ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 965 ไม่ง่ายเลย
“ตระกูลซ่างกวนมีกำลัง อีกทั้งยังมีนักวิจัยและศูนย์วิจัยเป็นของตัวเอง นี่เป็นคู่ค้าที่เหมาะสม” ฟางยู่เชินวิเคราะห์
จิ้นเฟิงเฉินลองคิดดู “บอกซ่างกวนเชียน ฉันต้องการคุยกับเขาด้วยตัวเอง”
ได้ยินดังนั้น ฟางยู่เชินก็เผยใบหน้าดีใจ พยักหน้า “ได้ ได้ เดี๋ยวฉันติดต่อเขาเอง”
“มีอะไรค่อยบอกฉัน ฉันไปรับสื้อสื้อก่อน”
จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นจากโซฟาเดินออกไปทันที
เวลาใกล้เที่ยง จิ้นเฟิงเฉินจึงมาถึง
“แด๊ดดี้ เราจะไปไหนกันคะ”
เมื่อขึ้นรถ เถียนเถียนก็ถามอย่างตื่นเต้น
จิ้นเฟิงเฉินหันกลับไปมองเธอ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้น บอก “เราจะไปทานข้าวกันก่อน จากนั้นไปเดินซื้อของที่ห้องสรรพสินค้ากันครับ”
“หนูอยากไปสวนสนุก” เถียนเถียนบอก
สวนสนุกมักเป็นจุดอ่อนของเด็กๆ เสมอ พวกเขาจะไปไม่มีเบื่อ
“เถียนเถียน เราจะไปสวนสนุกวันหลังนะคะ วันนี้ไม่ทันแล้ว” เจียงสื้อสื้อปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“งั้นหม่ามี๊ต้องพูดคำไหนคำนั้นนะคะ”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ “ค่ะ คำไหนคำนั้น”
ทั้งหมดเดินทางมาถึงร้านน้ำชาในเมืองหลวง
“หม่ามี๊ เรานั่งตรงนั้นดีไหมครับ” เสี่ยวเป่าจูงมือสื้อสื้อ ชี้ไปที่ที่นั่งมุมหนึ่งของร้าน
นั่นเป็นที่นั่งติดหน้าต่าง
“ได้ เรานั่งตรงนั้นกัน”
เจียงสื้อสื้อจูงมือเด็กทั้งสองเดินเข้าไป จิ้นเฟิงเฉินเดินตามอยู่ด้านหลัง
หลังจากเข้าไปนั่งแล้ว เจียงสื้อสื้อยื่นเมนูอาหารให้เด็กๆ “เด็กๆ อยากทานอะไรคะ เลือกเองนะ”
ซ่างกวนหยวนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ไม่คิดว่าจะได้เจอครอบครัวของจิ้นเฟิงเฉินที่นี่
มองดูครอบครัวอบอุ่นทั้งสี่คน เขาพลันกำแก้วในมือแน่น
“หยวนหยวน เธอมองอะไรอยู่ “เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองตามสายตาของเธอ ขมวดคิ้วสงสัย “เธอรู้จักพวกเขาเหรอ”
ซ่างกวนหยวนดึงสายตากลับคืนมา ตอบเสียงเรียบ “เคยเจอครั้งหนึ่งน่ะ”
เพื่อนรู้สึกได้ว่าอารมณ์เธอแปลกไป จึงลองคาดเดาดู “คงไม่ใช่แฟนเก่าหรอกใช่ไหม”
“เธอคิดอะไรอยู่” ซ่างกวนหยวนจ้องเขาเขม็ง “ถ้าฉันมีแฟนที่เพอร์เฟคขนาดนี้คงไม่ปล่อยให้เขากลายเป็นแฟนเก่าหรอก”
เมื่อพูด เธอก็เหลือบไปมองจิ้นเฟิงเฉิน
“งั้นเหรอ เพอร์เฟคมากเลยเหรอ” เพื่อนหันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นพยักหน้าเห็นด้วย “แม้จะมองไม่เห็นหน้าชัดๆ แต่สัมผัสได้ว่าไม่เลว”
ซ่างกวนหยวนหัวเราะ “ฉันกลัวว่าถ้าเธอเห็นหน้าเขาชัดๆ แล้วจะไม่เอาแฟนตัวเองน่ะสิ”
เพื่อนเอ่ยเสียงหยัน “ในสายตาของฉัน ไม่มีใครสู้ที่รักของฉันได้หรอก”
มองท่าทางอวดดีของเธอ ซ่างกวนหยวนพลันนึกอะไรขึ้นมาได้
เธอลุกขึ้น
เพื่อนถามอย่างหวาดระแวง “เธอจะทำอะไร”
ซ่างกวนหยวนยิ้ม “ไปทักทาย”
เมื่อพูดจบ ไม่รอให้เพื่อนตอบสนอง เธอเดินตรงไปทันที
เจียงสื้อสื้อและเด็กๆ กำลังจะสั่งอาหาร พลันได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้น “สื้อสื้อ”
เธอเงยหน้า เมื่อมองเห็นซ่างกวนหยวน เธอก็ชะงักไป จากนั้นดึงสติกลับมา รีบลุกขึ้นยืน “คุณหนูซ่างกวน”
ซ่างกวนหยวนยิ้มออกมา หันไปพยักหน้าทักทายจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นบอก “ฉันเองก็มาทานข้าวที่นี่ มองเห็นพวกคุณพอดี เลยเข้ามาทักทายค่ะ”
จากนั้นเธอหันไปหาเสี่ยวเป่าและเถียนเถียน เบิกตากว้าง “นี่เป็นลูกของคุณเหรอคะ น่ารักไม่เบาเลย”
เสี่ยวเป่ามองเธอตาไม่กะพริบ
เจียงสื้อสื้อสังเกตได้ คิดว่าแบบนั้นเสียมารยาท จึงบอกเสียงเบา “เสี่ยวเป่า อย่ามองคนอื่นแบบนั้นสิ รีบทักทายคุณน้าเร็ว”
