ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 964 เชื่อได้หรือเปล่า
ซ่างหยิงเป็นห่วงสื้อสื้อมาก ดวงตาเธอแดงก่ำ
เจียงสื้อสื้อปลอบซ่างหยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกเธอว่าตนเองนั้นไม่เป็นไร
“ต่อไปถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกเราก่อน เข้าใจไหม เราจะให้ความยุติธรรมกับเธอเอง” ซ่างหยิงจับมือเธอเอาไว้แน่น
“ค่ะ น้าสะใภ้ หนูทราบแล้วค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าอีกครั้ง
เดิมมื้ออาหารที่อบอุ่นกลับโดนฟางเย้นซินสองพี่น้องมาทำให้หัวใจทุกคนหนักอึ้ง
วันต่อมา เจียงสื้อสื้อและซ่างหยิงพาเด็กทั้งสองไปโรงพยาบาล
ระหว่างทาง เจียงสื้อสื้อเตือน “น้าสะใภ้คะ เรื่องนี้ห้ามบอกแม่หนูเด็ดขาดนะคะ”
“ฉันรู้ แม้เธอไม่บอก ฉันก็ไม่พูดหรอก” ซ่างหยิงตบเบาๆ ลงบนมือของเธอ
“ขอบคุณนะคะ น้าสะใภ้”
ซ่างหยิงแสร้งทำเป็นไม่พอใจ “มาขอบคุณอะไรกัน”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฟางเสว่มั่นมองเห็นเสี่ยวเป่าและเถียนเถียน รอยยิ้มประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดขาว “โอ้ เสี่ยวเป่า เถียนเถียน ที่รักของฉันมาแล้ว”
“คุณยาย”
เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนวิ่งเข้าไปหาเธอ
เมื่อนึกถึงคำที่แม่เคยบอกเอาไว้ ว่าคุณยายไม่สบายกอดไม่ได้ พวกเขาจึงหยุดอยู่ข้างเตียง เถียนเถียนตะโกนเรียก
“เด็กดี” ฟางเสว่มั่นโน้มตัวไปกอดพวกเขา จากนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเจียงสื้อสื้อ
“พวกเขามาได้ยังไง”
“ปิดเทอมพอดีค่ะ เฟิงเฉินเลยพาพวกเขามาสักสองสามวัน”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ฟางเสว่มั่นพยักหน้า “ที่นี่โรงพยาบาล อย่าให้พวกเขาอยู่นาน มันไม่ดี”
เด็กน้อยเดิมภูมิคุ้มกันก็ต่ำอยู่แล้ว ที่นี่มีเชื้อโรคมากมายหากติดไป มันไม่ดี
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “แม่ อย่ากังวลไปเลยค่ะ เดี๋ยวเราก็ไปแล้ว”
เธอตบไหล่เด็กทั้งสองเบาๆ บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เด็กๆ คุยกับคุณยายไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่ไปดูตาทวด”
“หม่ามี๊ ผมไปด้วย” เสี่ยวเป่าบอก
เมื่อเขาพูดแบบนั้น เถียนเถียนก็เอ่ยตาม “หนูก็จะไปด้วย”
“เอ่อ…” เจียงสื้อสื้อลำบากใจขึ้นมา อาการของคุณตาไม่ดีเท่าที่ควร กลัวเด็กทั้งสองนั้นตกใจ
ตอนนั้นเอง ซ่างหยิงจึงบอก “ไปเถอะ พาพวกเขาไปดูสักหน่อย”
เด็กทั้งสองมาที่นี่เพียงไม่กี่วัน ถ้าครั้งนี้ไม่เจอ บางที…อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น หัวใจของซ่างหยิงก็หนักอึ้งอย่างห้ามไม่ได้
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ เราไปกันเถอะ”
เธอจูงมือเด็กๆ ออกจากห้องพักผู้ป่วย
มองตามพวกเขาออกไปแล้ว ฟางเสว่มั่นจึงหันมาหาซ่างหยิง ยิ้มบอก “หยิงหยิง เมื่อวานพี่รองกับพี่สะใภ้มาที่โรงพยาบาล”
ได้ยินดังนั้น หัวใจของซ่างหยิงก็กระตุกวูบ ไม่นานก็เข้าใจว่าพี่รองและพี่สะใภ้มาทำอะไร
“พวกเขาพูดอะไรหรือเปล่า” ซ่างหยิงลอบถาม
“บอกว่ามาขอโทษสื้อสื้อ เหมือนว่าสื้อสื้อกับเย้นชิงจะผิดใจกัน”
หัวคิ้วฟางเสว่มั่นขมวด “เธอว่าพวกเขาจะทะเลาะอะไรกัน”
ซ่างหยิงคิดอยู่ชั่วครู่ ยิ้มออกมา “เด็กหนุ่มสาว ก็คงหนีไม่พ้นโต้เถียงกันละมั้ง เธอไม่ต้องสนใจหรอก ให้เขาไปจัดการกันเองดีกว่า”
“แบบนั้นเหรอ” ฟางเสว่มั่นรู้สึกว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น
“แน่นอนสิ” ซ่างหยิงหัวเราะ “ไม่งั้นเธอคิดว่ามันจะหนักขนาดไหน เอาล่ะ ไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้แล้ว ทานอาหารเช้าก่อนดีกว่า”
จากนั้น เธอหมุนตัว ลอบถอนหายใจ จากนั้นเดินไปหยิบกล่องเก็บความร้อนมา
……
