ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 925 ยาแก้พิษ
แม่ฝู้จ้องกล่องยานั้นอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเอ่ยปากถามหยั่งเชิงว่า “สื้อสื้อ หนูกับจิงเหวินกำลังทำอะไรอยู่ใช่ไหม จู่ๆ เขาก็หายตัวไปนานมาก แล้วอยู่ดีๆ ก็ส่งของกลับมา เขาทำเรื่องลับลมคมในอะไรหรือเปล่า”
เธอควรจะรู้จักลูกชายของเธอดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น ตั้งแต่ลูกชายหายตัวไป เธอถึงได้พบว่าตัวเองไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับฝู้จิงเหวินเลยสักนิด
“คุณแม่คะ คุณอย่าคิดไร้สาระ” แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เจียงสื้อสื้อจะบอกความจริงกับเธอ “จิงเหวินแค่ไปศึกษาเรื่องยาที่อื่นเท่านั้นเองค่ะ”
“งั้นทำไมเขาไม่ติดต่อกับครอบครัวมาเลยล่ะ”
“เอ่อ…” เจียงสื้อสื้อลังเล
เห็นเธอเหมือนมีท่าทีลำบากใจ แม่ฝู้จึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา “เขาทำเรื่องลับลมคมในจริงใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ” เจียงสื้อสื้อหลุดหัวเราะอย่างอ่อนใจ เธอตบมือของแม่ฝู้พลางปลอบว่า “ฉันแค่ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายให้ท่านฟังยังไงค่ะ”
เจียงสื้อสื้อครุ่นคิดอย่างจริงจัง ก่อนจะพูดต่อว่า “ที่เขาไม่บอกพวกคุณ เป็นเพราะกลัวว่าพวกคุณจะเป็นห่วง ครั้งนี้เขาไปสถาบันแห่งหนึ่งที่ต้องเก็บเป็นความลับ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้บอกคุณค่ะ”
“หนูไม่ได้โกหกฉันนะ” แม่ฝู้ค่อนข้างไม่เชื่อ
“คุณแม่ คุณรู้จักฉันดี เป็นไปได้เหรอคะที่ฉันจะโกหกคุณ” เจียงสื้อสื้อบึนปากมองเธออย่างไร้เดียงสา
แม่ฝู้ยิ้ม “ใช่จ้ะ หนูไม่โกหกฉันหรอก”
“ขอบคุณความเชื่อใจของคุณค่ะ”
เจียงสื้อสื้อแอบพูดขอโทษในใจ
เพราะสถานการณ์บังคับเธอถึงได้โกหก หวังว่าในอนาคตข้างหน้าถ้าแม่ฝู้รู้แล้วจะไม่ตำหนิเธอ
ไม่ได้เจอกันนานมาก แม่ฝู้กับเจียงสื้อสื้อจึงมีเรื่องมากมายพูดคุยกัน ทั้งสองคนคุยกันนานกว่าชั่วโมง จนเมื่อเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนกลับบ้านมาถึงได้หยุดลง
“คุณย่า”
เมื่อเห็นแม่ฝู้ ดวงตาของเถียนเถียนก็เปล่งประกายสดใส ขาสั้นๆ วิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของแม่ฝู้
“โอ้ว เด็กน้อยเถียนเถียนของฉัน” แม่ฝู้กอดเธอเอาไว้แน่น
หลังจากผ่านไปนานมากจนได้มาเห็นเถียนเถียนอีกครั้ง แม่ฝู้ก็ขอบตาชื้น
มองดูคนแก่กับเด็กกอดกัน เจียงสื้อสื้อก็เกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ความรู้สึกระหว่างเถียนเถียนกับพ่อฝู้แม่ฝู้ ก็เหมือนความรู้สึกของเธอกับพ่อจิ้นแม่จิ้น คิดว่าพวกเขาเป็นปู่ย่าตายายจากใจจริง
