ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 869 กลับฝรั่งเศส
ได้ยินชื่อของฟางยู่เชินอย่างกะทันหัน ทำให้ฟางเสว่มั่นชะงักไปชั่วขณะ
ความทรงจำปรากฏ เหมือนเปิดหนังสือที่มีฝุ่นหนาเกาะไว้มากมาย
เธอ……นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้?
จมูกของฟางเสว่มั่นเกิดอาการแสบเล็กน้อย “พี่ พี่ชายของเธอมาหาเธอเมื่อไร? เขาพูดอะไรบ้าง?”
ดึงสติกลับมา ฟางเสว่มั่นจับมือเจียงสื้อสื้อแน่น มองไปที่เธออย่างประหม่าและคาดหวัง
เจียงสื้อสื้อก็ลูบนิ้วมือเย็นๆ ของเธอ
“พี่ชายบอกว่าคุณตาตามหาท่านมาตลอด อยากพบท่านในวันเกิดอายุแปดสิบ”
เธอคิดสักพัก เลือกพูดส่วนที่สำคัญ
ฟางเสว่มั่นบีบมือของเจียงสื้อสื้อแน่นโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้……
เธอจำวันเกิดของพ่อได้ตลอด
เจียงสื้อสื้อหยุดสักพักแล้วพูดต่อ “แต่ว่าตอนนั้นท่านยังไม่ตื่น ฉันก็ไม่ได้บอกคุณตาเรื่องที่ท่านป่วย แม่คะ ฉันไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ในนามของท่าน ท่านจะโทษฉันไหม?”
ฟางเสว่มั่นสูดจมูก ดวงตาแดงก่ำและส่ายหน้า “ฉันจะโทษเธอได้ยังไง? สื้อสื้อ คุณตาของเธอเขา……ไม่อยาก ไม่อยากเจอฉันใช่ไหม?”
น้ำเสียงของฟางเสว่มั่นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและวิตกกังวล
เหมือนเจียงสื้อสื้อมองเห็นเมื่อหลายปีก่อน ฟางเสว่มั่นในวัยสาวในท่าทางที่เสียใจมาก
หลายปีแล้ว แม่ของเธอต้องเสียใจและรู้สึกผิด
“แม่คะ คุณตาเขาไม่โทษท่าน และเหมือนคุณยาย คิดถึงท่านมาก เป็นห่วงท่านอยู่ตลอดเวลา”
เจียงสื้อสื้อไม่พูดเรื่องที่คุณยายเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
ยากมากที่คุณแม่จะฟื้น และรับไม่ได้กับการกระตุ้นนี้
แต่ได้ยินประโยคนี้ของเธอ สำหรับฟางเสว่มั่นถือเป็นเรื่องที่วุ่นวายมาก
เสียใจ คิดถึง และรู้สึกผิดทุกอารมณ์รวมกัน พุ่งเข้ามาในหัว
ทำให้ตาของฟางเสว่มั่นแสบ น้ำตาในตาก็กลั้นไม่ไหว ไหลลงมา
“ฉันน่าจะรู้เร็วกว่านี้ ฉันน่าจะเดาได้”
ฟางเสว่มั่นสะอึกสะอื้น
หลายปีนี้เธอกำลังทำอะไร? เพราะกลัว ดังนั้นจึงไม่กล้ากลับไป
เธอกลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาผิดหวังของพ่อ
เธอคิดมาตลอดว่าพ่อจะไม่มีทางให้อภัยเธอ
แต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึง ขณะที่เธอกำลังคิดถึงบ้าน พ่อแม่ก็กำลังคิดถเธอมาโดยตลอด!
“หลายปีนี้ฉันไม่กล้ากลับไป ฉันกลัวว่าตาและยายของเธอจะไม่ให้อภัยฉัน ฉัน……”
พูดจบ ฟางเสว่มั่นร้องไห้ไม่เป็นเสียง
เจียงสื้อสื้อรู้ อารมณ์ของฟางเสว่มั่นขึ้นมาแล้ว ไม่ให้เธอพูดจบก็ไม่ดี
ดังนั้น เธอลูบหลังของฟางเสว่มั่นและฟังเธอพูด
ฟางเสว่มั่นในตอนนี้ก็เป็นแค่คนที่ออกจากบ้านหลายปีและคิดถึงบ้าน
“ได้แล้ว แม่คะ ท่านไม่สามารถมีอารมณ์มากเกินไป”
เจียงสื้อสื้อเห็นฟางเสว่มั่นสงบลงไม่น้อย ใช้โอกาสนี้พูดปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ตอนนี้ท่านก็รักษาสุขภาพ จากนั้นค่อยกลับไปเยี่ยมเขา ดีไหมคะ?”
เจียงสื้อสื้อปลอบ อารมณ์ของฟางเสว่มั่นก็นิ่งลง
เมื่อฟังแล้ว ฟางเสว่มั่นพยักหน้าเบาๆ
เจียงสื้อสื้อประคองฟางเสว่มั่นกลับห้องผู้ป่วย ตลอดทางพยายามหาเรื่องสบายๆ คุยกับเธอ
แต่ก็ห้ามไม่ได้ที่ฟางเสว่มั่นสงสัยว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างตลอดสองวันที่เธอไปบ้านตระกูลฟาง
เจียงสื้อสื้อทำอะไรไม่ได้ ก็เล่าให้เธอฟังทีละเรื่อง
เมื่อได้ยินว่าคุณท่านตระกูลพอใจในตัวจิ้นเฟิงเฉิน ฟางเสว่มั่นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
คนที่สามารถทำให้คุณท่านพยักหน้าพอใจนั้นน้อยมากๆ
เจียงสื้อสื้อคุยกับฟางเสว่มั่นในห้องผู้ป่วย สองแม่ลูกมีบรรยากาศที่กลมกลืนกัน
ในเวลากลางคืน รอฟางเสว่มั่นหลับแล้ว เจียงสื้อสื้อถึงจะค่อยๆ เดินออกจากห้องผู้ป่วยเงียบๆ
เมื่อกลับถึงบ้านตระกูลจิ้น ท้องฟ้ามืดหมดแล้ว
เจียงสื้อสื้อถึงบ้านไม่นาน จิ้นเฟิงเฉินก็กลับมาแล้ว ทั้งสองเหมือนหัวใจเชื่อมต่อกัน
จิ้นเฟิงเฉินกลับมา ก็กอดเจียงสื้อสื้อทันที คุยเรื่องกลับฝรั่งเศสกับเธอ
“ฉันต้องกลับฝรั่งเศสเพื่อจัดการเรื่องโอนงาน และสถานะการณ์เรียนของเสี่ยวเป่าก็ต้องย้ายมา”
แน่นอน ที่สำคัญที่สุดคือ เขายังต้องพาโม่เหยียและหานยู่กลับมา
พวกเขาอยู่ ถึงจะสามารถจัดการกับไวรัสในร่างกายของสื้อสื้อได้ตลอดเวลา
เจียงสื้อสื้อก็เพิ่งจะนึกถึงเรื่องนี้
ช่วงนี้เรื่องเยอะมากจนทำให้เธอลืมเรื่องนี้
“ฉันก็อยากกลับฝรั่งเศสกับนาย ได้ไหม?”
เธอเงยหน้าจากอ้อมกอดของจิ้นเฟิงเฉิน มองเขาด้วยความคาดหวัง
กลัวจิ้นเฟิงเฉินไม่ตกลง เจียงสื้อสื้อคิดแล้วพูดเสริม “ฉันอยากทักทายพ่อแม่ของฝู้จิงเหวินก่อน”
จิ้นเฟิงเฉินฟังแล้ว หลังจากคิดไปหลายวินาที ก็พยักหน้าตกลง
สองสามีภรรยาพูดว่าจะทำก็ทำเลย จิ้นเฟิงเฉินจองตั๋วเครื่องบินของเช้าวันต่อมา
จากนั้นก็บอกพ่อจิ้นและแม่จิ้น
เพราะเป็นห่วงว่าทั้งสองท่านอยู่บ้านจะเบื่อ เจียงสื้อสื้อให้เสี่ยวเป่าอยู่ต่อ แล้วพาเถียนเถียนไปด้วย
ก่อนจากกันเสี่ยวเป่ากลั้นน้ำตาและกอดเจียงสื้อสื้อแน่น
“หม่ามี๊ เสี่ยวเป่าจะเป็นเด็กดีครับ แต่ว่าท่านต้องกลับมาเร็วๆ”
“อื้อ! หม่ามี๊ต้องคิดถึงนายแน่ๆ ช่วงเวลานี้ก็เข้ากับคุณปู่คุณย่าดีๆ”
เจียงสื้อสื้อกุมใบหน้าเล็กๆ ของเสี่ยวเป่า หอมแก้มของเขาแรงๆ หนึ่งที
จากนั้นออกจากบ้านตระกูลจิ้น ในสายตาที่ไม่อยากให้แยกกัน
ถึงฝรั่งเศส ผ่านมาสิบกว่าชั่วโมงแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเถียนเถียนที่นอนหลับ พาเจียงสื้อสื้อกลับบ้านไปพักผ่อน จนถึงช่วงบ่าย ก่อนที่จะไปที่บริษัทเพื่อจัดการงาน
ส่วนเจียงสื้อสื้อหลังจากที่รอเถียนเถียนตื่น ก็พาเธอไปเยี่ยมพ่อแม่ของฝู้จิงเหวิน
มองอาคารบ้านที่คุ้นเคย เจียงสื้อสื้อกดกริ่ง
คนที่เปิดประตูคือแม่ของฝูัจิงเหวิน เมื่อเธอเห็นคนที่กดกริ่งคือเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าตกใจ
ต่อมา ใบหน้าตกใจของเธอเปลี่ยนเป็นดีใจ “สื้อสื้อ เธอมาแล้วเหรอ เข้ามาๆ”
แม่ฝู้พาเจียงสื้อสื้อเข้ามาอย่างตื่นเต้น เห็นเถียนเถียนแล้วยิ่งดีใจกอดเธอไว้แล้วหอมแก้มหลายที
“เถียนเถียน คิดถึงคุณย่าไหม?”
“คิดถึงค่ะ!”
เถียนเถียนพยักหน้าแรงๆ จากนั้นหอมแก้มแม่ฝู้
พ่อแม่ของฝู้จิงเหวินต้อนรับกับการมาของเจียงสื้อสื้อมาก
จ้องมองร่างทั้งสองที่กำลังเล่นกับเถียนเถียน เจียงสื้อสื้อเงียบไปสักพัก
“พ่อคะ แม่คะ……ฉันจะไปอยู่ที่ประเทศจีนแล้ว ครั้งนี้มาเพื่อบอกพวกท่าน”
พ่อแม่ของฝู้จิงเหวินได้ยิน ชะงักทันที
“ใช่เหรอ?”
แม่ฝู้เผยสีหน้าเสียใจ
สีหน้าของพ่อฝู้ก็เช่นกัน
“เธออยู่ที่ฝรั่งเศสก็ดีไม่ใช่เหรอ……ทำไมกะทันหันแบบนี้?”
เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ปกปิด เล่าเรื่องที่ฟางเสว่มั่นป่วยให้ฟัง
ทั้งสองก็ถอนหายใจ ไม่พูดอะไร
แต่ในอากาศเกิดบรรยากาศหดหู่
ความรู้สึกนี้ทำให้คนที่อยู่ในสถานการณ์รู้สึกหนักอึ้ง
มองสีหน้าเสียใจของพ่อแม่ของฝู้จิงเหวิน ในใจของเจียงสื้อสื้อก็เจ็บปวดมาก
“ฉัน……ไม่อยากแยกกับพวกท่าน เพียงแค่แม่ของฉันดีขึ้น ฉันจะกลับมาเยี่ยมพวกท่านแน่นอน ดีไหมคะ?”
เธอเม้มปาก พูดเสียงเบา