คุณท่านฟางอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เงียบมาก ได้ยินเพียงเสียงเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ
เถียนเถียนเห็นคุณตาที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เสียงใสเอ่ยถาม “หม่ามี๊ คุณทวดนอนหลับเหรอคะ”
“อืม นอนหลับแล้ว”
จมูกเจียงสื้อสื้อแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ รีบสูดลมหายใจลึก บอกกับเขา “คุณทวดนอนหลับแล้ว เด็กๆ ต้องเชื่อฟัง เข้าใจไหมคะ”
“ครับ/ค่ะ” เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย
เจียงสื้อสื้อลูบศีรษะพวกเขาอย่างอ่อนโยน จากนั้นหันกลับไปมองคนแก่ เอ่ยเบาๆ “คุณตา หนูพาเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนมาเยี่ยม คุณตาต้องรีบหายไวๆ นะคะ”
พูดไป น้ำตาก็ไหลลงมา
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ร้องไห้” เสี่ยวเป่ามองเห็น
เถียนเถียนได้ยินแบบนั้นจึงรีบขยับเข้าไป เอียงศีรษะเล็ก เอ่ยด้วยท่าทางใสซื่อ “หม่ามี๊ ร้องไห้ทำไมคะ เสียใจใช่ไหม”
เจียงสื้อสื้อเช็ดน้ำตา ยิ้มพลางส่ายหน้า “เปล่า”
เธอกอดเด็กทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขน บอกเสียงเบา “เด็กๆ คุยกับคุณทวด หน่อยเร็ว ถ้าคุณทวดได้ยินคงจะรีบตื่นขึ้นมาเร็วๆ ”
“จริงเหรอครับ/คะ” เด็กทั้งสองดวงตาเป็นประกาย
เธอยิ้มพยักหน้า “จริงสิคะ”
ดังนั้นเด็กทั้งสองจึงปืนขึ้นไปบนเตียง
“คุณทวด แด๊ดดี้บอกว่าคุณทวดเดินหมากเก่ง เสี่ยวเป่าอยากให้คุณทวดสอนเดินหมาก รอคุณทวดตื่นแล้วต้องสอนเสี่ยวเป่านะครับ เราสัญญากันแล้วนะ”
เสี่ยวเป่าจับนิ้วมือเขาเอาไว้ ถือว่าทำสัญญาแล้ว
เถียนเถียนเอียงศีรษะ ตั้งใจคิดว่าจะพูดอะไร
เธอลองคิด เหมือนจะนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร เสียงเล็กจึงบอก “คุณทวด เถียนเถียนรักคุณทวดมาก รอคุณทวดตื่นแล้วต้องมาเล่นกับเถียนเถียนนะคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวเป่าจึงขมวดคิ้วราวกับผู้ใหญ่ “คุณทวดเป็นผู้ใหญ่ จะมาเล่นกับเธอได้ยังไง”
“ไม่สนหรอก หนูจะให้คุณทวดมาเล่นกับหนู” เถียนเถียนยืนยัน
เจียงสื้อสื้อกอดเธอเอาไว้ “เอาล่ะ รอคุณทวดตื่นแล้วค่อยมาเล่นกับหนูนะคะ”
ทั้งสามคุยกับคุณท่านฟางอีกเล็กน้อย จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องของฟางเสว่มั่น
ฟางเสว่มั่นกำลังทานอาหารเช้ามองเห็นพวกเขาจึงกวักมือเรียก “เสี่ยวเป่า เถียนเถียนมานี่เร็ว คุณยายมีอะไรอร่อยๆ ด้วยนะ”
เมื่อได้ยินว่ามีอะไรอร่อยๆ เด็กทั้งสองก็วิ่งเข้าไปหาทันที
ฟางเสว่มั่นหยิบของว่างให้พวกเขาคนละชิ้น จากนั้นบอกอย่างเอ็นดู “ค่อยกินนะ”
“แม่ พวกเขากินแล้ว” เจียงสื้อสื้อบอก
“เด็กๆ ทานเยอะๆ หน่อยไม่เป็นไรหรอก”
มองเด็กทั้งสองทานอย่างมีความสุข เธอเองก็ดีใจ ทานโจ๊กจนหมดถ้วย
“สื้อสื้อ เธอจะพาเด็กๆ ไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ” ซ่างหยิงถามขึ้นมา
“หนูรอเฟิงเฉินมารับน่ะค่ะ”
เจียงสื้อสื้อบอก ก้มดูนาฬิกา ขมวดคิ้วเล็กน้อย จะสิบโมงแล้ว ทำไมเฟิงเฉินยังไม่มา
ขณะเดียวกัน ณ ฟางซื่อกรุ๊ป
“เขาพูดแบบนี้จริงๆ เหรอ”
จิ้นเฟิงเฉินนั่งอยู่บนโซฟา ขาไขว่ห้าง นิ้วมือยาวเคาะเบาๆ
“เขาแสดงออกว่าอยากร่วมมือกับเรา” ฟางยู่เชินบอก
จิ้นเฟิงเฉินขบคิด เสียงทุ้มเอ่ยตาม “ตระกูลซ่างกวนเป็นยังไง เชื่อถือได้หรือเปล่า”
“ไม่ต่างกับตระกูลฟางมาก แต่มีข้อได้เปรียบกว่า”
“หืม”
“พวกเขามีนักวิจัยของตนเอง เห็นว่าเป็นคนเก่งที่ไปขุดมาจากต่างประเทศทั้งนั้น”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลง ท่าทางใช้ความคิด
ฟางยู่เชินเอ่ยต่อ “ฉันเห็นว่าซ่างกวนเชียนนั้นจริงใจ บางทีเราอาจตอบรับได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นมาถามอีก “คุณมั่นใจเหรอ”