ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 949 คิดเสียว่าเป็นแค่ฉากประกอบเท่า
เมื่อกลับมานั่ง เถียนเถียนก็พูดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น
” หม่ามี๊ พี่ชายไม่ระวังเลยเดินไปชนคุณน้า ”
ได้ยินจบ เจียงสื้อสื้อก็รีบหันไปถามเสี่ยวเป่า ” ได้ขอโทษเขาไปหรือยังจ๊ะ ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า ” ครับ ผมขอโทษคุณน้าไปแล้ว ”
เจียงสื้อสื้อลูกหัวเด็กน้อยอย่างชื่นใจ ” เสี่ยวเป่าของเรานี่เก่งจังเลย ”
” หม่ามี๊ น้าคนนั้นสวยมากเลย ” เถียนเถียนพูดขึ้นมา ” ถ้าหนูโตไปหนูจะสวยให้เหมือนน้าคนนั้นให้ได้ ”
เมื่อได้ยินที่ลูกสาวตัวเองกำลังชมคนอื่นอยู่ เจียงสื้อสื้อก็มองตาจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นก็ถามแบบทำตัวหึง ๆ ว่า ” เถียนเถียน งั้นหม่ามี๊กับน้าคนนั้นใครสวยกว่ากันล่ะ ”
” อืม……. ”
เถียนเถียนเอียงหัว ตั้งใจเพ่งไปที่เธอแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวออกมา ” แน่นอนว่าต้องเป็นหม่ามี๊อยู่แล้วที่สวยกว่าน่ะ ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา เมื่อได้ยินคำชม แต่เด็กน้อยก็พูดขึ้นมาอีกประโยค ” น้าคนนั้นก็สวย เถียนเถียนชอบนะ ”
คนที่ทำให้เถียนเถียนให้คะแนนสูงขนาดนี้ เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะอยากเห็นหน้าหญิงสาวคนนั้น
” เถียนเถียน ลูกต้องจำไว้นะ หม่ามี๊คือคนที่สวนที่สุดในโลกใบนี้ ” จิ้นเฟิงเฉินสอนเถียนเถียนอย่างเอาจริงเอาจัง
เถียนเถียนผงกหัวไปมา ” หนูรู้แล้ว แด๊ดดี้หล่อที่สุดในโลก หนูกับพี่ชายก็คือเด็กน่ารักที่สุดในโลกเหมือนกัน ”
คำพูดของเด็กน้อยทำให้ทั้งสองคนอดขำไม่ได้
” อยู่เป็นจริง ๆ เลยนะ เด็กคนนี้ ” เจียงสื้อสื้อหยิกที่แก้มของเธอเบา ๆ
เถียนเถียนที่โดนชมก็ยิ้มจนคิวน้อย ๆ ยกขึ้น
แต่เรื่องนี้ไม่นานก็โดนพวกเขาโยนออกไปจากสมองเรียบร้อย เหมือนเป็นแค่ละครฉากเล็ก ๆ เอาไว้คั่นรายการแค่นั้นไม่ได้สำคัญอะไร
…..
