ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 902 ยาพิษออกฤทธิ์
จิ้นเฟิงเฉินฟังเธอพูดเงียบๆ มุมปากยกยิ้มขึ้นสูง เมื่อกำลังจะพูด อีกฝั่งมีเสียงนุ่มนิ่มของเถียนเถียนเข้ามา
“หม่ามี๊กำลังคุยโทรศัพท์กับแด๊ดดี้เหรอคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินได้ยิ้ม ยิ้มออกมา ไม่มีเสียง
เพียงแค่ฟังเจียงสื้อสื้อตอบเสียงเบา “ใช่แล้ว เธอรู้ได้ยังไง?”
เถียนเถียนกอดขาของเธอ ใบหน้าเล็กๆ สวยงามยิ้มแล้วพูด “แน่นอนอยู่แล้ว หม่ามี๊มีความสุขขนาดนี้ ต้องคุยกับแด๊ดดี้แน่ๆ ใช่ไหมคะ?”
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าเถียนเถียนสังเกตละเอียดขนาดนี้ เธอพยักหน้า “ทำไมเธอฉลาดขนาดนี้ อืม? เหมือนเชอร์ล็อกโฮมส์ตัวน้อยเลย”
“แฮะๆ เถียนเถียนก็อยากคุยกับแด๊ดดี้!”
เถียนเถียนพูด และปีนเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ มือสั้นๆ จับมือสองเจียงสื้อสื้อ ถือโทรศัพท์ “แด๊ดดี้!หนูคือเถียนเถียนนะคะ ท่านจะกลับมาเมื่อไร? พวกเราคิดถึงท่านมาก!”
หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินนุ่มนิ่มทันที ปลอบเบาๆ “แด๊ดดี้ทำธุระเสร็จก็กลับไป ดีไหม? เถียนเถียนต้องเชื่อฟังหม่ามี๊นะ”
“ดีค่ะ!แด๊ดดี้ต้องเอาของอร่อยกลับมาให้เถียนเถียน แล้วก็ต้องให้พี่ชาย……”
……
เถียนเถียนเปิดลำโพงโทรศัพท์ คุยกับจิ้นเฟิงเฉิน ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยรอยยิ้มฟังพ่อลูกสองคนคุยกัน
เถียนเถียนพูดไปไม่น้อย แล้วคืนโทรศัพท์มือถือให้เจียงสื้อสื้อ จากนั้นตัวเองก็วิ่งลงไปเล่นที่ชั้นล่าง
น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินไม่เปลี่ยน ยังคงคุยกับเจียงสื้อสื้อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนปลอบเด็ก “สื้อสื้อ เธอและลูกๆ ก็ต้องรอฉันกลับมา รู้ไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าแล้วพูด “ฉันรู้ พวกเราจะรอนายกลับมา”
“แล้วก็ถ้าเธอไม่ สบายตรงไหน ต้องหาโม่เหยียและหานยู่ทันที ห้ามรอช้าเด็ดขาด……”
จิ้นเฟิงเฉินเตือนอย่างเป็นห่วง
สิ่งที่เขาห่วงที่สุดก็คือสุขภาพของเจียงสื้อสื้อ โดยเฉพาะตอนนี้เขาไม่อยู่ข้างๆ เธอ
เจียงสื้อสื้อตอบ “อืม” ยาวๆ ตอบรับด้วยเสียงนุ่มนวล “ฉันรู้ ร่างกายของฉัน ก็ต้องรักษาดีๆ แน่นอน นายไม่ต้องห่วงฉัน ตั้งใจทำงานของนาย เสร็จแล้วก็กลับมาเร็วๆ ดีไหม?”
เจียงสื้อสื้อรู้ดีว่าจิ้นเฟิงเฉินไปคุยงานที่อิตาลี เธอไม่อยากเพราะตัวเธอเอง ทำให้จิ้นเฟิงเฉินใจไม่อยู่กับตัว
ฟังเสียงนุ่มนวลที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือ จิ้นเฟิงเฉินจึงพยักหน้าแล้วพูด “ดี ฉันจะทำแน่นอน”
จริงๆ แล้ว จิ้นเฟิงเฉินจะไม่ห่วงเธอได้อย่างไร?
เพียงแต่ว่า ไม่อยากให้เธอคิดมาก
ทั้งสองคุยกันสักพัก ถึงจะวางสายอย่างเสียดาย
วางสายโทรศัพท์ เจียงสื้อสื้อเตรียมลุกขึ้นลงไปชั้นล่าง ใครจะนึกถึง ยังไม่ยืนให้นิ่ง ความรู้สึกมึนก็เข้ามาอย่างกะทันหัน
เธอรีบจับเก้าอี้ สิ่งของตรงหน้าพร่ามัวไปเล็กน้อย เธอหลับตา พักสองสามนาที สายตาถึงจะชัดเจนขึ้น
เธอวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความตกใจ ส่องกระจก แกะกระดุมเสื้อสองสามเม็ด
สายตาของเธอหยุดลงที่ผื่นแดงบนไหล่ หลังจากมองดีๆ สายตาจางลงทีละนิด มือดึงเสื้อขึ้นเล็กน้อย
หัวใจจมลงทันที
จริงๆ แล้ว เช้าวันนี้เธอเพิ่งตื่น ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อ ก็สังเกตเห็นว่าบนตัวเธอมีผื่นแดง
แต่ตอนนั้นเธอแค่คิดว่าตัวเองแพ้ ก็ไม่ได้สนใจมาก
แต่ว่า ตอนนี้ผื่นแดงกำลัง ดูเหมือนจะยืนยันการคาดเดาของเธอแล้ว
เมื่อกี้ตอนที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์ก็ไม่ได้เผลอหลุดพูดสักตัว เดิมทีแค่โชคดีนิดหน่อย ตอนนี้แค่แตะก็ขาด
เธอจะกล้าบอกจิ้นเฟิงเฉินได้ยังไง?
