ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 88 นกกระจอกยังอยากจะกลายเป็นหงส์
บทที่ 88 นกกระจอกยังอยากจะกลายเป็นหงส์
จริงๆแล้ว คืนนี้จิ้นเฟิงเฉินนั้นยุ่งมากๆ เขาก็ไม่มีเวลาเยอะขนาดนั้นมาดูแลเจียงสื้อสื้อ คิดไปคิดมาเขาก็พูดว่า “งั้นฝากเธอดูแลเสี่ยวเป่าหน่อยนะ”
เอาเสี่ยวเป่าไว้ที่นี่ เธอก็ไม่เบื่อแล้ว
“ได้เลยได้เลย ผมจะอยู่กับน้าสื้อสื้อที่นี่ แด๊ดดี้วางใจเถอะ! ผมจะดูน้าสื้อสื้อเอง”
ใบหน้าของเสี่ยวเป่านั้นเต็มไปด้วยความดีใจ ทำหน้าแบบแด๊ดดี้รีบไปเถอะอย่ามาขัดจังหวะผมกับน้าสื้อสื้อเลย
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ น้ำเสียงที่ทุ้มของเขาได้พูดออกมาว่า “ฉันไปก่อนนะ”
“อืม”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้ามองเขาเดินออกไปแล้ว ก็ได้พาเสี่ยวเป่าเดินเล่น
ทั้งสองเดินไปเดินไป ก็เจอกับซูชิงหยิงที่เดินออกมาจากห้องน้ำ
“คุณเจียง บังเอิญจังนะคะ”
“คุณซู” เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วทักทายออกไป
ซูชิงหยิงเห็นเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ เธอ แววตาก็ได้หดหู่เล็กน้อย ตอนที่เธอจะพูดอะไรบางอย่างนั้น เสี่ยวเป่าได้ลากมือของเจียงสื้อสื้อแล้วพูดว่า “น้าสื้อสื้อ ผมหิวแล้ว”
ซูชิงหยิงก็พูดออกมาว่า “คุณพาเสี่ยวเป่าไปกินข้าวเถอะค่ะ! ฉันจะไปหาเฟิงเฉินก่อน ถ้ามีเรื่องอะไรบอกฉันได้ตลอด”
เจียงสื้อสื้อได้ขมวดคิ้วเล็กน้อยแบบไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ทำไม ได้ยินแบบนั้นแล้วรู้สึกว่าซูชิงหยิงนั้นเป็นคุณหญิงของงานเลี้ยงนี้
เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอตอบไปแบบเรียบๆ เสร็จ ก็พาเสี่ยวเป่าไปโซนรับประทานอาหาร
ตลอดทางได้มีสายตามองมาไม่น้อย เจียงสื้อสื้อเหมือนกับว่านั่งอยู่บนเข็ม ยังไงซะที่ตนจูงมืออยู่นั้นเป็นคุณชายน้อยของตระกูลจิ้น มันก็น่าแปลกจริงๆ นั่นแหละ
แต่ว่าเจียงสื้อสื้อไม่สนใจ ที่สำคัญไปกว่านั้นจะให้เสี่ยวเป่าหิวไม่ได้ เอาของกินเสร็จ ทั้งสองก็หาที่นั่งแถวมุมๆ นั่งลง แล้วก็ป้อนอาหารให้เสี่ยวเป่าอย่างใจเย็น
พวกคุณหนูได้มองเจียงสื้อสื้อด้วยความอิจฉา และยังมีคนที่พูดออกมาตรงหน้า
“บางคนนะเจ้าเล่ห์จริงๆ รู้จักเอาใจคุณชายน้อย!”
“ก็ใช่น่ะสิ……ไม่ดูตัวเองเลยว่าอยู่ในฐานะอะไร เป็นนกกระจอกแล้วยังอยากจะกลายเป็นหงส์!”
