ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 978 ห้ามเขาให้ฟื้น
วันต่อมา ฟางยู่เชินให้คนไปตรวจสอบว่าฟางอี้หมิงได้ประกาศส่งออกวัตถุดิบยาหรือไม่
ระหว่างรอผลการตรวจสอบ เขาก็ไปโรงพยาบาลที่หลี่เผิงอยู่
“หลังจากความพยายามของหมอ สถานการณ์ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ” พยาบาลพูด
นี่น่าจะเป็นข่าวดีที่ฟางยู่เชินได้ยินจากสองวันที่ผ่านมา
เขามองหลี่เผิงมี่อยู่บนเตียงผู้ป่วย จากนั้นถาม “คนจะรู้สึกตัวเมื่อไร?”
“หมอไม่ได้พูดค่ะ หากคุณอยากทราบ สามารถไปถามได้ค่ะ”
ดังนั้น ฟางยู่เชินจึงไปหาหมอที่รักษาหลี่เผิง
หลังจากที่เขาอธิบายความตั้งใจของเขาแล้ว หมอก็เงียบ
“ทำไมเหรอครับ?” ฟางยู่เชินถามอย่างสงสัย
หมอไตร่ตรองถ้อยคำ “ผู้ป่วยไม่ได้อาหารเป็นพิษธรรมดา”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่ายังไง อาหารเป็นพิษยังมีแบบซับซ้อนเหรอครับ?”
“ผมพูดอย่างเข้าใจนะครับ เขาติดพิษแล้ว”
“ติดพิษ?” ฟางยู่เชินคิดว่าตัวเองฟังผิด ถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณบอกว่าพิษจากยาใช่ไหม?”
หมอพยักหน้า “ใช่แล้วครับ เขาถูกคนวางยาพิษ”
“คุณทราบไหมครับว่าเป็นยาอะไร?” ฟางยู่เชินถาม
“ตอนนี้ยังตรวจสอบออกมา”
ฟางยู่เชินออกจากโรงพยาบาล ไปที่บริษัทโดยตรง
ในหัวเขาเต็มไปด้วยคำพูดของหมอ ที่แท้หลี่เผิงถูกคนวางยา อาการจึงหยักขนาดนึ้
ตอนนี้ทุกอย่างสามารถติดต่อกันแล้ว
ตั้งแต่โกดังไฟไหม้ถึงหลี่เผิงเป็นพิษ ฝ่ายตรงข้ามลงมือโหดร้ายขนาดนี้ ไม่มีจิตสำนึกเลยจริงๆ
ถึงบริษัท ฟางยู่เชินไปที่ห้องทำงานของฟางอี้หมิง
“ยู่เชิน นายมาได้ยังไง?” เมื่อฟางอี้หมิงเห็นเขา ก็แปลกใจมาก
ฟางยู่เชินมองเขาเย็นๆ
“เป็นอะไร?” ฟางอี้หมิงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“พี่ชาย นายเกลียดฉันมากใช่ไหม?”
ตำถามกะทันหันของฟางยู่เชิน ฟางอี้หมิงชะงักไปหลายวินาที จากนั้นก็รู้ตัว พูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะเกลียดนายได้ยังไงล่ะ?”
“ไม่เกลียด แล้วทำไมนายต้องทำแบบนั้น?” ฟางยู่เชินถาม
สีหน้าของฟางอี้หมิงมึนงง “ฉันทำอะไร? ยู่เชิน นายเป็นอะไร ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดอะไร?”
“นาย……”
คำพูดมาถึงข้างปากแล้วก็กลืนลงไป ฟางยู่เชินรู้สึกตัว
เขากำลังทำอะไร?
ในสถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าฟางอี้หมิงเป็นคนทำ เขาก็วิ่งมาโวยวาย
บ้าไปแล้วเหรอ?
นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยิ่งตีหญ้าให้งูตื่น
ฟางอี้หมิงเห็นสีหน้าของไม่ดี ถามอย่างเป็นห่วง “ยู่เชิน นายเจอเรื่องอะไรหรือเปล่า? ถ้าต้องการให้ฉันช่วย นายก็พูดตรงๆ”
ฟางยู่เชินเก็บอารมณ์ทั้งหมด ตอบกลับเบาๆ “ฉันไม่เป็นไร”
“แล้วเมื่อกี้นาย……” ฟางอี้หมิงปกปิดแสงในดวงตา ลองถาม
“ไม่มีอะไร ฉันแค่ฝัน แยกไม่ออกเลยงงนิดหน่อย”
เหตุผลนี้ปลอมเล็กน้อย แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงอธิบาย
“อ้อ” ฟางอี้หมิงทำท่าเข้าใจ จากนั้นก็ยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าในฝันฉันทำไม่ดีต่อนาย”
ฟางยู่เชินไม่ได้คุยเรื่องนี้ต่อ แต่เปลี่ยนเรื่องคุย “บริษัทเกิดเหตุการณ์หนักขนาดนี้ ช่วงนี้ลำบากนายหน่อยนะ”
ทั้งๆ ที่เป็นครอบครัวเดียวกัน ประโยคกลับเกรงใจและไม่คุ้นเคย
“ฉันลำบากนิดหน่อยก็สมควรแล้ว” ใบหน้าของฟางอี้หมิงยังคงยิ้มแย้ม ดูเหมือนจริงใจ
ฟางยู่เชินมองรอบๆ “ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันไปก่อนนะ”
“ไม่ดื่มกาแฟสักแก้ว?” ฟางอี้หมิงถาม
“ไม่เป็นไร”
พูดจบ ฟางยู่เชินหมุนตัวเดินจากไป
ฟางอี้หมิงมองประตูห้องทำงานเปิดออกแล้วปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หายไป ดวงตาโหดร้าย
ดูเหมือนว่าฟางยู่เชินสงสัยตัวเขาแล้ว
กว่าจะเจรจาธุรกิจกับSAกรุ๊ปได้ เขาไม่อยากล้มเหลวแบบนี้
ดังนั้น เขาจึงโทรศัพท์
เมื่อติดต่อได้ เขาก็ถามทันที “สถานการณ์ของหลี่เผิงเป็นยังไงบ้าง?”
