ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 891 ดึงเข้าสู่พวกของเรา
นี่เป็นเรื่องตามคาดการณ์ ในใจจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย ขมวดคิ้วเบาๆ ทำเป็นดีใจพูดว่า “ที่แท้ก็คุณพิเอร์ส เป็นอะไร มีธุระอะไรหรือครับ?”
“พวกเรากินอาหารเที่ยงด้วยกันไหมครับ?”
ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็รู้ ปลาติดเบ็ดแล้ว
แต่ว่า เขาไม่ได้แสดงอาการรีบร้อน แต่พูดขอโทษ “ต้องขอโทษด้วย คุณพิเอร์ส ตอนเที่ยงน่าจะไม่ได้ ผมต้องเข้าร่วมประชุมด่วน น่าจะเสร็จประมาณบ่ายสอง หลังบ่ายสองคุณมีเวลาไหมครับ?”
ความจริง เวลาพักเที่ยง ทั่วไปแล้วบริษัทไม่จัดการประชุม
เขาแค่อยากทิ้งพิเอร์สไว้สักพัก
“คุณเฟิง ผมอยากคุยเรื่องการร่วมงานระหว่างพวกเรา คิดไม่ถึงว่าตัวแทนจำหน่ายยาอย่างคุณจะยุ่งขนาดนี้”
พิเอร์สเห็นเขาเลื่อนเวลา ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยอมตกลง “ช่างเถอะ บ่ายสองก็บ่ายสอง”
“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณพิเอร์สรอสักพักละกัน”
หลังจากวางสายแล้ว พิเอร์สที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
การร่วมงานทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนมีแต่คนอื่นเร่งเข้าหาเขา อย่างสถานการณ์ที่ต้องให้เขารอแบบนี้ เป็นครั้งแรก
ผู้ช่วยเอโลนเห็นพิเอร์สไม่พอใจ เปิดปากพูด “คุณพิเอร์ส พวกเราจะรอจริงเหรอ?”
พิเอร์สพูดจริงจัง “รอ ธุรกิจนี้สำคัญต่อพวกเรามาก จะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้ คุณไปเตรียมพร้อมก่อน”
เอโลนรับคำสั่งไป จองที่นั่งร้านกาแฟแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ส่งที่อยู่ให้กับจิ้นเฟิงเฉิน
——
บ่ายสอง จิ้นเฟิงเฉินไปตามเวลานัดหมายตามที่อยู่ที่พิเอร์สส่งมาให้
เมื่อเห็นพิเอร์สแล้ว เขาก็พูดด้วยความขอโทษ “ขอโทษด้วย คุณพิเอร์ส ทางมารถติดนิดหน่อย”
พิเอร์สยิ้มแล้วโบกมือพูดว่า “คุณเฟิงไม่ต้องขอโทษ แต่ช่วงนี้คุณเฟิงดูเหมือนค่อนข้างยุ่ง รับงานใหญ่อะไรเหรอครับ?”
จิ้นเฟิงเฉินจีบกาแฟอย่างใจเย็น ยิ้มเล็กน้อย “ก็ไม่มีครับ ธุรกิจก็เหมือนเดิม วันนี้คุณพิเอร์สหาผมมีธุระอะไรเหรอครับ?”
ได้ยินแล้ว พิเอร์สก็ไม่ได้อ้อมค้อม “ในเมื่อคุณเฟิงพูดแล้ว ผมก็ไม่อ้อมค้อมแล้ว เมื่อคืนคุณบอกว่ายังมีตัวยาที่สรรพคุณใกล้เคียงกับโหราเดือยไก่ ผมเอาใบคริสต์มาสกับเมล็ดต้นแสลงใจ ไม่ทราบว่าทางคุณสามารถจัดหาสินค้าจำนวนมากได้ไหม?”