……
ในงานเลี้ยงคนที่มานั้นต่างเป็นคุณหนูคุณชายของพวกสังคมชั้นสูง แม้ว่าเจียงสื้อสื้อนั้นสวยมาก แต่ว่าต่างคนก็ไม่คุ้นกับใบหน้านั้น คุณคนเลยคิดว่าเธอไม่มีฐานะสังคมอะไร
และเมื่อกี้คนที่เห็นเธอเดินเข้ามากับจิ้นเฟิงเฉิน ก็พากันเดาไปมั่วว่า เจียงสื้อสื้อไม่เอาจิ้นเฟิงเหรา และอยู่ในงานก็เจอจิ้นเฟิงเฉินเข้า อยากจะเป็นคุณนายของประธานบริษัทจิ้นซื่อกรุ๊ป เพราะแบบนี้เลยเอาใจเสี่ยวเป่าไปหมด
ทุกคนพูดไป ก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงสื้อสื้อนั้นเจ้าเล่ห์ เป็นคู่ควงของคุณชายรองจิ้นแล้วยังอ่อยคุณชายใหญ่จิ้นอีก เป็นนางจิ้งจอกขนานแท้
สายตาที่มองเธออย่างแปลกๆ และยังคำพูดพวกนี้อีก เจียงสื้อสื้อได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เสี่ยวเป่ามัวแต่กินก็ไม่ได้สนใจรอบข้าง เห็นว่าเจียงสื้อสื้อใจลอย เขาก็ถามว่า “น้าสื้อสื้อเป็นอะไรครับ? ไม่มีความสุขเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ เสี่ยวเป่าอย่าคิดมากนะคะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วส่ายหน้า
ในที่ไม่ไกล พ่อจิ้นแม่จิ้นก็ได้ยินคำพูดครหาพวกนั้น ที่จริงทั้งสองนั้นก็ได้สังเกตเจียงสื้อสื้ออยู่ตลอด ยังไงซะพวกเธอก็สงสัยมาตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เกือบที่จะทนไม่ได้แล้วไปสืบประวัติเธอ แต่กลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะโกรธเลยอดทนไม่ไปสืบ
คืนนี้ก็ได้เจอกันแล้ว ก็อยากจะรู้ว่าเจียงสื้อสื้อนั้นได้มีเป้าหมายอะไรหรือเปล่าถึงได้เข้าใกล้จิ้นเฟิงเฉิน ก็เหมือนกับที่คนรอบข้างพูดกัน ว่าจงใจเอาใจเสี่ยวเป่าอะไรพวกนั้น
แต่มองมาตั้งนานก็ไม่เจออะไร เจียงสื้อสื้อไม่ได้ที่จะเอาใจเสี่ยวเป่าเป็นพิเศษ
ทางนี้เจียงสื้อสื้อก็ยังป้อนข้าวเสี่ยวเป่าอยู่ เสี่ยวเป่าไม่ชอบกินผัก ได้เห็นอาหารที่อยู่ในช้อนตรงหน้าก็ได้ขมวดคิ้วทันที
“น้าสื้อสื้อ……”
เจียงสื้อสื้อได้พูดออกไปอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่าครับ เลือกกินไม่ได้นะครับ อีกอย่างผักนั้นทำให้ร่างกายแข็งแรง พวกเราก็กินเข้าไปนิดหน่อย”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าแล้วกินเข้าไปอย่างว่าง่าย ถึงแม้ว่าหน้าเขาจะมุ้ยไปเป็นก้อน แต่ก็ยังกินจนหมด
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “เสี่ยงเป่าเก่งจังเลย”
พอได้รับคำชม เสี่ยวเป่าก็ยิ้มทันที ทำให้น้าสื้อสื้อดีใจ กินผักนิดหน่อยไม่ได้หนักหนาอะไร
ผู้ใหญ่ทั้งสองดูอยู่ตลอด คุณท่านจิ้นก็พูดออกมาว่า “สาวน้อยคนนั้นดูแล้วก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร โดยเฉพาะกับเสี่ยวเป่า พวกเราคงคิดมากไปเองแหละ!”
คุณหญิงจิ้นพยักหน้า “อาจจะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ!”