“จากการรักษาของหมอ สถานการณ์ดีขึ้น อาจจะฟื้นขึ้นมา”
ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของฟางอี้หมิงตึงเครียดทันที พูดเสียงดัง “ห้ามให้เขาฟื้นเด็ดขาด!”
เมื่อหลี่เผิงฟื้น ทุกอย่างก็จบลง
“นายรู้ใช่ไหมว่าควรทำอย่างไร?” ฟางอี้หมิงถาม
คนฝั่งนั้นของโทรศัพท์นิ่งไปหลายวินาทีถึงจะตอบ “เข้าใจแล้ว”
……
เพื่อการตรวจสอบที่ง่าย ส้งหยาวผู้ช่วยของฟางยู่เชินเรียกพนักงานของแผนกคลังสินค้าทั้งหมดมาสอบปากคำ
เขากวาดมองพนักงานที่ยืนเป็นสองแถว เดินจากด้านซ้ายถึงด้านขวา เดินไปกลับสองครั้ง จึงถาม “พวกคุณมีอะไรจะพูดไหม?”
เงียบทั้งหมด
เขายิ้ม “พวกคุณน่าจะรู้ว่าโกดังไฟไหม้ครั้งนี้ เสียหายหนักมาก ฉันหวังว่าพวกคุณจะสามารถอธิบายสิ่งที่พวกคุณรู้ได้อย่างตรงไปตรงมา”
พูดถึงที่นี่ เขาหยุดลง “มิฉะนั้นพวกคุณทุกคนต้องรับผิดชอบ”
ทุกคนนายมองฉัน ฉันมองนาย ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความอยู่ไม่สุข
“ทำไม ยังไม่มีอะไรจะพูดอีกเหรอ?” ส้งหยาวถาม
ยังคงเงียบ
ส้งหยาวพยักหน้า “ได้ เรื่องไฟไหม้พวกคุณทุกคนรับผิดชอบด้วยกัน”
พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนกระวนกระวายแล้ว
เหมือนที่เขาพูด เสียหายหนักมาก ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถรับผิดชอบได้
ขณะนี้ หัวหน้าแผนกคลังสินค้าเดินออกมา “ผู้ช่วยส้ง ผมมีอะไรจะพูดครับ”
ส้งหยาวยักคิ้ว “นายพูดเลยก็ได้”
“คือแบบนี้ครับ ในช่วงบ่ายวันก่อนเกิดไฟไหม้ รองประธานฟางมาที่โกดัง”
“รองประธานฟาง? เขาไปทำอะไร?”
“เขาอยากได้วัตถุดิบยาบางชนิด แต่เพราะไม่มีการอนุมัติจากท่านประธาน ดังนั้นผมจึงปฏิเสธ”
“จากนั้นล่ะ?”
“เขาโน้มน้าวให้ผมเปิดโกดัง แต่ผมไม่เปิด หลังจากนั้นหลี่เผิงเรียกให้ผมไปเซ็นเอกสาร จากนั้นเขาก็คุยกับหลี่เผิงสักพักก็จากไปแล้ว”
“ก็หมายความว่ารองประธานฟางเคยติดต่อกับหลี่เผิง” ส้งหยาวคิดสักพักแล้วพูด “ทำไมก่อนหน้านี้นายถึงไม่พูด?”
หัวหน้าก้มหัว “ผมกลัว”
ส้งหยาวเข้าใจความหมายของเขา เขากลัวว่าตัวเองพูด รองประธานฟางจะหาเรื่องเขา
“ยังมีคนอื่นอีกไหม?”
“ไม่มีแล้วครับ”
ส้งหยาวมองไปที่คนอื่นๆ แล้วถาม “พวกคุณยังมีใครจะพูดอะไรอีกไหม?”
ทุกคนส่ายหน้า
“ได้แล้ว พวกคุณกลับไปทำงานเถอะ”
หลังจากรอทุกคนออกไป ส้งหยาวไปที่ห้องทำงานของประธาน บอกผลลัพธ์ที่เขาตรวจสอบมาให้ฟางยู่เชิน
“นายบอกว่าพี่ชายของฉันไปที่โกดัง?” ฟางยู่เชินถาม
“หัวหน้าของแผนกคลังสินค้าบอกแบบนี้ครับ”
ฟางยู่เชินหรี่ตา ตั้งใจคิด แล้วถาม “ตอนนั้นที่พวกนายตรวจสอบที่เกิดเหตุยังมีโหราเดือยไก่หรือเมล็ดต้นแสลงใจ ที่ไม่ถูกเผาไหม?”
หลังจากที่ส้งหยาวคิดดีๆ ส่ายหน้า “ไม่มีครับ มีแต่วัตถุดิบยาชนิดอื่น”
“ไม่ใช่” ฟางยู่เชินส่ายหัว “ฉันจำได้ว่าโหราเดือยไก่และเมล็ดต้นแสลงใจอยู่ด้านในสุดของโกดัง ไฟเริ่มเผาจากข้างนอก”
พูดถึงที่นี่ เขาบอกกับส้งหยาว “นายไปเก็บขี้เถ้าที่ถูกเผาในที่เกิดเหตุ ไปทำการตรวจ”
“ครับ” ส้งหยาวรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที