกเถอะ!”
จากนั้นก็เสริมต่ออีกว่า “ถ้าหนูชอบหยกเลือดจริงๆก็เอาไปได้เลย”
เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางพยักหน้า “ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณตา”
หากบอกว่าในใจไม่รู้สึกซาบซึ้งก็คงจะไม่ใช่ความจริง
คุณท่านหวงหยกเลือดชิ้นนั้นมากๆ แต่กลับพูดออกมาว่าสามารถให้เธอได้
มันเพียงพอที่จะเห็นแล้วว่าเขารักและเอ็นดูเธอจริงๆ
“เจ้าเด็กบ้า ไป ไปเล่นหมากรุกกับฉัน”
คุณท่านลากจิ้นเฟิงเฉิน หยิบกระดานหมากรุกแล้วลากเขาไปนั่งที่สวน
หลังจากทั้งสองจากไป เจียงสื้อสื้อก็เดินเล่นในร้าน
สไตล์ร้านขายของโบราณค่อนข้างโบราณ ของในร้านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
ในร้านมีหยก ภาพอักษร รวมทั้งของที่หาดูได้ยากในท้องตลาดจำนวนมาก
ของมีเยอะมาก เจียงสื้อสื้อจึงไม่รู้ว่าควรจะเลือกอะไรเป็นของขวัญคุณท่านฟางถึงจะดี
เธอแอบเสียดายที่เมื่อวานตอนที่เจอคุณท่านฟางไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ
ทันใดนั้นเจียงสื้อสื้อก็นึกขึ้นได้ เธอจึงหยิบโทรศัพท์กดโทรหาฟางยู่เชิน
โทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้งสายก็ถูกรับ
“สื้อสื้อ มีอะไรรึเปล่า?”
“มีค่ะ พี่คะ ฉันอยากถามว่าคุณตาค่อนข้างชอบอะไรคะ?”
เจียงสื้อสื้อถามอย่างตรงไปตรงมา
แม้ว่าเมื่อวานเธอจะไปเลือกของขวัญสำหรับการพบเจอกับฟางยู่เชินให้คุณท่านฟาง แต่เธอก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรมากเกี่ยวกับความชอบของคุณท่านฟางมากมาย
เมื่อวานนี้ด้วยความรีบ หลังจากฟังคำแนะนำจากฟางยู่เชินจึงซื้อสายลูกประคำโดยไม่ได้ถามเพิ่มเติม
ฟางยู่เชินครุ่นคิดสักพัก “คุณท่านชอบของที่เกี่ยวกับยา”
“ยา?”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกมึนงง ฟางยู่เชินก็ให้คำตอบว่า “อืม”
เธอผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากกล่าวขอบคุณแล้วก็วางสาย
ของที่เกี่ยวกับยา…
เจียงสื้อสื้อคิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับยาชั่วขณะ
เธอจึงได้แต่เดินคอตกเข้าไปดูในร้านอย่างละเอียด
ไม่ละเลยทุกมุมที่อาจมองข้ามไป
เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าในร้านขายของโบราณของคุณตามีชั้นหนังสือเล็กๆ
หนังสือข้างบนมีอยู่ไม่มากนัก เธอกวาดตามอง พบว่าส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เก็บสะสมไว้เมื่อหลายปีก่อน
เจียงสื้อสื้อเกิดความสนใจจึงไล่ดูที่หน้าชั้นหนังสือเล็กๆ
ฟ้าย่อมเมตตาต่อผู้ที่พยายาม
เธอดูอยู่นานก็เจอหนังสือเกี่ยวกับวัตถุดิบยาอย่างไม่คาดคิด
ปกหนังสือทำจากพวกกระดาษหนังสัตว์ แม้ว่าจะถูกเก็บไว้อย่างดี แต่มันก็เก่ามาก ดูเหมือนว่าจะเก็บไว้นานมาก
หน้าปกไม่มีอะไรอย่างอื่น มีเพียงตัวอักษรที่เลือนรางสามตัว
น่าจะเก็บไว้นานเกินไปจึงทำให้มองไม่ออกแล้วว่าเขียนว่าอะไร
เกี่ยวกับเรื่องยา นี่มันเป็นสิ่งที่เธอกำลังหาไม่ใช่หรอ?