“ใช่ พวกเราต้องเชื่อสายตาของเฟิงเฉิน กว่าเขาจะเจอคนที่ตัวเองชอบ”
ถึงแม้พูดแบบนั้น แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่ได้วางใจจริงๆ ยังไงซะฐานะประวัติของเจียงสื้อสื้อพวกเขาไม่รู้เลยสักนิด ตระกูลจิ้นนั้นไม่ได้มีความคิดที่ว่าต้องฐานะเท่าเทียบ แต่ก็แค่กลัวว่าเจียงสื้อสื้อมีจุดหมายอื่น เลยเข้าใกล้เสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉิน ยังไงซะเรื่องแบบนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งสองได้จ้องอยู่เงียบตลอด แล้วก็ทักทายแขกไปด้วย
เจียงสื้อสื้อนั้นไม่รับรู้เกี่ยวกับความคิดของพ่อแม่ตระกูลจิ้น เสี่ยวเป่ากินอิ่มแล้ว เธอเอาผ้าเช็ดปากข้างๆ มาเช็ดให้เขาอย่างตั้งใจ
เวลานี้ มีผู้หญิงสองคนได้เดินผ่านไป ก็ไม่รู้ว่าใครได้เปิดปากพูดออกมาว่า “เธอดูสิ เสแสร้งจริงๆ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าคุณชายน้อยนั้นเป็นลูกของเธอแล้ว!”
“ใช่ๆ เพื่อที่จะคว้าของสูง บางคนไม่ว่าอะไรก็ทำออกมาได้ทั้งนั้น”
พูดจบ มือของเจียงสื้อสื้อได้หยุด เธอมองหน้าของเสี่ยวเป่า เวลานี้เธอได้สับสน
ในใจของเจียงสื้อสื้อนั้นเข้าใจดี เสี่ยวเป่ามองเธอเป็นหม่ามี๊ แต่ตัวเองทำไมจะไม่ได้มองเขาแบบนั้น? บางครั้งเธอนั้นคิดจริงๆ ว่าเสี่ยวเป่านั้นเป็นลูกของเธอ
เธอขมวดคิ้ว ในใจอยู่ๆ ก็คิดถึงลูกของตัวเอง วันนี้ก็เป็นวันเกิดของเขา……
ผ่านไปสี่ปีแล้ว เจียงสื้อสื้อจะพยายามดื่มเหล้าให้เมาในวันนี้ เพื่อไม่ไปคิดเรื่องวันนั้น
วันนั้นลูกได้ถูกอุ้มไป สำหรับเธอแล้ว เป็นความเจ็บปวดทั้งชีวิต ปีนี้เป็นเพราะการปรากฏตัวของเสี่ยวเป่า เธอเลยปล่อยวางเรื่องในอดีต แต่ว่าเวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะไม่นึกถึง
ลูกคนนั้นอยู่ที่นั่นมีความสุขไหม มีคุณพ่อคุณแม่จัดงานวันเกิดให้ไหม?
ใจของเจียงสื้อสื้อนั้นได้เต้นแรงจนปวด ถ้าเกิดตอนนั้นเธอเอาลูกไว้จะดีขนาดไหน……
คิดไปอยู่นั้น ก็ไม่รู้เป็นอะไร เจียงสื้อสื้อก็ได้ทำน้ำผลไม้หกลงกระโปรงของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อ่ะ!” เสี่ยวเป่ามองเธออย่างเป็นห่วง “น้าสื้อสื้อไม่เป็นอะไรนะครับ?”
เจียงสื้อสื้อได้สติ ก็ได้รีบโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ น้าขอไปทำให้มันสะอาดในห้องน้ำ ผมไปหาแด๊ดดี้ก่อนไหม?”
เสี่ยวเป่าส่ายหน้า “ไม่ครับ ผมจะรอน้าสื้อสื้อกลับมา น้ารีบไปเถอะครับ!”
“ก็ได้ครับ! งั้นเสี่ยวเป่ารออยู่ตรงนี้นะ น้าสื้อสื้อจะรีบกลับมา”
เจียงสื้อสื้อนั้นไม่เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องกับเสี่ยวเป่าในงานเลี้ยง พูดจบ เธอลุกขึ้นจะออกไป สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าหันหลังไปก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
“โอ๊ย!” ผู้หญิงคนนั้นร้องออกมาอย่างตกใจ
เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าเสียงนี้มันคุ้นๆ เธอตั้งหลักได้ก็ไปมองดู คิดไม่ถึงว่าเป็น แม่ของหลานซือเฉินฉินซวน ข้างๆ ยังมีหลานเป่ยชวนยืนอยู่
สองคนนี้ทำไมถึงได้มางานเลี้ยงวันเกิดเสี่ยวเป่า?
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่รู้ทำไม ในใจนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเลย