ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 871 ไม่รับยา
จิ้นเฟิงเฉินทนต่อการเร่งรีบของเจียงสื้อสื้อไม่ได้ เขายิ้มอ่อนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
เดิมทีเจียงสื้อสื้อกะว่าจะรอให้จิ้นเฟิงเฉินออกมาก่อนแล้วค่อยนอนพร้อมกัน
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทันทีที่เธอนั่งลงบนเตียง ความง่วงก็ลอยเข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเวียนหัวไปหมด
จิ้นเฟิงเฉินเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับผมสั้นที่ยังเปียกชื้น
ห้องนอนไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ มีแค่โคมไฟตั้งโต๊ะสีอุ่นเล็กๆตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
และเจียงสื้อสื้อก็นอนหลับอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่เงียบสงบของเธอทำให้ใจของจิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะหลงใหล
ข้างๆเจียงสื้อสื้อ ท่านอนหลับที่ไม่ได้ดูสง่างามแต่ช่างน่ารักของเถียนเถียน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
เถียนเถียนนอนอยู่ตรงนั้น หน้าท้องที่ขาวและเนียนนุ่มโผล่ออกมาข้างนอก
จิ้นเฟิงเฉินเช็ดหยดน้ำส่วนเกินออกจากผม เอาผ้าห่มผืนบางๆมาห่มให้กับสองแม่ลูก
แต่เขาเองกลับหันหลังเดินออกไปจากห้องนอน ไปทำงานวันนี้ของบริษัทที่ยังทำไม่เสร็จต่อที่ห้องหนังสือ
เขาพึ่งจะออกไปจากห้องนอนได้ไม่นาน เถียนเถียนก็ตื่นพอดี
เธอขยี้ตาของตัวเอง หันหน้าไปกำลังจะตะโกนเรียนคน ถึงได้เห็นว่าหม่ามี๊ของตัวเองนอนหลับไปแล้ว
เถียนเถียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะไม่ปลุกเจียงสื้อสื้อตื่น
เธอปีนลงมาจากเตียงอย่างระมัดระวังและเดินออกมาจากห้องนอน
เธอยื่นหน้าเหลือบไปมอง เห็นว่าไฟในห้องหนังสือยังเปิดอยู่ ก็เลยวิ่งเข้าไปในห้องหนังสือด้วยเท้าเปล่า
“แด๊ดดี้!”
เถียนเถียนตะโกนออกมาคำหนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหม่ามี๊นอนหลับอยู่จึงรีบปิดปากตัวเองไว้
วิ่งเข้าไปข้างๆจิ้นเฟิงเฉินราวกับผีน้อย ยื่นมือออกไปอยากให้เขาอุ้ม
“ลูกรัก ทำไมตื่นแล้วล่ะ แด๊ดดี้เสียงดังทำให้หนูตื่นหรือเปล่า?”
จิ้นเฟิงเฉินก้มตัวลงไปอุ้มเถียนเถียนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วให้เธอนั่งลงบนตัก
“หนูนอนไม่หลับ แล้วหนูก็ไม่ได้ทำให้หม่ามี๊ตื่นด้วย แด๊ดดี้ดูสิว่าหนูเก่งแค่ไหน!”
เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมาราวกับตัวเองได้ทำความดีความชอบ ดวงตาที่เหมือนกับลูกองุ่นราวกับกับว่าพูดจาได้ กะพริบอยู่ตลอด
ทั้งใบหน้าเขียนคำว่า “รีบชมหนู” อยู่สามคำ
จิ้นเฟิงเฉินอดหัวเราะไม่ได้ ลูบที่หัวของเถียนเถียนเบาๆ “ใช่แล้ว เถียนเถียนของเราเก่งที่สุดเลย แต่ว่าตอนนี้แด๊ดดี้จะทำงาน หนูไปเล่นอยู่ข้างๆได้ไหม?”