เจียงสื้อสื้อกลัวที่สุดก็คือทำให้เขาเป็นห่วง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ตัวเขาอยู่ต่างประเทศ บอกไปก็ทำอะไรไม่ได้ ยังทำให้ลำบากใจ
แต่ถ้าบอกครอบครัว งั้นผลที่ได้ก็เหมือนกัน เธอไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง
เจียงสื้อสื้อมองดูตัวเองในกระจกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เธอใช้น้ำเย็นล้างหน้าอย่างรวดเร็ว เหมือนทั้งตัวจะมีสติมากขึ้น
เธอมีแววตาที่แน่วแน่ขึ้น
จากนั้น หมุนตัวออกจากห้องน้ำ เดินไปที่ห้องแต่งตัว หาเสื้อกันหนาวที่คอสูง แล้วขับรถออกไปคนเดียว ไปทางศูนย์วิจัย
เธอเตรียมไปหาโม่เหยียและหานยู่ ถ้าให้พวกเขามาที่บ้าน งั้นพ่อจิ้นแม่จิ้นต้องรู้แน่ๆ
ดังนั้นเธอจะไปหาพวกเขาเอง แบบนี้จะปลอดภัยกว่า
เจียงสื้อสื้อก็ไปศูนย์วิจัยที่โม่เหยียอยู่เร็วมาก หลังจากที่เธอจอดรถ ก็เดินเข้าไป
โม่เหยียและหานยู่เห็นเจียงสื้อสื้อ ในใจก็ตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
ไม่มีทางที่เธอจะปรากฏตัวที่นี่อย่างไร้เหตุผล
“เช้านี้ฉันพบว่าบนไหล่ของฉันมีผื่นแดง และกำลังแพร่กระจาย”
หานยู่และโม่เหยียต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาพูดพร้อมกัน “มาตรวจที่นี่ก่อน”
พวกเขาไม่กล้ารอช้า เจียงสื้อสื้อเดินเข้าห้องทดลองกับพวกเขา ให้เจียงสื้อสื้อนอนลงบนเตียงก่อน
ขณะที่กำลังจะเข้าไปตรวจ เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะพูด “พวกเธออย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้เฟิงเฉินนะ”
โม่เหยียและหานยู่พยักหน้าตกลง ในสถานการณ์ที่ห้ามรอช้า ยังมีคำขอร้องอะไรที่ไม่สามารถตกลง?
ผ่านไปสักพัก เจียงสื้อสื้อถูกเข็นออกมา เธอนั่งอยู่อีกมุมรอผล
โม่เหยียและหานยู่มองดูผลตรวจ คิ้วขมวด
สถานการณ์ไม่ดีมากนัก
เจียงสื้อสื้อก็พอเดาได้ แต่เธอเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับสิ่งเลวร้ายที่สุด และพยายามเตรียมใจ
โม่เหยียและหานยู่เดินมา มองเจียงสื้อสื้อที่มีใบหน้าสงบ โม่เหยียพูด “แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเธอจะทำการต่อต้าน แต่ว่ายาพิษแพร่กระจายแรงมาก ส่วนน้อยเอาชนะแรงต่อต้านของเธอ ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า ดีกว่าที่เธอคิดไว้เยอะมาก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ว่าไม่มียารักษา
โม่เหยียเห็นว่าอารมณ์ของเธอยังนิ่ง จึงไปคิดวิธีรับมือกับหานยู่
นานมาก พวกเขาสองคนเดินออกมาอีกครั้ง ในมือถือขวดแก้ว
ข้าวในคือยาเม็ดสีขาว ยื่นให้เจียงสื้อสื้อ
โม่เหยียพูด “หลังจากที่กินยานี้ ประมาณสองชั่วโมงผื่นแดงบนร่างกายจะค่อยๆ หาย”
“อืม ขอบคุณพวกเธอมากนะ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าเล็กน้อย รับมา เปิดฝาอย่างไม่ลังเล นำยาใส่เข้ามาในปาก กลืนลงไปทันที
จากนั้นก็กลับไป เพื่อไม่ให้คนสงสัย
เจียงสื้อสื้อไปห้างสรรพสินค้า เดิมทีจะซื้อของเล็กน้อย สุดท้ายกลับเดินไปที่โซนเด็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ ซื้อของใช้และเสื้อผ้าให้เสี่ยวเป่าและเถียนเถียน
ในความเป็นจริง ในตู้เสื้อผ้าของเด็กน้อยสองคนยังมีเสื้อใหม่ไม่น้อย
ทุกเดือนจะมีคนส่งมาถึงบ้าน แต่ว่าเจียงสื้อสื้อก็อยากเลือกเสื้อให้พวกเขาด้วยตัวเอง
มองเสื้อที่ดูดีน่ารักโดยเฉพาะ เจียงสื้อสื้อซื้อให้เด็กน้อยทั้งสองไปหลายชุดในทีเดียว
เมื่อเจียงสื้อสื้อเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้า ในใจสงบลงมาก เหมือนว่าเธอแค่อารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ถึงจะออกบ้านมาช้อปปิ้ง
เจียงสื้อสื้อถือถุงช้อปปิ้ง ฝีเท้าเร็วขึ้นมาก
ในห้องทดลอง
โม่เหยียและหานยู่สวมชุดสีขาวเหมือนกัน สีหน้าบนใบหน้าตึงเครียดมาก