“สวัสดีครับคุณย่า” เสี่ยวเป่าเดินเข้าไปร้องเรียกอย่างน่ารัก
“เสี่ยวเป่าเด็กดี” แม่ฝู้ยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบศีรษะของเขา
สองเด็กน้อยล้อมรอบตัวแม่ฝู้พูดจาเจื้อยแจ้ว แม่ฝู้หัวเราะจนปากไม่หุบ ใบหน้ามีแต่ความรักต่อเด็กทั้งสองคน
หลังจากทำงานเสร็จจิ้นเฟิงเฉินก็ลงมาข้างล่าง เมื่อเห็นแม่ฝู้ดวงตาก็เกิดประกายวาบเล็กน้อย
“เฟิงเฉิน” หางตาเจียงสื้อสื้อเหลือบไปเห็นเขาลงมาข้างล่าง จึงรีบวิ่งไปหา
“อย่าวิ่ง”
จิ้นเฟิงเฉินส่งเสียงดุ ร่างกายของเธอไม่อนุญาตให้เธอทำเช่นนั้น
“อ้อ”
เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินจึงหยุดยืน จากนั้นจึงค่อยๆ เดินไปหาเขา
“คุณทำงานเสร็จแล้วเหรอ” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
“คุณแม่มาเยี่ยมฉันค่ะ” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเขาจะไม่ชอบที่แม่ฝู้มาหา
“ผมเข้าใจ”
จิ้นเฟิงเฉินจับมือเธอจูงไปหาแม่ฝู้
“คุณป้า สวัสดีครับ” ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบฝู้จิงเหวิน แต่ก็รู้สึกขอบคุณครอบครัวพวกเขามากที่ดูแลสื้อสื้อกับเถียนเถียน
“คุณจิ้น” แม่ฝู้ยืนขึ้นอย่างค่อนข้างอึดอัด
เมื่อเห็นดังนั้น เจียงสื้อสื้อจึงพูดว่า “คุณแม่คะ คุณเรียกเขาว่าเฟิงเฉินก็ได้ค่ะ อย่าเห็นเป็นคนอื่นคนไกลเลย”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วเธอก็กระตุกมือของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินเอียงศีรษะชำเลืองมองเธอ เกิดแววตายิ้มขึ้นมาแวบหนึ่ง
เธออยากให้เขาเสริมคำพูดของเธอ
ซึ่งเขาก็ทำตามนั้น
“คุณป้าครับ คุณเรียกผมว่าเฟิงเฉินก็ได้”
“โอเค เฟิงเฉิน” แม่ฝู้เรียกไปตามสถานการณ์
ทันใดนั้นโดยรอบก็เงียบลง แม้แต่เด็กทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดจา เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ค่อนข้างอึดอัด
เจียงสื้อสื้อกระแอมไอเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณแม่คะ คุณอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก่อนนะคะ ฉันมีบางอย่างต้องคุยกับเฟิงเฉินค่ะ”
“ไปเถอะจ้ะ” แม่ฝู้พยักหน้า
เจียงสื้อสื้อดึงเฟิงเฉินขึ้นไปชั้นบน แล้วยื่นกล่องยาที่แม่ฝู้นำมาให้เขา
“นี่คือสิ่งที่ฝู้จิงเหวินส่งให้คุณแม่ ให้ท่านนำมันมาให้ฉันโดยเฉพาะ”
จิ้นเฟิงเฉินใช้เวลาตรวจสอบนานมาก คิ้วขมวดเล็กน้อย “เธอยังพูดอะไรอีกไหม”
“ไม่มีค่ะ แม่ฝู้แค่บอกว่านี่เป็นของที่จิงเหวินแอบส่งมาให้ท่านลับๆ”
ยา?
ความลับ?