“คุณคือพี่สาวคนนั้นที่สวนสนุก” เสี่ยวเป่าเอ่ยขึ้น
“สวนสนุกเหรอ” ซ่างกวนหยวนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“คุณคือพี่สาวที่พี่ชายชนเข้า”
คำพูดของเถียนเถียนทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเข้าใจทันใด
“ที่แท้ก็เป็นเธอเองเหรอ” ซ่างกวนหยวนมองเสี่ยวเป่าด้วยท่าทางตกใจ
เสี่ยวเป่ายิ้มเขินอาย “ครับ”
เจียงสื้อสื้อรีบบอก “เรื่องครั้งก่อนที่เสี่ยวเป่าชนคุณ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันผ่านไปแล้ว” สายตาของซ่างกวนหยวนแอบมองจิ้นเฟิงเฉินอยู่เงียบๆ พูดต่อ “ไม่คิดเลยว่าเราจะมีวาสนาต่อกันขนาดนี้”
“นั่นสิคะ เราช่างมีวาสนาต่อกันจริงๆ ”
บนโลกใบนี้ยังมีความบังเอิญแบบนี้เกิดขึ้น
ทั้งสองคุยกันอีกเล็กน้อย ซ่างกวนหยวนก็เดินกลับที่นั่งของตนเอง
เจียงสื้อสื้อโบกมือให้เธอ จากนั้นนั่งลง เอ่ยอย่างตื่นเต้น “เฟิงเฉิน คุณว่ามันเกิดเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง” จิ้นเฟิงเฉินมองเธออย่างแปลกใจ
ท่าทางของเธอ ดูเหมือนจะชื่นชอบซ่างกวนหยวนคนนี้มากทีเดียว
เพียงแต่…
“บางทีมันก็บังเอิญจนเกินไป แบบนั้นไม่เรียกความบังเอิญ” จิ้นเฟิงเฉินบอกเสียงเรียบ
“คะ? ”
เจียงสื้อสื้อยังคงหมกมุ่นอยู่กับพรหมลิขิตของเธอกับซ่างกวนหยวน ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาอยากจะสื่อ
มองหน้าเธอที่งงงวย จิ้นเฟิงเฉินพลันหัวเราะ
ใช่ เธอเป็นแบบนี้ตลอด มองทุกคนเป็นคนดีไปหมด
หรือบางทีเขาอาจไม่ควรมองให้มันซับซ้อน บางทีซ่างกวนหยวนคนนั้นอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับสื้อสื้อจริงๆ
“ไม่มีอะไร” จิ้นเฟิงเฉินเปลี่ยนเรื่อง “สั่งอาหารเถอะ”
เมื่อทานอาหารเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นไปจ่ายค่าอาหาร
“มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งจ่ายให้แล้วค่ะ” พนักงานบอก
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว
เมื่อเห็นความสงสัยของเขา พนักงานจึงบอก “คุณหนูซ่างกวนเป็นคนจ่ายค่ะ”
ซ่างกวนหยวน
ดวงตาจิ้นเฟิงเฉินไหววูบ เดินกลับโต๊ะไป
“จ่ายแล้วเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อถาม
“ซ่างกวนหยวนจ่ายแล้ว”
“ห๊ะ” เจียงสื้อสื้อตกใจ “เธอ…ทำไมเธอต้องช่วยเราจ่ายด้วยล่ะคะ ฉันไปถามเธอหน่อยดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอก ค่อยเลี้ยงเธอกลับ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “งั้นก็ได้ค่ะ”
เธอหันกลับไปบอกเด็กทั้งสอง “ไปเถอะ เราไปเดินซื้อของกัน”
เด็กทั้งสองเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ เดินนำหน้าอย่างร่าเริง เจียงสื้อสื้อรีบตามออกไป
จิ้นเฟิงเฉินหันไปมองพวกเขา ดวงตาคมเข้มขึ้น
ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าซ่างกวนหยวนคนนั้นไม่บริสุทธิ์ใจ
“เฟิงเฉิน เร็วสิ” เจียงสื้อสื้อหันกลับมาเร่ง
เขาเลิกคิด สาวเท้าเดินตามไป
……
ฟางอี้หมิงได้รับโทรศัพท์จากพิเอร์สก็แปลกใจ
เพราะการร่วมมือก่อนหน้านี้ จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่คิดว่าพิเอร์สจะติดต่อมาที่ตนเอง
“คุณฟาง คุณติดต่อคุณเฟิงได้ไหมครับ”
“คุณหมายถึงจิ้น…”
ฟางอี้หมิงเกือบหลุดปากออกไป จึงรีบถาม “ไม่ทราบว่าถามหาคุณเฟิงมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“แบบนี้ ก่อนหน้านี้ SAกรุ๊ปของเราสั่งวัตถุดิบยาจากเขา แต่กลับถูกเผาไป ดังนั้นเลยสั่งใหม่อีกรอบ”
สั่งใหม่อีกรอบ
ดวงตาของฟางอี้หมิงวาววับ นั่นมันเงินจำนวนไม่น้อยเลยนะ
“คุณต้องการวัตถุดิบยาตัวไหนบอกผมก็ได้ครับ”
พิเอร์สแปลกใจ “บอกกับคุณ ไม่ต้องบอกคุณเฟิงเหรอครับ”