ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 971 เหมือนอิจฉา
ฟางยู่เชินกลับถึงบ้านใหญ่ตระกูลฟาง ตรงไปที่ห้องหนังสือของชั้นสอง กลับไม่พบร่างของจิ้นเฟิงเฉิน
ถามพ่อบ้านถึงทราบว่าจิ้นเฟิงเฉินไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนกับเจียงสื้อสื้อ
ทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้เพียงขึ้นรถแล้วไปโรงพยาบาล
เจอจิ้นเฟิงเฉินที่โรงพยาบาล เขาพูดอย่างรีบร้อน “น้องเขย ฉันตรวจพบปัญหาแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย “ปัญหาอะไร?”
“นายมาดู”
ฟางยู่เชินวางโน๊ตบุ๊คไว้บนโต๊ะ จากนั้นเปิดกล้องวงจรปิด ปรับแถบความคืบหน้าไปยังจุดที่พบปัญหา
“ที่นี่แหละ” เขาชี้ไปที่ขอบของภาพ “หลังจากการวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่เทคนิค คลิปวิดีโอถูกตัดต่อ”
จิ้นเฟิงเฉินดูอย่างตั้งใจ หรี่ตาลง ยกมุมปากเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีการจัดเตรียม”
“ตอนนี้รู้ว่าคลิปวิดีโอถูกตัดต่อ แต่ว่าหากจะกู้คืนวิดีโอต้นฉบับค่อนข้างยาก”
พูดถึงเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าทั้งตัวของฟางยู่เชินยอมแพ้เล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อไม่ทน พูดปลอบโยน “ไม่สามารถกู้คืน เราก็ตรวจสอบอย่างอื่น ห่านป่าบินผ่านยังเหลือร่องรอย ฉันไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้”
“แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องลงมือจากตรงไหน” ฟางยู่เชินถอนหายใจ ยิ้มอย่างเจ็บปวด “ครั้งนี้เกิดเรื่องหนักขนาดนี้ ฉันถึงจะรู้อย่างจริงจังว่าความสามารถของฉันอยู่ที่ไหน”
พบปัญหาแล้วทำอะไรไม่ถูก สมองโล่งไปหมด
มีความนิ่งของประธานบริษัทที่ไหนกัน?
“ฉันไปสถานีตำรวจกับนาย” จิ้นเฟิงเฉินพูด
ฟางยู่เชินพยักหน้า “ได้”
จิ้นเฟิงเฉินหันไปพูดกับเจียงสื้อสื้อ “ฉันไปเป็นเพื่อนเขา เธออยู่เป็นเพื่อนคุณตากับคุณแม่ที่นี่”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ได้ ฉันรู้ นายไม่ต้องห่วงฉัน”
จิ้นเฟิงเฉินและฟางยู่เชินจากไป ห้องผู้ป่วยกลับมาเงียบสงบ
เจียงสื้อสื้อไปห้องผู้ป่วยข้างๆ
เมื่อกี้เพื่อไม่ให้คุณแม่รู้เรื่องโกดังของฟางซื่อกรุ๊ปไฟไหม้ เกรงว่าเธอจะเป็นห่วง ดังนั้นจึงออกมาคุยที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ
“พวกเธอคุยธุระเสร็จแล้วเหรอ?” ฟางเสว่มั่นเห็นเธอเข้ามา เปิดปากถาม
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
“ฉันเห็นท่าทางแบบนี้ของอะเซิน เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ฟางเสว่มั่นถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่า” เจียงสื้อสื้อเปลี่ยนเรื่องคุย ถาม “คุณแม่คะ ท่านจะพักผ่อนสักครู่ไหม ฉันดูก็ได้ค่ะ”
ฟางเสว่มั่นพยักหน้า “ได้สิ ลำบากเธอหน่อยนะ”
“ฉันมีอะไรให้ลำบากคะ”
เจียงสื้อสื้อพยุงเธอกลับห้องผู้ป่วยไปพักผ่อน จากนั้นตัวเองก็กลับมาที่ห้องผู้ป่วยของคุณท่านฟาง
เข้าไปไม่นานนัก ก็มีคนมาเคาะประตู
เธอรีบเดินไปเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูแล้วเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอตกใจจนเบิกตากว้าง “คุณหนูซ่างกวน”
คนที่มาคือซ่างกวนหยวน
“สื้อสื้อ” สีหน้าของอีกฝ่ายก็ตกใจเช่นกัน “ทำไมเธอ……ถึงอยู่ที่นี่?”
“ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนคุณตาของฉัน เธอล่ะ?”
เจียงสื้อสื้อเห็นในมือของเธอถือดอกไม้หนึ่งช่อ เข้าใจทันที พูดด้วยรอยยิ้ม “เธอมาเยี่ยมคุณปู่ของฉัน ถูกไหม?”
ซ่างกวนหยวนพยักหน้า “เป็นตัวแทนของตระกูลซ่างกวนมาเยี่ยมคุณท่าน”
“งั้นรีบเข้ามา”
เจียงสื้อสื้อเขยิบไปข้างๆ ให้เธอเข้ามา
“ตอนนี้คุณท่านเป็นยังไงบ้าง?” ซ่างกวนหยวนเดินเข้าไปด้านใน ถามเสียงเบา
“ยังเหมือนเดิม”
ซ่างกวนหยวนค่อยๆ วางดอกไม้ไว้บนหัวเตียง จากนั้นหันไปมองคุณท่านที่อยู่บนเตียง เสียงถอนหายใจออกมาจากปาก
“ยังจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่ฉันเจอคุณท่าน เขายังเป็นคนแก่ที่แข็งแรง คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้น”
เจียงสื้อสื้อเม้มปาก ยิ้มอย่างเจ็บปวด “ฉันก็คิดไม่ถึง”
จากน้ำเสียงของเธอฟังออกถึงความเศร้า ซ่างกวนหยวนหันหน้ามามองเธอ “คุณท่านต้องฟื้นแน่นอน”
คำปลอบของเธอทำให้เจียงสื้อสื้อยิ้มมุมปาก “ขอบคุณนะ”
ซ่างกวนหยวนยักคิ้ว เปลี่ยนเรื่องคุย ถาม “พวกเราออกไปคุยด้านนอกไหม?”
“ได้สิ”
เจียงสื้อสื้อตกลงอย่างไม่คิด
ทั้งสองลงมาที่สวนของชั้นล่าง นั่งลงบนเก้าอี้ยาว
ซ่างกวนหยวนมองรอบๆ พบผู้ป่วยที่มาเดินไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะยกมุมปาก “วันนี้อากาศดี จึงมีคนลงมาเดิน”
จู่ๆ เธอก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง หันไปมองเจียงสื้อสื้อ “แม่ของเธอก็อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่พาเธอลงมาเดินเล่น?”
“เธอเหนื่อย พักผ่อนแล้ว”
ตอบเสร็จ เจียงสื้อสื้อถึงรู้สึกแปลกๆ ขมวดคิ้ว “เธอรู้ได้ยังไงว่าแม่ของฉันอยู่ที่นี่?”
“ฉัน……” ซ่างกวนหยวนหลบสายตาอย่างทำตัวไม่ถูก “พี่ของฉันบอกฉันเอง”
“พี่ของเธอ?” คิ้วของเจียงสื้อสื้อขมวดแน่นกว่าเดิม
“เธอน่าจะรู้ตระกูลซ่างกวนในเมืองหลวงใช่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “รู้”
จู่ๆ เธอก็เข้าใจ “หรือว่าเธอเป็นตระกูลซ่างกวนนั้น?”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจในทันทีว่าทำไมเธอถึงตื่นเต้นขึ้นมา
“ก็คือคนนั้น……” เจียงสื้อสื้อนึกชื่อไม่ออกในทันที เธอพยายามคิด จากนั้นถาม “ซ่างกวนเชียนเป็นอะไรกับเธอ?”