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาเล็กน้อย เอาโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายออก
เจียงสื้อสื้อมองดูเขาเดินไปที่หน้าต่าง ได้ยินเขาพูดกับคนที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือว่า “อยู่ในห้องแล็บเหรอ ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อพูดจบก็วางสาย
“มีอะไรเหรอ” เจียงสื้อสื้อถามอย่างสงสัย
จิ้นเฟิงเฉินหันกลับมา ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “สื้อสื้อ ฝู้จิงเหวินเชื่อถือได้ไหม”
เจียงสื้อสื้อชะงักไป “ทำไมจู่ๆ ถึงถามแบบนี้ล่ะ”
“ยานี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับไวรัสในร่างกายของคุณ” จิ้นเฟิงเฉินถือวิสาสะคาดเดา
เมื่อเขาพูดอย่างนั้น เจียงสื้อสื้อจึงนึกถึงคำพูดที่ฝู้จิงเหวินบอกขึ้นมาได้
ความจริงแล้วฝู้จิงเหวินบอกว่าจะช่วยเธอ เพราะช่วยเธอ ดังนั้นเขาจึงเข้าสถาบันวิจัยของเบอร์เกน
“เขาโง่เกินไปแล้ว” เจียงสื้อสื้อยิ้มขมขื่น
เธอไม่ต้องการให้เขาช่วยเธอในเส้นทางที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ เธอแค่อยากให้เขากลับไปหาพ่อแม่ของเขา ดูแลพวกท่านให้ดี อย่าทำให้พวกท่านต้องกังวลอีก
“ผมจะเอายาไปวิเคราะห์ ดูว่ามันเป็นยังไงบ้าง” จิ้นเฟิงเฉินพูด
แม้ว่าในใจเขาจะระบุฤทธิ์การทำงานในยานี้ของฝู้จิงหวินไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย เขายังอยากให้พวกโม่เหยียวิเคราะห์ให้ชัดเจนก่อน
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินนำยาไปที่สถาบันวิจัย
ทันทีที่โม่เหยียกับหานยู่ได้รับยาก็เริ่มวิเคราะห์และทดลองทันที
ไม่นานนักผลก็ออกมา
“คุณชาย”
โมเหยียและหานยู่เดินออกจากห้องทดลองด้วยความตื่นเต้น
เห็นสีหน้าท่าทางของพวกเขา จิ้นเฟิงเฉินก็รู้ว่าการคาดเดาของตัวเองนั้นถูกต้อง
“คุณชาย ยาที่คุณเอามาสามารถทำลายส่วนหนึ่งของส่วนประกอบเชื้อไวรัสได้ค่ะ!” ในขณะที่พูด เสียงของหานยู่สั่นเล็กน้อย
การที่พวกเขาจะตื่นเต้นก็เป็นเรื่องปกติ
เพราะวิจัยมานานแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านไม่เคยหยุด จู่ๆ ก็มียานี่มา และมันยังมีผลต่อไวรัส แน่นอนว่าต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา
“ก็หมายความว่ายานี่สามารถใช้ได้ ถูกไหม” จิ้นเฟิงเฉินยังคงถามยั้งด้วยความระมัดระวังอีกรอบ
“ใช่ครับ สามารถใช้ได้ แต่มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ยังต้องกำจัดไวรัสทั้งหมดและต้องศึกษาต่อไป”
“ไม่เป็นไร มีความคืบหน้าก็ดีแล้ว”
เบอร์เกนวิจัยไวรัสที่น่ากลัวนี้ออกมาได้ ไหนเลยจะสามารถทำลายมันได้ง่ายดายขนาดนั้น
ในตอนนั้นเอง เห้อซูหานก็โทรมาจากต่างประเทศ
“คุณชาย ฉันได้รับส่วนประกอบของไวรัสตัวใหม่มาแล้วค่ะ กำลังส่งกลับประเทศ”
ได้ยินข่าวนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก “ทำดีมาก จากนี้จับตาดูเบอร์เกนต่อไป”
“ค่ะ”
หลังจากจิ้นเฟิงเฉินวางสายก็เอายากลับไป
ทันทีที่กลับถึงบ้าน จิ้นเฟิงเฉินก็ให้เจียงสื้อสื้อกินยาทันที และจับตาดูปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายเธออย่างใกล้ชิดตามคำอธิบายของโม่เหยีย
กลัวว่ายาจะมีผลข้างเคียง