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินจึงพาภรรยาและลูก ๆ กลับบ้าน
เด็ก ๆ พากันกินนู่นกินนี่ทั้งวัน อีกทั้งเล่นกันจนเหนื่อย กลับมาเลยอาบน้ำอาบท่าและเข้านอนไปแล้ว
” ถ้าพูดง่ายแบบนี้ทุกวันจะดีมากเลย ”
จิ้นเฟิงเฉินห่มผ้าให้เด็ก ๆ แล้วขำออกมา
เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วพูดต่อ ” เด็ก ๆ คึกคักกันมาก เล่นทั้งวันแต่ไม่บ่นเหนื่อยเลยสักคำ ฉันเหนื่อยจนแทบจะคลานอยู่แล้ว”
ได้ยินจบ แม่จิ้นก็รีบพูด ” ถ้างั้นเธอก็รีบไปกินข้าว เสร็จแล้วจะได้ไปพักผ่อน ”
เห็นท่าทีที่จริงจังของแม่จิ้น เจียงสื้อสื้อแกต่างพัลวัน ” แม่คะ ร่างกายของหนูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่าห่วงไปเลย ”
” ไม่ได้อ่อนแอได้ยังไง เมื่อวานยังเป็นลมอยู่เลย ” แม่จิ้นมองเธออย่างกังวล
” มันเป็นแค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ ” เจียงสื้อสื้อดึงมือของเธอมากุมอย่างใกล้ชิด ” แม่คะ หนูกับเฟิงเฉินอาจจะต้องกลับไปเมืองหลวงอีก คงต้องลำบากแม่เรื่องเถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าหน่อยนะคะ ”
” เราก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ไม่ได้ลำบากอะไรเลยจ้ะ ” แม่จิ้นตบไปบนมือเธอเบา ๆ ” ฝากทักทายคุณตาของเธอทีนะแล้วก็ให้แม่เธอรักษาดี ๆ ล่ะ พวกเรารอเธอกลับมาอยู่นะ ”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเจ็บที่จมูกเบา ๆ เธอพยายามหายใจ เพื่อสะกดน้ำตาเอาไว้ เธอยิ้มแล้วตอบกลับไป ” วางใจเถอะค่ะหนูจะบอกแม่ให้นะคะ ”
แม่จิ้นยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ” ไป พวกเราลงไปกินข้าวดีกว่า ”
กินข้าวเย็นเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็ขึ้นไปพักผ่อน แต่จิ้นเฟิงเฉินกับพ่อจิ้นไปห้องหนังสือ
” เฟิงเฉิน ที่อิตาลีเป็นเกิดอะไรขึ้น ” พ่อจิ้นเกริ่นอย่างตรงประเด็น
” ไม่มีอะไรครับ ก็แค่ทำสัญญาโครงการหนึ่งกับตระกูลฟาง ”
จิ้นเฟิงเฉินไม่อยากให้พ่อรู้เยอะเกินไป เพราะมันไม่เป็นการดีกับตระกูลจิ้น
” ร่วมมือกับทำโครงการอะไร ” พ่อจิ้นถามอย่างแปลกใจ
” เภสัชภัณฑ์ครับ ”
พ่อจิ้นผงกหัว ไม่ถามใด ๆ ต่อ ” ฉันได้ยินว่าเฟิงเหราก็เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แค่อยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ”
” พ่อ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน ”
” ไปเถอะ ”
จิ้นเฟิงเฉินกลับห้องไป เห็นเจียงสื้อสื้อที่กำลังละพิงหัวเตียงแล้วอ่านหนังสืออยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วถาม ” ทำไมยังไม่นอน ”
” รอคุณอยู่น่ะสิ ” เจียงสื้อสื้อเปิดหนังสือแล้ววางลงข้าง ๆ
จิ้นเฟิงเฉินเข้าเดินเข้ามา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ ว่า ” ถ้าเหนื่อยก็รีบพักผ่อนสิ ไม่ใช่รอผม ”
” ฉันไม่เหนื่อยเลย ” เจียงสื้อสื้อทำหน้าครุ่นคิด แล้วถามต่อ ” คุณคุยอะไรกับพ่อเหรอ ”
” เรื่องของบริษัทน่ะ ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า ” ฉันคิดว่าเขาเรียกคุณไปสั่งสอนเสียอีก ”
” ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ ”
” ก็ช่วงนี้เรื่องของฉันกับตระกูลฟาง เลยไม่ค่อยได้ดูแลบริษัทไง ”
พูดถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกไปต่อไปถูก
ถึงตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินจะเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร นอกจากจะตัดสินใจเรื่องสำคัญ อำนาจในการจัดการอื่น ๆ ก็ยกให้จิ้นเฟิงเหรา
แต่เธอก็รู้สึกว่าไปเสียเวลาการทำงานของเขา
” มีเฟิงเหราช่วย ผมก็รู้สึกวางใจแล้วล่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ” จิ้นเฟิงเฉินพูด ” สิ่งสำคัญที่ผมต้องทำในตอนนี้คืออยู่ข้าง ๆ คุณ ”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วเล็ก ๆ ” ทำไมฉันรู้สึกเหมือนคุณกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่เลย ไม่ใช่ว่าไวรัสในร่างกายของฉันมันเกิดอะไรขึ้นอีกหรอกนะ ”
วันนี้พาครอบครัวไปเที่ยวทั้งวัน แถมยังพูดว่าจะอยู่ข้าง ๆ กันเป็นเรื่องที่สำคัญแบบนี้อีก
ทำให้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติไป
” ไม่หรอก คุณอย่าคิดมากไปเลย รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องกลับไปเมืองหลวงอีก ”
จิ้นเฟิงเฉินลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน แล้วก็เดินเข้าห้องอาบน้ำไป
เจียงสื้อสื้อนอนลง ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่า รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก
เธอถอนหายใจยาว ๆ ถ้าไวรัสยังอยู่ ก็คงไม่มีใครสบายใจได้ทั้งนั้นแหละ
จู่ ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับไวรัสที่อยู่ในร่างกายของเธอแน่ ๆ
เจียงสื้อสื้อคิดนั่นคิดนี่จนผล็อยหลับไป
จิ้นเฟิงเฉินออกมา ก็เห็นเธอหลับไปแล้ว เลยดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวของเธอ แล้วจูบเธอเบา ๆ
” คุณต้องแข็งแรงนะ ” เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเบา ๆ
…..
