ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 866 สะใภ้มีไว้ตามใจ
เดิมทีคุณท่านตระกูลฟางที่ถูกกดก็ชนะแบบนี้
ฟางเถิงที่ดูก็ตะลึงสักพัก แล้วหันไปมองเจียงสื้อสื้อที่กำลัง “ยักคิ้ว” ใส่จิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าแปลกใจ
“คิดไม่ถึงว่าสื้อสื้อเธอก็เล่นหมากรุกเป็นนะเนี่ย!”
เจียงสื้อสื้อจัดหมากรุกให้ดี ได้ยินแล้วยิ้มบางๆ “ฉันไม่เข้าใจ แต่ว่าดูบ่อยๆ ก็รู้นิดหน่อยค่ะ”
คุณท่านตระกูลฟางยิ้มสดใส แล้วพูดอย่างมีความหมาย “เกรงว่ามีคนตั้งใจยอมเธอมั้ง”
มีชีวิตอยู่ในวัยของเขา ก็เหมือนยอดมนุษย์ จะดูไม่ออกได้ยังไงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่ว่า ก็แสดงให้เห็นทางอ้อม จิ้นเฟิงเฉินตามใจและรักจิ้นเฟิงเฉินมากขนาดไหน
คุณท่านตระกูลฟางพูดจบ แล้วมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินแล้วยิ้มตาหยี
อีกคนก็ยิ้มตอบ ถือว่ายอมรับแล้ว
เจียงสื้อสื้อก็รู้ตัว ใบหน้าเล็กๆ สีขาวแดงขึ้นมาเล็กน้อย
เธอมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยความโกรธ
ในเมื่ออยากเล่นหมากรุกกับคุณตา ก็ต้องเล่นกับคุณตาดีๆ สิ
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอด้วยสายตาที่รักใคร่
สะใภ้ ก็มีไว้ตามใจนี่นา
ฟางเถิงก็รู้ตัว นั่งอยู่ข้างๆ แล้วหัวเราะ ทั้งครอบครัวมีความสุข
คุณท่านตระกูลฟางและจิ้นเฟิงเฉินเล่นอีกหลายตา ฟางเถิงที่อยู่ข้างๆ ก็ดูจนคันมือ
ทั้งสามคนผลัดกันเล่นเกือบครึ่งวัน
ใกล้ถึงเที่ยง เสี่ยวเป่าและฟางยู่เชินถึงจะกลับมาจากด้านหลัง
“หม่ามี๊!”
เสี่ยวเป่ากอดของเล่นเต็มไม้เต็มมือหาเธอ “ของเล่นพวกนี้คุณอาให้ผม ดูสิครับ เท่มากใช่ไหม!”
เจียงสื้อสื้อมองดู ไม่ได้การแล้ว
ในอ้อมกอดของเด็กน้อยกอดของเล่นเต็มไปหมด ยิ้มร่าเริงเหมือนได้ของรัก
พวกนั้นคือของรักที่ฟางยู่เชินเก็บสะสม
เช่นหุ่นยนต์ลิมิเต็ดอิดิชั่นต่างประเทศ ฝีมือประณีต แค่ดูก็รู้ว่าเป็นของชอบของเด็กผู้ชาย
หรือเครื่องบินไฮเทคทุกชนิด โมเดลรถถัง
ส่วนใหญ่เป็นของเล่นที่เด็กผู้ชายและวัยรุ่นชอบ นำมาเก็บสะสมก็เยอะมาก
เสี่ยวเป่ากอดไว้เยอะมากจนบังหน้าของเขา
“เสี่ยวเป่า! นายเอาของของคุณอาเยอะขนาดนี้ได้ยังไง?”