ใบคริสต์มาส เมล็ดต้นแสลงใจเป็นตัวยาที่มีพิษร้ายแรง
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา รับซื้อวัตถุยาที่มีพิษจำนวนมาก แค่คิดก็รู้ว่าจะใช้ในด้านไหน
ถึงแม้ยาสามตัวนี้มีสรรพคุณทางการแพทย์ แต่เท่าที่รู้จักSAกรุ๊ป เป็นไปไม่ได้ที่จิ้นเฟิงเฉินจะคิดว่าพวกเขาจะเอามาช่วยคน
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แกล้งพูดอย่างอึดอัดใจ “คุณพิเอร์ส พูดตามตรง ยาที่คุณต้องการหาให้ได้ แต่ไม่ได้มีตลอด ต้องใช้เวลาในการสั่งซื้อ ถึงจะมีของให้ได้ บวกกับยาสองตัวนี้เป็นยามีพิษร้ายแรง เวลาขาย ต้องมีปัญหาบ้าง”
เห็นจิ้นเฟิงเฉินสีหน้าไม่ดี พิเอร์สก็แสดงสีหน้าเข้าใจ “ที่คุณเฟิงพูดมาผมเข้าใจ ดังนั้น ครั้งนี้ผมมาเพื่อตั้งใจจะร่วมงานกับคุณ”
พิเอร์สหยุดพูด หยิบเช็คใบหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ “นี่คือเงินห้าสิบล้าน เป็นเงินสำรองล่วงหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่”
เขามั่นใจมากว่าจิ้นเฟิงเฉินต้องรับไว้ คนที่ทำธุรกิจอย่างพวกเขา ไม่มีวันมีปัญหากับเงินแน่นอน
แต่ว่า สิ่งที่เกินความคาดคิดของเขาคือ จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตามองแค่ทีเดียว แล้วเลื่อนสายตาออก นี่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
“คุณเฟิง ผมได้ยินฟางเฉิงพูดว่า คุณเป็นตัวแทนจำหน่ายยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แหล่งวัตถุดิบยามาจากทั่วทุกมุมโลก ต้องการยาอะไรคุณก็หาให้ได้ไม่ยาก ดังนั้น ผมหวังว่าครั้งนี้เราจะร่วมงานกันเป็นมีความสุข”
พูดจบ พิเอร์สก็ดันเช็คไปข้างหน้าอีกนิด
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม ในสายตามีแววล้อเล่นบ้าง ไม่ได้หยิบเช็ค แม้แต่มองยังไม่หันไปมองแม้แต่นิดเดียว
เขามองไปทางพิเอร์ส “จะร่วมงาน ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า ผมมีข้อเสนอ พวกคุณต้องการยาสองตัวนี้เป็นจำนวนมากขนาดนี้ ยังมีโหราเดือยไก่ ต้องบอกผมว่าพวกคุณต้องการทำอะไร ใช้ในด้านไหน ผมมีครอบครัว มีภรรยา มีลูก ไม่หาปัญหาใส่ตัวเอง ผมยอมได้เงินน้อยหน่อย”
จิ้นเฟิงเฉินหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่อย่างนั้น ผมไม่จัดหายาให้พวกคุณแน่”
เอโลนเห็นแล้ว ก็ส่งสายตาให้บอดี้การ์ดข้างกาย
ข้างกายจิ้นเฟิงเฉิง มีชายร่างใหญ่สี่คนล้อมไว้ทันที
แต่ว่า เขาไม่แม้แต่ขมวดคิ้ว ยังคงนั่งอย่างสบายใจ
ทั้งสองฝั่งจ้องหน้ากัน พิเอร์สตะโกนพูด “โอหัง ที่นี่เป็นสิทธิ์ของพวกนายตัดสินตั้งแต่เมื่อไหร่? ลงไปเดี๋ยวนี้”
ต่อว่าบอดี้การ์ดแล้ว พิเอร์สหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างยิ้มแย้ม พยายามโน้มน้าวเขา
“คุณเฟิง สำหรับที่ไปของยาเหล่านี้คุณวางใจได้ SAกรุ๊ปของพวกเราทำงานอย่างเปิดเผย ไม่มีทำอะไรลับๆแน่นอน ที่สำคัญเราเป็นบริษัทผลิตยาขนาดใหญ่ แน่นอนว่าต้องการวัตถุยาบางตัวเป็นจำนวนมาก สิ่งที่คุณจัดหาให้ได้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “ทุกคนต่างก็รู้ดี คุณไม่จำเป็นต้องแกล้งโง่หรอก”
เขาพูดไปด้วย ก็ลุกจากที่นั่ง “ในเมื่อคุณพิเอร์สไม่มีความจริงใจ งั้นก็ต้องขอโทษด้วย ธุรกิจครั้งนี้เราคงไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว ขอตัว”
เห็นจิ้นเฟิงเฉินจะไป พิเอร์สก็รู้สึกกังวล
ตอนแรกเขานึกว่าจิ้นเฟิงเฉินเป็นเพียงนักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เอาเงินหลายสิบล้านออกมา เขาต้องยิ้มดีใจและตอบรับทันที
ไม่เคยคิดเลย ไม่มีประโยชน์ จิ้นเฟิงเฉินไม่เห็นมันอยู่ในสายตาเลย
ไม้อ่อนไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้แข็ง ดังนั้นเมื่อกี้เอโลนถึงได้เรียกบอดี้การ์ดมาขู่เขา
แต่กลับไม่ได้ผล
เขาเพิ่งเคยเจอคนที่ไม่กินทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง
“คุณเฟิง ช้าก่อน”
พิเอร์สขวางอยู่ข้างหน้าจิ้นเฟิงเฉิน พูดอย่างลำบากว่า “คุณเฟิง รอสักครู่ รอผมไปถามหัวหน้าก่อน จะรีบให้คำตอบคุณ”
“ได้ ผมรอคำตอบคุณ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า นั่งลงอีกครั้ง
พิเอร์สหาที่ค่อนข้างเงียบ แล้วโทรศัพท์
“เถ้าแก่ ทางนี้มีปัญหานิดหน่อย ทางคู่ค้าต้องการรู้ว่ายาจำนวนมากที่เราซื้อนำไปใช้ที่ไหน เรื่องนี้บอกเขาได้ไหม? ถ้าหากบอกเขาไม่ได้ เขาอาจจะไม่รวมงานกับเรา”
อีกฝั่งในโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงอันเย็นชาก็พูดว่า “เขาอยากรู้อะไร ก็บอกได้ แต่ก่อนอื่นต้องดึงเขาเข้ามาเป็นพวกเดียวกับเราก่อน สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่ผู้ร่วมงานระยะสั้น แต่เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบยาระยะยาวแบบไม่มีกำหนด เข้าใจไหม?”
“ได้ครับ เถ้าแก่ ผมเข้าใจแล้ว ผมไปบอกเขาเดี๋ยวนี้” พิเอร์สตอบ