เจียงสื้อสื้อเปิดมันขึ้นมาดูอย่างสนใจ
ด้านหน้าๆเธอยังอ่านเข้าใจอยู่บ้าง มันคือสมุนไพรบางอย่างรวมถึงคำแนะนำในการใช้งานเป็นต้น
ยิ่งอ่านต่อไปเรื่อยๆคำศัพท์เฉพาะก็ยิ่งเข้าใจยากมากขึ้นเท่านั้น
เจียงสื้อสื้อจึงตัดสินในไม่อ่านต่อ เธอปิดหนังสือแล้วถือออกไป
เธอเดินมาพร้อมกับหนังสือ “คุณตาคะ หนูเลือกได้แล้ว”
เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของกระดานหมากรุกที่สองคนนั่งจากนั้นก็ชูหนังสือออกมา
คุณท่านจับจ้องดูก็พูดอย่างประหลาดใจ “โอเค สาวน้อย พอเลือกก็เลือกของดีทีเดียว”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้ว
เขาไม่ได้ดูถูกหนังสือเพราะมันดูไม่สะดุดตา แต่รอให้คุณท่านพูดต่อเงียบๆ
บ่อยครั้งที่ของที่ยิ่งไม่อยู่ในสายตาก็ยิ่งมีค่า
“หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่าตำราสูตรยาร้อยแปด”
คุณท่านรับหนังสือ ใช้นิ้วถูชื่อหนังสือที่เลือนรางบนหน้าปกเบาๆ
“เป็นของเก็บสะสมของเพื่อนเก่า ว่ากันว่าสืบทอดกันมานานหลายร้อยปี”
สำหรับคนธรรมดา ตำราสูตรยาร้อยแปดเล่มนี้อาจไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
แต่สำหรับผู้รู้ สิ่งนี้มันมีค่าเกินประเมินเลยล่ะ!
เจียงสื้อสื้อกะพริบตามองคุณท่านแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม”ที่แท้ก็เป็นหนังสือที่เก็บสะสมที่มีค่านี่เอง หนูต้องขอบคุณคุณตามากนะคะ!”
คุณท่านยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วส่ายหน้าโบกมือพร้อมพูดว่า “พอๆๆ ฉันให้เธอ”
“พวกเธอสองสามีภรรยาเอาของสะสมแสนล้ำค่าของฉันไปหมดแล้ว อีกหน่อยต้องมาหาฉันเยอะๆนะ”
เขาถือโอกาสเรียกร้อง
เจียงสื้อสื้อตอบด้วยรอยยิ้ม เธอวางตำราสูตรยาร้อยแปดไว้ข้างๆจิ้นเฟิงเฉินแล้วลุกขึ้น “คุณตาคะ หนูไปชงชาให้นะคะ เล่นต่อกันเลย”
“เอาสิ”
คุณท่านตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม
เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปในร้านอย่างคุ้นเคยทาง หยิบชุดน้ำชาและกระป๋องชาที่คุณท่านมักดื่มออกมา
เธอทำความสะอาดชุดน้ำชาแล้วต้มน้ำในกาใบเล็ก
จากนั้นก็ต้มชาอย่างคล่องแคล่ว สุดท้ายเจียงสื้อสื้อก็ยกกาน้ำชาเดินออกมา
เธอรินน้ำชาให้คุณท่านและจิ้นเฟิงเฉินคนละแก้ววางไว้ใกล้มือ
จากนั้นเธอก็นั่งดูทั้งสองเล่นหมากรุกเงียบๆ
คุณท่านกับจิ้นเฟิงเฉินต่างก็เป็นเซียนหมากรุกทั้งคู่
ครั้งนี้เกมดำเนินมาได้นานแล้ว แต่ยังไม่รู้ผล
ใบหน้าของคุณท่านเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในคู่ต่อสู้ ตั้งใจที่จะชนะหมากรุกเกมนี้
เวลาค่อยๆผ่านไป ไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเที่ยง
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินจึงทานอาหารกลางวันที่ร้านของคุณท่านด้วยกัน
“55 เฟิงเฉิน ทักษะการเล่นหมากรุกของแกพัฒนาขึ้นแล้ว! เล่นหมากรุกกับแกสนุกที่สุดจริงๆ!”
คุณท่านเล่นอย่างมีความสุข จึงอดไม่ได้ที่จะดื่มเหล้าในตอนเที่ยง
เดิมทีเขาอยากลากจิ้นเฟิงเฉินมาดื่มเหล้าด้วยกัน แต่จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธ
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองหนังสือสะสมที่สื้อสื้อเลือกจึงตั้งใจพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับคุณตา และสำหรับที่ตาน้ำใจกับสื้อสื้อด้วยครับ”
คุณท่านมองเขาด้วยความโกรธ จากนั้นพึมพำว่า “แกไม่รู้อะไร กลุ่มคนแก่พวกน้ำเล่นสู้ฉันไม่ได้ก็ขี้เกียจ เล่นหมากรุกกับพวกเขาแทบจะทำเอาอัดอั้นตายอยู่แล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“อีกหน่อยถ้าว่างๆ พวกเธอก็พาพวกเถียนเถียนมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน”
ก่อนจากคุณท่านก็กำชับเขาอย่างอาลัยอาวรณ์