เถียนเถียนทำท่าทางครุ่นคิดอย่างเคร่มขรึมอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า
กระโดดลงจากตักของจิ้นเฟิงเฉินด้วยตัวเอง เล่นคนเดียวอยู่ข้างๆอย่างรู้ความ
แต่เด็กน้อยล้วนแต่มีพลังเหลือล้นอยู่แล้ว เล่นอยู่คนเดียวมันน่าเบื่อเกินไป
ผ่านไปไม่นาน เถียนเถียนก็เดินเข้ามาอีกครั้ง พยายามปีกขึ้นไปบนตักของจิ้นเฟิงเฉินอย่างยากลำบาก จากนั้นก็มุดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
จิ้นเฟิงเฉินกินไม่เข้าคายไม่ออก ใช้แขนข้างหนึ่งอุ้มหนูน้อยแล้วทำงานต่อ
สายตาของเถียนเถียนมองไปรอบๆกองเอกสารและสมุดโน้ตที่อยู่ตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
แต่ว่าหนูน้อยก็อ่านไม่ออก ผ่านไปไม่นานก็รู้สึกเบื่อ หันหน้าแล้วยื่นมือเล็กๆออกไปบีบที่แก้มของจิ้นเฟิงเฉิน
“แด๊ดดี้ เล่นกับเถียนเถียนหน่อยซิ”
“แด๊ดดี้~”
น้ำเสียงอ้อนวอนของหนูน้อย สำหรับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เขาไม่อาจต้านทานได้
ยิ่งไปกว่านั้นหนูน้อยวุ่นวายขนาดนี้ เขาก็จดจ่ออยู่กับการทำไม่ได้อยู่ดี
จิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางเลือก ทำได้แค่วางงานในมือลงชั่วคราวแล้วไปเล่นกับเถียนเถียน
ดีตรงที่เด็กผู้หญิงไม่เหมือนกับเด็กผู้ชาย หลอกล่อหน่อย เล่นด้วยหน่อย เดี๋ยวพลังก็หมดไปเอง
ผ่านไปไม่นานก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินกล่อมนอนหลับคาอ้อมแขน
เขาไม่รีบพาเถียนเถียนกลับไปนอนบนเตียงในห้องนอน แต่กลับอุ้มเธอไปทำงานต่อ
ดึกกว่านี้อีกสักหน่อย แน่ใจว่าเถียนเถียนหลับสนิทแล้ว ถึงได้อุ้มเธอก็กลับไปที่ห้องนอน
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆวางเถียนเถียนลงบนเตียง และเขาก็เอนตัวลงไปอยากจะจูบที่หน้าผากของเจียงสื้อสื้อเบาๆ
ในขณะที่ริมฝีปากอันบอบบางแตะเข้าไปที่หน้าผากเธอ เขาถึงกับตกใจกับอุณหภูมิร้อนที่ผิดปกติ
“สื้อสื้อ?”
หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินเต้นแรงขึ้นมาทันที
เขาเอนตัวลงไปกอดเจียงสื้อสื้อไว้ในอ้อมแขน ตบที่แก้มของเธอเบาๆ อุณหภูมิร้อนที่อยู่ในฝ่ามือของเขาทำให้เขาตกใจหนักกว่าเดิม
หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินสงบสติอารมณ์ลง เขาก็โทรหาหมอประจำตระกูล บอกให้เขารีบมาทันที
“เฟิงเฉิน……”
เจียงสื้อสื้อก็นอนหลับไม่สนิทเหมือนกัน
เธอรู้สึกหนาวไปทั้งตัว ค่อยๆลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเธอเห็นว่าจิ้นเฟิงเฉินกำลังกอดตัวเองอยู่ เธอจึงมุดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาทันที
“สื้อสื้อ ไม่สบายตรงไหน?”
จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน แต่ก็กลัวว่าเธอจะเจ็บ เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ฉันหนาว”
เจียงสื้อสื้อเอามือโอบกอดตรงเอวของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินกังวลเป็นอย่างมาก ดึงเจียงสื้อสื้อเข้ามากอดอย่างแน่น และโทรเรียกหมอประจำตระกูลอีกครั้ง
หมอประจำตระกูลที่ได้รับโทรศัพท์ก็ไม่รอช้า ถือกล่องยาวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
พลิกไปพลิกมาถึงได้รู้ว่าเจียงสื้อสื้อมีไข้ถึงสามสิบแปดจุดห้าองศา
หมอสั่งยาลดไข้ จินเฟิงเฉินเทน้ำอุ่นด้วยตัวเอง มือหนึ่งกอดเจียงสื้อสื้ออยู่ในอ้อมแขน
อีกมือหนึ่งหยิบยาป้อนเข้าไปในปากเธอ เกลี้ยกล่อมให้เธอกินยาลงไป
เดิมทีคิดว่าแบบนี้ก็เสร็จสิ้นแล้ว
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ
กระเพาะของเจียงสื้อสื้อมีอาการคลื่นไส้ เธอหลุดออกมาจากอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉิน
ก้มหน้าลงถังขยะที่อยู่ข้างๆ อ้วกเอายาที่พึ่งกินเข้าไปออกมาหมด
หมอประจำตระกูลก็ตกใจเหมือนกัน เขาก็ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง
เป็นหมอมาแล้วหลายปี เขาใช่ว่าจะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
แต่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือภรรยาของจิ้นเฟิงเฉิน
เขากลัวว่าจะวินิจฉัยผิดพลาด……
จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ช่วงนี้สุขภาพของเจียงสื้อสื้อก็ยังแข็งแรงดีอยู่ มีเพียงแค่วันนี้ หลังจากกินยานั้นเข้าไปเธอก็มีไข้ขึ้นทันที
จิ้นเฟิงเฉินแน่ใจว่า มันต้องเกิดปัญหาจากยายับยั้งไวรัสที่โม่เหยียและหานยู่วิจัยขึ้นมาแน่นอน
เขาบอกให้หมอประจำตระกูลกลับไป และในขณะเดียวกันก็เรียกโม่เหยียและหานยู่มาหา
ทั้งสองไม่รอช้า รีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว
จิ้นเฟิงเฉินอธิบายเรื่องนี้อย่างสั้นๆและละเอียดให้พวกเขาฟังอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเขากำลังจะพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองอยู่ แต่เพราะความเป็นห่วงและความกังวลทำให้มีกลิ่นอายที่เย็นชาออกมา ยังคงทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัว
โม่เหยียและหานยู่ไม่กล้าที่จะล่าช้า ทำการตรวจสอบเจียงสื้อสื้ออย่างละเอียดในทันที
ในขณะเดียวกันโม่เหยียก็อธิบายให้จิ้นเฟิงเฉินฟังอยู่ตลอดเวลา
“ยานี้ผ่านการทดสอบจากพวกเรามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีปัญหาอะไร คุณไม่ต้องกังวล เราจะต้องหาสาเหตุให้เจอ”
คาดว่าเป็นเวลาประมาณยี่สิบนาที โม่เหยียและหานยู่ก็หาสาเหตุเจอ “ไวรัสในร่างกายของเธอไม่รับยาที่เราวิจัยขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา ได้ยินแบบนี้ เขายิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ตอนนี้จะทำยังไง?”
เขาพูดเสียงต่ำแต่กลับทำให้รู้สึกถึงความเยือกเย็น
ถึงแม้จะบอกว่าตอนนี้มีแค่ไข้สูง แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีปัญหาอื่นๆอีก?
นั่นคือเรื่องที่เขาไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน!
“คุณไม่ต้องเป็นห่วง!เราจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด”
โม่เหยียรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว รับประกันกับจิ้นเฟิงเฉินอย่างเคร่งขรึม
หานยู่ก็ได้เตรียมยาเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนแขวนถุงน้ำเกลือให้กับเจียงสื้อสื้อ
เพื่อที่จะได้สังเกตอาการของเจียงสื้อสื้อได้เร็วขึ้น ทั้งสองไม่ห่างจากข้างเตียงแม้แต่ก้าวเดียว
จะพลาดไปแม้แต่น้อยก็ไม่ได้