“พี่ชายของฉัน” ซ่างกวนหยวนตอบช้าๆ
เมื่อได้ยิน เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้ม “โลกนี้กลมจริงๆ!
งานเลี่ยงการกุศลคืนนั้น เธอถูกซ่างกวนหยวนช่วยไว้ จากนั้นพี่ชายก็แนะนำซ่างกวนเชียนให้เฟิงเฉินรู้จัก ที่แท้ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน
ซ่างกวนหยวนตกใจเล็กน้อย “หรือว่าเธอรู้จักพี่ชายของฉัน?”
“รู้จักสิ รู้จักในงานเลี้ยงคืนนั้น”
ซ่างกวนหยวนได้ยินก็ยิ้ม “งั้นโลกก็กลมจริงๆ”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองท้องฟ้า “ฉันมาเมืองหลวงก็ไม่รู้จักใคร เธอเป็นคนแรกที่ฉันรู้จัก ขอบคุณจริงๆ ที่เธอช่วยฉันไว้ในคืนนั้น”
“นั่นก็สมควรนี่นา” ซ่างกวนหยวนมองเธอแล้วพูดต่อ “หลังจากนี้ถ้าเธออยู่ที่เมืองหลวงแล้วเบื่อ ก็มาหาฉันได้ ฉันพาเธอช้อปปิ้ง”
“ฉันโตที่เมืองหลวง ที่ไหนสนุกฉันรู้”
“จริงเหรอ?” เจียงสื้อสื้อหันหน้า มองเธออย่างคาดหวัง
ซ่างกวนหยวนยิ้ม “จริงสิ”
“งั้นจากนี้ถ้าสามีของฉันกลับเมืองจิ่น ฉันอยู่คนเดียวก็ไม่เบื่อแล้ว”
สายตาของซ่างกวนหยวนเป็นประกายเล็กน้อย ถามเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “สามีของเธอกลับเมืองจิ่นเมื่อไรเหรอ?”
“ยังไม่รู้เลย” เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้วเบาๆ ใส่เธอ “อาจจะพรุ่งนี้หรืออีกสองสามวัน”
“อ่อ” ซ่างกวนหยวนพยักหน้า แล้วถามต่อ “สามีของเธอ ก็คือประธานจิ้น หนุ่มขนาดนั้นก็เป็นประธานของจิ้นกรุ๊ป เก่งจริงๆ”
ได้ยินประโยคที่ชมจิ้นเฟิงเฉิน ในใจของเจียงสื้อสื้อก็ภูมิใจมาก แต่ใบหน้าก็พูดอย่างถ่อมตัว “ก็พอดีนะ เก่งธรรมดา”
“ลูกสองคนของพวกเธอก็น่ารักมาก” ซ่างกวนหยวนชมอีกครั้ง
ปากของเจียงสื้อสื้อจะฉีกถึงหูแล้ว ยังคงพูดอย่างถ่อมตัว “พอได้ๆ”
เธอไม่ได้สังเกตว่าสายตาของซ่างกวนหยวนแปลกไปเล็กน้อย
เหมือนไม่พอใจ และเหมือนอิจฉา
ซ่างกวนหยวนเงียบลง เจียงสื้อสื้อหันหน้าด้วยความประหลาดใจ
อีกคนรีบหลบอย่างรวดเร็ว พูดด้วยรอยยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเจอเธอ ดีใจจริงๆ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “เหมือนกัน”
ซ่างกวนหยวนหันข้าง “งั้นหลังจากนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว”
“อื้ม เพื่อน”
สำหรับเพื่อนคนแรกตั้งแต่ที่เธอมาเมืองหลวง เจียงสื้อสื้อรู้สึกดีใจจากใจจริง