เจียงสื้อสื้อดูออกมามีหลายอย่างเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของต่างประเทศ ถามเสี่ยวเป่าทันที
ต่อให้เธอไม่รู้จัก ก็สามารถดูออกว่าของพวกนั้นมีค่าขนาดไหน
เสี่ยวเป่ากะพริบตา เผยสีหน้าเสียดาย
เหมือนว่ากำลังคิดว่าสุดท้ายก็ต้องนำของพวกนี้คืน
แต่ว่า เขาก็ชอบมากๆ
ฟางยู่เชินยิ้มแล้วลูบหัวของเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่าชอบก็ให้ เอากลับไปทั้งหมดก็ยังได้”
เขาคิดสักพักแล้วพูดเสริม “สื้อสื้อ เธออย่าเข้มงวดขนาดนี้ อายุของเสี่ยวเป่าตอนนี้เป็นช่วงที่กำลังชอบของเล่น”
เสี่ยวเป่าดีใจจนกระโดดทันที ยิ้มตาหยีแล้วพูดกับฟางยู่เชิน “คุณอาเป็นคนดีที่สุดเลยครับ!”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว ทำเป็นเข้มงวดแล้วมองเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าเข้าใจความหมายของสายตาของเจียงสื้อสื้อ แล้วรีบขอบคุณฟางยู่เชิน “เสี่ยวเป่าขอบคุณคุณอามากๆ เลยครับ!”
เจียงสื้อสื้อและคนที่อยู่ในเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
คุณท่านตระกูลฟางก็ชอบเสี่ยวเป่าว่าเป็นเด็กดี
ขณะนี้ เถียนเถียนและซ่างหยิงก็ออกมาจากห้องครัว
มือเล็กๆ อ้วนๆ ของเธอถือถาด เดินอย่างระมัดระวังมาที่ห้องนั่งเล่น
“แด๊ดดี้ หม่ามี๊! พวกท่านรีบมาชิมคุกกี้ที่เถียนเถียนทำ!”
เจียงสื้อสื้อกลัวเถียนเถียนถือไม่ไหวแล้วทำตก รีบเดินไปช่วยยกมาที่โต๊ะ
เถียนเถียนเงยหน้าใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ
เธอหยิบหนึ่งชิ้นขึ้นมาแล้วยื่นไปที่คุณท่านตระกูลฟางก่อน ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความสดใสจ้องมองไปที่เขา
“คุณตาทวดคะ! ท่านชิงดูสิ อันนี้เถียนเถียนเป็นคนปั้น!”
อย่าพูดเลยว่าการกระทำแบบนี้ของเถียนเถียนทำให้คุณท่านตระกูลฟางมีความสุขมากขนาดไหน
แม้ปกติเขาไม่ชอบกินขนมแบบนี้ แต่ก็ทนเมินความกระตือรือร้นของเถียนเถียนไม่ได้ อ้าปากกินเข้าไป
เพราะมีซ่างหยิงสอนอยู่ข้างๆ ดังนั้นคุกกี้จึงไม่หวานจนเลี่ยน
คุณท่านตระกูลฟางพยักหน้า ยกนิ้วโป้งให้เถียนเถียน “คุกกี้ที่เถียนเถียนทำอร่อยมาก!”
เถียนเถียนหัวเราะเอิ๊กอ๊าก กระโดดลงจากโซฟาและแบ่งคุกกี้ให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์
สุดท้าย คุกกี้เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ในมือของเถียนเถียนและเสี่ยวเป่า
เจียงสื้อสื้อเห็นเถียนเถียนกินคุกกี้ทีละชิ้นไม่หยุด สุดท้ายก็ห้ามไว้
“เถียนเถียน เธอห้ามกินคุกกี้เยอะขนาดนี้ เดี๋ยวจะกินอาหารกลางวันแล้วนะ”
“แต่ว่าเถียนเถียนเป็นคนทำนะคะ!”
“กินข้าวตรงเวลาถึงจะเป็นสาวน้อยที่สวยงามนะ!”
เถียนเถียนได้ยิน รีบวางคุกกี้ในมือลงอย่างเชื่อฟัง
ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา
หลังจากที่ทำอาหารกลางวันเสร็จ ลุงใหญ่ฟางเฉิงและลุงรองฟางรุ่ยก็มาโดยไม่ได้รับเชิญ
ตั้งแต่เข้ามา เสียงแหลมดังของป้าใหญ่หลินหลานก็ดังออกมา
“พ่อคะ! พวกเรามาเยี่ยมท่านและสื้อสื้อแล้วค่ะ”
ได้ยินเสียงของหลินหลาน รอยยิ้มบนใบหน้าคุณท่านตระกูลฟางจางลงทันที “ฉันให้พวกเธอมาเหรอ?”
“คุณพ่อพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ? กว่าสื้อสื้อจะกลับมา พวกเราทั้งครอบครัวก็ควรกินข้าวด้วยกันนี่นา”
ป้ารองเฉินหยุนทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าเย็นชาของคุณท่านตระกูลฟาง มาพร้อมกับรอยยิ้ม
คุณท่านตระกูลฟางรู้ว่าสองครอบครัวนี้มีความคิดยังไง
แต่ถึงยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ปฏิเสธ
หลังจากที่สั่งให้พ่อบ้านเพิ่มตะเกียบและถ้วยสองสามชุด ครอบครัวใหญ่ก็นั่งลง
บนโต๊ะอาหาร จุดประสงค์ของฟางเฉิงและฟางรุ่ยสองครอบครัวก็เปิดเผย
พวกเขาคิดวิธีที่จะคุยกับจิ้นเฟิงเฉิน
“คือว่า เฟิงเฉิน ฉันเรียกนายแบบนี้ ได้ใช่ไหม”
ฟางเถิงอาศัยอายุมากกว่า ลองพูด
เห็นสีหน้าขเย็นชาของจิ้นเฟิงเฉิน ไม่ปฏิเสธก็ถือว่ายอมรับแล้ว
ฟางเฉิงและฟางรุ่ยเริ่มจากชมลูกสองคนของจิ้นเฟิงเฉิน สุดท้ายก็เปลี่ยนเรื่องคุยถึงบริษัทของตระกูลจิ้น
“เฟิงเฉิน ได้ยินมาว่าช่วงนี้จิ้นซื่อกรุ๊ปจะลงทุนโครงการไฮเทคของหลินซื่อ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า?”
ฟางรุ่ยลองถาม
ดวงตาของฟางเฉิงหมุน รีบพูดแทรก “ฉันได้ยินมาว่าคนของหลินซื่อกรุ๊ปได้ใจมาก อวดไปทั่ว เรื่องนี้……น่าจะไม่หนีใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินเงียบไม่พูดก่อน คีบเนื้อปลาชิ้นใหญ่ให้เจียงสื้อสื้อ
หลังจากที่แกะก้างปลาที่อยู่ด้านในออกให้หมด ถึงจะเงยหน้าขึ้น พูดกับสองคนนั้นนิ่งๆ “ปัจจุบันงานในประเทศน้องชายของฉันเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าคุณน้ารองท่านยังมีคำถามอะไร สามารถไปถามน้องชายของฉัน”
ประโยคนี้ ทำให้คำพูดที่ฟางเฉิงและฟางรุ่ยเตรียมมา ถูกกั้นไว้หมด
ถ้าพวกเขาสองคนสามารถติดต่อจิ้นเฟิงเหรา
จะถึงขั้นมากินอาหารมื้อนี้ถึงบ้านใหญ่ตระกูลฟางโดยเฉพาะไหม?
นั่นก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับจิ้นเฟิงเฉิน?
ไม่งั้นบ้านไหนก็มีปัญญากินอาหารมื้อนี้
เจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้เกี่ยวกับงานของบริษัท เธอเหลือบมองใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของคุณน้ารองท่าน ในใจกลับพูดไม่ออกเล็กน้อย
จุดประสงค์นี้ชัดเจนเกินไปแล้ว