เช้าวันต่อมา จิ้นเฟิงเฉินกับสื้อสื้อก็เดินทางไปเมืองหลวง
ขณะเดียวกัน ที่ฟางซื่อกรุ๊ป
” นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ ” ฟางยู่เชินเอาเอกสารฟาดลงบนโต๊ะในห้องประชุม
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะจะคุยเรื่องโครงการนี้ แต่คู่กรณีดันกลับคำเสียได้
” อะเชิน ลุงใหญ่ไม่ได้ตำหนิแกหรอกนะ แต่การที่แกไม่ได้เอาสัญญาไปให้เขาเซ็นให้เรียบร้อย แล้วค่อยบอกพวกเราว่าสำเร็จงานแล้ว แต่พอเกิดเรื่องที่เขามาเปลี่ยนใจอย่างนี้แล้ว ไม่ใช่การหลอกให้ทุกคนดีใจเปล่า ๆ เหรอ ”
ฟางเฉิงไม่รู้จะทำยังไง สีหน้าดูหมดหนทาง แต่ใจแอบสะใจเบา ๆ
โครงการครั้งนี้ เป็นงานแรกของฟางยู่เชิน
เขาคิดว่าถ้าครั้งนี้เขาทำสำเร็จ อีกหน่อยเขาคงต่อกรกับฟางยู่เชินได้ลำบาก
ฟางยู่เชินพยายามสงบอารมณ์ ไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ อีกฝั่งถึงเปลี่ยนใจ ทุกอย่างก็ตกลงกันไปหมดแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญาเท่านั้น
” อะเชิน แกยังเด็กเกินไป ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีใครเขาโทษแกหรอก ” ฟางรุ่ย ฟังเหมือนจะพูดแทนเขา อีกด้านกำลังประชดประชันว่าเขาเป็นวัยรุ่นที่ไม่เอาไหนอย่างเงียบ ๆ
” สัญญาครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับฟางซื่อกรุ๊ปมาก ครั้งนี้แกทำไม่สำเร็จ ฟางซื่อกรุ๊ปต้องขาดทุนไปตั้งเท่าไหร่ล่ะ ”
” ใช่ ยู่เชิน แกจะเอาแต่เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ คุณปู่ของแกยกบริษัทนี้ให้ เพราะว่าเชื่อมั่นในตัวแก แต่ตอนนี้แกจะทำให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวแกได้ยังไง ”
……
คณะกรรมการต่างพูดทีว่าที ในคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
ฟางยู่เชินเลยยกมือขึ้นกุมขมับไว้ และพูดด้วยเสียงกดต่ำว่า ” พวกคุณวางใจเถอะ ผมจะหาวิธีรับมือมันให้ได้ ”
” แกจะรับมือให้เราได้ยังไง ตอนนี้สัญญาก็ยังสำเร็จ แกจะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง ” ยังไงเสียฟางเฉิงก็ไม่ปล่อยให้เขาผ่านเรื่องนี้ไปได้ง่าย ๆ
ฟางยู่เชินยิ้มที่มุมปาก ” ลุงใหญ่ ตอนนี้ผมเป็นใหญ่ในบริษัท ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็จะรับผิดชอบมันทั้งหมด ”
ฟางเฉิงยิ้ม ” ดี อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะรับผิดชอบมันยังไง ”