ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 89 หน้าด้านหน้าไม่อาย
บทที่ 89 หน้าด้านหน้าไม่อาย
เห็นได้ชัดว่าฉินซวนนั้นจงใจเข้ามาชน พอเห็นว่าเป็นเจียงสื้อสื้อ ก็แกล้งทำเป็นตกใจแล้วพูดว่า “อ่าว เธอเองเหรอเจียงสื้อสื้อ บังเอิญจังเลย”
พอเห็นทั้งสองคน เจียงสื้อสื้อก็ได้ขมวดคิ้ว แววตานั้นได้แฝงความรำคาญอยู่ เดิมทีเธอนั้นไม่อยากจะสนใจ แต่ว่าฉินซวนกลับรั้นเธอไว้แล้วพูดว่า “เจียงสื้อสื้อ ทำไมเธอไม่มีมารยาทขนาดนี้ ชนคนอื่นแล้วไม่รู้จักขอโทษ?”
เดิมทีคนรอบๆ ก็มีคนไม่น้อยมองเธออยู่แล้ว พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทุกคนก็ได้ต่างพากันมองเธอ
เจียงสื้อสื้อหน้าเครียด แล้วพูดออกไปอย่างชัดเจนว่า “คุณต้องการอะไร?”
ฉินซวนหัวเราะ “ฉันไม่ได้ต้องการอะไร แต่ว่าเธอชนคนอื่นแล้ว ขอโทษต้องพูดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ได้ยินแบบนั้น เสี่ยวเป่าก็รีบยืนออกมาพูดว่า “คุณย่า คุณเป็นคนมาชนน้าสื้อสื้อเองนะ”
“เสี่ยวเป่า ไม่เป็นไรค่ะ”
เจียงสื้อสื้อได้รั้งเสี่ยวเป่าไว้ข้างๆ สายตาเธอได้นิ่งลง นี่เป็นงานวันเกิดเสี่ยวเป่า เธอไม่อยากสร้างปัญหา เพราะงั้นเลยทำได้แค่พูดขอโทษไป “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ฉินซวนแกล้งทำเป็นยกโทษให้เธอ ต่อด้วยยิ้มแล้วพูดว่า “ที่จริงน้าเองก็ไม่อยากจะอะไรมากหรอก แต่ว่านี่เป็นงานเลี้ยงที่ตระกูลจิ้นจัด เธอได้คว้าของสูงมาอย่างยากลำบาก น้าเห็นเธอตั้งแต่เล็ก มีสายตาหลายคู่มองอยู่ขนาดนี้ ก็แค่หวังว่าเธอจะรู้จักมารยาท อย่าให้ใครนินทาเอา”
คำพูดที่ประหลาดได้ส่งออกมา เจียงสื้อสื้อก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชา
“งั้นฉันต้องขอบคุณคุณใช่ไหม?”
“ขอบคุณก็ไม่ต้องแล้ว ยังไงซะพวกเราเคยเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอกับซือเฉินไม่มีวาสนา เป็นซือเฉินของพวกเราเองที่ไม่มีบุญ คนที่เก่งมากๆ อย่างคุณชายจิ้นนั้น เป็น อะไรที่ได้มายากอยู่แล้ว”
หลานเป่ยชวนที่อยู่ข้างๆ ก็พูดออกมาตาม “ใช่ๆ น่าเสียดายจริงๆ เดิมทีเธอกับซือเฉินรักกันดีขนาดนั้น!”
ทั้งสองคนหนึ่งพูดคนหนึ่งร้อง พูดออกมาซะ ก็เหมือนว่าเจียงสื้อสื้อนั้นเพื่อที่จะได้จิ้นเฟิงเฉิน ถึงทิ้งลูกชายของเธอ
คนรอบข้างที่เข้ามาดูสนุกนั้น สายตาของพวกเขาที่มองเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
“โห้! ผู้หญิงนี้เป็นใครอ่ะ! เดินเข้ามากับคุณชายรองจิ้นแท้ๆ แล้วยังอ่อยให้คุณชายน้อยของประธานจิ้นชอบเธอ คิดไม่ถึงว่าเคยเกี่ยวข้องกับคุณชายใหญ่ของตระกูลหลานด้วย!”
“ไม่ได้ยินพ่อแม่ของตระกูลหลานพูดเหรอ! ฉันคิดว่านะพออ่อนคุณชายจิ้นได้แล้วก็ทิ้งคุณชายหลานไป”
“จึๆ สวยขนาดนี้คิดไม่ถึงว่าเห็นแก่เงิน! น่าขยะแขยงจริงๆ”
“ฉันพูดไปแล้วไงว่าผู้หญิงคนนี้อ่ะเสแสร้ง! ดูท่าทางของเธอก็รู้ว่าจัดการยาก”
……
เสียงที่ครหานินทาและสายตาที่ดูถูกได้ส่งเข้ามา เจียงสื้อสื้อเหมือนมีเข็มคอยแทงข้างหลัง
ถึงแม้เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าพ่อแม่ตระกูลหลานพูดอะไร แต่เขาดูออกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ สองคนที่อยู่ข้างหน้านี้เป็นคนไม่ดี เสี่ยวเป่าจับมือของเจียงสื้อสื้อแน่น ใบหน้าของเด็กน้อยนั้นได้เขียนคำว่าอย่าแกล้งน้าสื้อสื้อของผม
เจียงสื้อสื้อได้หายใจเข้าลึกๆ เป็นไปอย่างที่คิด ตระกูลหลานมาปรากฏอยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไร เจียงสื้อสื้อไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาไปมากกว่านี้ เธอพูดออกไปเรียบๆ ว่า “พูดจบหรือยัง? ถ้าพูดจบแล้ว ฉันขอตัวก่อน”
เห็นได้ชัดว่าตระกูลหลานเข้ามาหาเรื่อง จะปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังไง
ฉินซวนฉุดมือของเจียงสื้อสื้อแล้วก็พูดว่า “อย่ารีบเดินหนีสิ! น้ามาหาเธอเพราะมีเรื่อง!”
เซ้นส์บอกกับเจียงสื้อสื้อว่า ที่ฉินซวนมาหาเธอต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ แล้วก็เป็นไปตามที่คิด……
“สื้อสื้อ เธอเห็นแก่ที่ทั้งสองตระกูลเป็นเพื่อนกัน ให้ประธานจิ้นปล่อยหลานซื่อกรุ๊ปไป หลานซื่อกรุ๊ปนั้นเป็นบริษัทที่น้ากับน้าชายของเธอช่วยกันสร้างขึ้นมาจะให้มันล้มตอนนี้ไม่ได้!”
ใบหน้าที่ดูแล้วน่าสงสารของฉินซวน เหมือนว่าเจียงสื้อสื้อนั้นกำลังแกล้งเธออยู่
เสียงของเธอดังมาก บวกกับคนรอบข้างได้นินทา ก็เลยทำให้จิ้นเฟิงเฉินกับคู่ตายายตระกูลจิ้นที่อยู่ไม่ไกลนักสังเกตเห็น
คุณนายจิ้นขมวดคิ้ว พูดว่า “นั้นคุณเจียงไม่ใช่เหรอ? เหมือนว่าเธอกำลังมีปากเสียงกับใครอยู่ เรื่องราวเหมือนจะใหญ่อยู่นะ เฟิงเฉิน นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
พูดจบ ทุกคนที่ต่างพากันมองทางนั้น
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูดอะไร ตอนที่เห็นฉินซวนกับหลานเป่ยชวนนั้น สีหน้าเขาได้เครียดลง ก็ก้าวเท้ายาวๆ แล้วรีบเดินเข้าไป
คนอื่นก็ได้ตามไป
……
เจียงสื้อสื้อคิดไม่ถึงว่าตระกูลหลานจะหน้าไม่อายขนาดนี้ ถึงขั้นวิ่งมาที่งานเลี้ยงของตระกูลจิ้นแล้วมาพูดเรื่องนี้ เธอได้สะบัดแขนของฉินซวน พูดออกไปอย่างเย็นชาว่า “พูดพอหรือยัง?”
ฉินซวนแสร้งทำเป็นน่าสงสาร “สื้อสื้อ อย่างน้อยซือเฉินของพวกเราก็เคยรักและดูแลเธออย่างดี และยังมีตระกูลเจียง พวกเขาเลี้ยงเธอจนโต ตอนนี้เธอดีกับคุณชายจิ้นก็ลืมบุญคุณพวกเราแล้วงั้นเหรอ! พวกเราไม่ขออะไรมาก แค่ขอให้เธออย่าให้จิ้นซื่อกรุ๊ปมาเล่นงานพวกเราทั้งสองตระกูลก็พอ ได้ไหม?”
พอประโยคนี้ได้พูดออกมา คนรอบข้างก็ได้เดือดกว่าเดิม คิดไม่ถึงว่าเจียงสื้อสื้อจะทิ้งหลานซือเฉินไปไม่พอ ตอนนี้ยังให้จิ้นเฟิงเฉินนั้นเล่นงานตระกูลหลานและตระกูลตัวเอง
จิตใจของผู้หญิงคนนี้ทำไมอำมหิตแบบนี้……ทุกคนต่างมองเจียงสื้อสื้อด้วยความเกลียดชัง
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อได้เครียดกว่าเดิม เวลานี้จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เดินเข้ามา เขาได้ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
เขามองเธอด้วยความห่วงใย
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า เป็นการบอกว่าไม่เป็นไร
ฉินซวนพอเห็นจิ้นเฟิงเฉิน ก็เข้าไปขอร้องอย่างน่าสงสารว่า “ประธานจิ้น ขอร้องคุณล่ะ ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเราทำอะไรขัดใจเจียงสื้อสื้อไป แต่ว่าก็ขอโทษแล้ว หวังว่าคุณจะไม่เล่นงานพวกเราอีก”
“ใช่ครับ! ประธานจิ้น หลานซื่อกรุ๊ปเป็นเลือดเนื้อของพวกเรา พวกเราสำนึกแล้ว พวกเราจะไม่ทำอะไรเจียงสื้อสื้อแล้ว คุณก็ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”
ตอนที่พ่อจิ้นแม่จิ้นไปถึงนั้นก็ได้ยินประโยคนี้พอดี คุณท่านจิ้นได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามจิ้นเฟิงเฉินว่า “เฟิงเฉิน มีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ เหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากไม่พูด
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อนั้นไม่ดีเอามากๆ เรื่องมันได้วุ่นวายขึ้นแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเสี่ยวเป่า เธอไม่อยากให้งานเลี้ยงล้มเพราะเรื่องนี้
ยิ่งไปกว่านั้นการนินทาจากคนรอบๆ ได้พูดไม่หยุด
หลานเป่ยชวนเห็นว่าคุณท่านจิ้นพูดแล้ว ก็ได้เข้าไปมองเจียงสื้อสื้อแล้วพูดว่า “คุณท่านจิ้น คุณหญิงจิ้น พวกคุณไม่รู้ เจียงสื้อสื้อเนี่ยเดิมทีเป็นคู่หมั้นของลูกชายผม ต่อมาเป็นเพราะปัญหาส่วนบุคคล เพราะงั้นเลยต้องยกเลิกงานแต่งไป”
หลานเป่ยชวนหยุด แล้วพูดต่อว่า “คิดไม่ถึงว่าก่อนหน้านี้ อยู่ๆ ก็ได้เล่นงานตระกูลหลานและตระกูลเจียงหนักข้อกว่าเดิม ตอนนั้นพวกเราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนกระทั่งมาเห็นประธานจิ้น……”
ถึงแม้เรื่องนี้ได้พูดออกมาอย่างขาดๆหายๆ แต่ยังไงซะก็พอแล้วสำหรับการที่จะบอกว่าเจียงสื้อสื้อนั้นมีประวัติที่ไม่ธรรมดา
อีกอย่าง หลานซื่อกรุ๊ปในเขตA ก็เป็นตระกูลดัง เจียงสื้อสื้อไม่ใช่แค่เคยหมั้นกับคุณชายตระกูลหลาน แต่ยังเป็นเพราะปัญหาส่วนตัวยกเลิกการแต่งงานไป
สีหน้าของพ่อจิ้นแม่จิ้น ไม่ดีนัก
เดิมที่เป็นเพราะอยู่กับเสี่ยวเป่าตลอด อย่างน้อยๆ น่าจะเป็นหญิงที่มีจิตใจงดงาม สุดท้ายเป็นคนแบบนี้
มันเป็นไปได้ยังไง?