ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1247 แด๊ดดี้ หนูคือเถียนเถียนค่ะ!
“ไม่ว่าผมจะชอบใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
ฟางยู่เชินชี้ไปทางประตู แล้วเชิญให้เธอออกไป “ผมกำลังยุ่งมาก ไม่มีเวลามาดูแลคุณ เชิญออกไปด้วยครับ!”
“ฟางยู่เชิน!” เย่เสี่ยวอี้โกรธจนต้องกระทืบเท้า แล้วถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ
พอเห็นว่าเธอไม่ยอมออกไป ฟางยู่เชินจึงกดไปที่สายภายใน “ส้งหยาว มาเชิญคุณเย่ออกไปที!”
นี่เขาไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด!
เย่เสี่ยวอี้โมโหสุดขีด ชี้ไปที่จมูกของเขาแล้วด่าทอไปว่า “ฟางยู่เชิน คุณคิดว่านอกจากคุณแล้วฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับใครแล้วรึไง? คุณรู้รึเปล่าว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ตามจีบฉันอยู่?”
ฟางยู่เชินยิ้มออกมา “ถ้าเป็นแบบนั้น คุณเย่ก็รีบไปเลือกคนอื่นเลยครับ จะได้ไม่ต้องมาโมโหแบบนี้”
“นี่คุณ!” เย่เสี่ยวอี้โกรธจนพูดอะไรไม่ออก
ตอนนั้นเอง ส้งหยาวก็ได้เปิดประตูเข้ามา เขาสังเกตว่าบรรยากาศมันแปลกๆ จึงได้พูดอย่างระมัดระวังว่า “ท่านประธานครับ……”
“ช่วยพาคุณเย่ออกไปด้วย”
พูดจบ ฟางยู่เชินก็เหลือบมองไปที่เขา แล้วออกคำสั่ง
“ครับ”
ส้งหยาวเดินไปข้างๆ เย่เสี่ยวอี้ ยิ้มออกมา แล้วทำท่า “เชิญ” ให้กับเธอ
“ฟางยู่เชิน แล้วคุณจะเสียใจ!”
ทิ้งท้ายด้วยคำนั้น แล้วเย่เสี่ยวอี้ก็เดินจากไปด้วยความโมโห
ส้งหยาวรู้สึกโล่งอก แล้วรีบเดินตามไป
ในตอนที่ประตูปิดลง ฟางยู่เชินก็ปลดเนกไทออก พิงไปที่เก้าอี้ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ
เห็นทีเขาต้องรีบจัดการเรื่องคลุมถุงชนให้เรียบร้อยแล้ว ยิ่งปล่อยไว้มันจะยิ่งวุ่นวาย
แถมยังไม่ส่งผลดีกับเวยเวยด้วย
พอนึกถึงเหลียงซินเวย เขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ยื่นมือไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา พอหาเบอร์ของเธอเจอ ก็กดโทรออกไป
ไม่นาน ทางนั้นก็รับสาย
น้ำเสียงที่นุ่มนวลดังออกมาจากลำโพง “ยู่เชิน”
พอได้ยินเสียงของเธอ ฟางยู่เชินก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก แม้แต่รอยยิ้มที่มุมปากก็ดูลึกซึ้งขึ้นไปอีก
“ทำอะไรอยู่ครับ?” เขาถามไปเบาๆ
“กำลังจัดห้องอยู่ค่ะ”
เหลียงซินเวยหยิบมือถือแล้วเดินไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่ในห้องรับแขก ใบหน้าอันสดใสของเธอนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่หวานหยดย้อย
“คืนนี้คุณว่างมั้ยครับ?” ฟางยู่เชินถามต่อ
“ว่างค่ะ มีอะไรรึเปล่า? คุณอยากชวนฉันออกไปข้างนอกเหรอคะท”
“เราสองคนเป็นแฟนกัน การที่ผมชวนคุณออกไปข้างนอกมันก็เป็นเรื่องที่ปกติดีไม่ใช่เหรอครับ?” ฟางยู่เชินยิ้มไม่ตอบแต่ถามกลับ
“แล้วถ้าเกิดว่าฉันไม่ตกลงล่ะคะ?”
“งั้นก็ช่างมันเถอะครับ”
ฟางยู่เชินแสร้งเหมือนจะวางสาย แล้วน้ำเสียงที่ร้อนรนของเหลียงซินเวยก็ได้ดังออกมาจากมือถือ “ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นค่ะ”
ฟางยู่เชินยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “งั้นถึงเวลาผมจะไปรับนะครับ”
“ค่ะ”
ทั้งคู่คุยเรื่อยเปื่อยไปอีกพักหนึ่ง เหลียงซินเวยถึงยอมวางสายอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
สองมือโอบกอดมือถือไว้ที่อก เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
มันรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่จริงๆ เดิมทีเธอตั้งใจจะยอมแพ้ให้กับการรักข้างเดียวในครั้งนี้แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องมันจะกลับตาลปัตร จนพวกเธอได้มาคบกันได้
นี่เป็นการเดทครั้งแรกของพวกเธอ เธอจึงต้องแต่งตัวให้ดูดีหน่อย
พอคิดได้แบบนั้น เธอก็ยืนขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้อง หยิบกระโปรงในตู้ออกมา วางไว้บนที่นอน จากนั้นก็เลือกอย่างตั้งอกตั้งใจ
……
หลายวันมานี้เจียงสื้อสื้อไม่ได้มาที่บ้านเลย ซ่างกวนหยวนจึงนึกว่าเธอยอมแพ้ไปแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าจิ้นเฟิงเหราจะมาซะได้
แถมยังพาเด็กสองคนนั่นมาด้วย
“คุณซ่างกวนครับ ผมอยากเจอพี่ชายของผมครับ”
ซ่างกวนหยวนมองไปยังเด็กสองคนที่ยืนอยู่ข้างเขา แล้วทำเสียงฮึดฮัดออกมา “นี่คุณตั้งใจจะใช้เด็กสองคนนี้ทำให้เฟิงเฉินนึกถึงเรื่องราวในอดีตใช่มั้ย?”
จิ้นเฟิงเหรายิ้มออกมา “คุณซ่างกวนฉลาดมากเลยครับ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น คุณคิดว่าฉันจะยอมให้พวกคุณได้เจอเฟิงเฉินรึไง?” ความเยาะเย้ยตรงหว่างคิ้วของซ่างกวนหยวนชัดยิ่งกว่าเดิม
จิ้นเฟิงเหราไม่สนใจคำพูดของเธอ แล้วตะโกนออกไปทันที “จิ้นเฟิงเฉิน ผมรู้ว่าพี่อยู่ข้างบน พี่รีบลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของซ่างกวนหยวนก็เปลี่ยนไปทันที เธอตำหนิไปเสียงดังว่า “จิ้นเฟิงเหรา นี่คุณคิดจะทำอะไร?”
“ผมแค่จะเรียงให้พี่ชายของผมลงมา” จิ้นเฟิงเหรามองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เขาไม่อยู่!” ซ่างกวนหยวนกำหมัดแน่น “วันนี้เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว”
“เขาความจำเสื่อมไปแล้วไม่ใช่รึไง แล้วคุณวางใจปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกคนเดียวได้เหรอ?” จิ้นเฟิงเหรามองออกทันทีว่าเธอกำลังโกหก
สายตาของซ่างกวนหยวนเลิ่กลั่กไปแป๊บหนึ่ง “ฉะ……ฉันให้คนไปกับเขาด้วย”
พอคำพูดนั้นสิ้นสุดลง ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังลงมาจากชั้นบน “ใครกำลังเรียกผมอยู่ครับ?”
รูม่านตาของซ่างกวนหยวนหดเล็กลงทันที เธอรีบหันหน้าไป ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินที่เดินมาถึงตรงหน้าบันไดแล้ว เขากำลังมองลงมาข้างล่างด้วยสีหน้าที่สงสัย
จิ้นเฟิงเหราทำหน้าดีใจ แล้วรีบตะโกนไปว่า “พี่ครับ ผมเอง เฟิงเหราครับ”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปตามเสียง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจปรากฏอยู่ในสายตาของเขา หว่างคิ้วกระตุก เขาเหรอ
“เฟิงเฉินคะ คุณรีบกลับไปในห้องเร็ว ตรงนี้ฉันจัดการเอง” ซ่างกวนหยวนรีบวิ่งเข้าไป เพื่อห้ามไม่ให้เขาลงมาข้างล่าง
เธอกลัวว่าถ้าเขาเห็นลูกทั้งสองเข้า เขาอาจจะนึกถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาจริงๆ ก็ได้
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่น “เขามาหาผมไม่ใช่เหรอครับ?”
เขามองเห็นความตื่นตระหนกที่ซ่างกวนหยวนแสดงออกมาทั้งหมด จับมือเธอไว้ แล้วพูดปลอบไปเบาๆ ว่า “คุณไม่ต้องห่วง มันจะไม่เป็นไรครับ”
พูดจบ เขาก็จูงมือเธอเดินไปทางจิ้นเฟิงเหรา
ระหว่างนั้น เขาก็มองเห็นเด็กๆ ทั้งสอง
ยังไม่ทันเห็นหน้าตาของพวกเขาชัดเลย ก็ได้ยินพวกเขาเรียกตัวเองว่าว่า “แด๊ดดี้” ด้วยความดีใจ พร้อมกับวิ่งดุ่มๆ มาที่เขา กอดขาของเขาไว้คนละข้าง
เขาหยุดเดินทันที ก้มหน้าลง จ้องมองพวกเขาด้วยความสงสัย
พวกเขาเรียกตัวเองว่า……แด๊ดดี้เหรอ?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
“แด๊ดดี้ เถียนเถียนคิดถึงแด๊ดดี้มากๆ เลยค่ะ ทำไม่แด๊ดดี้ถึงไม่ยอมกลับบ้านเลยคะ?” เถียนเถียฯเงยหน้าที่อ่อนเยาว์ขึ้นมา ดวงตาสวยๆ คู่โตนั้นจ้องตรงมาที่เขา
“แด๊ดดี้ วันนี้พวกเรามารับแด๊ดดี้กลับบ้านครับ” เสี่ยวเป่าบอก
“ฉัน……” คำพูดของจิ้นเฟิงเฉินหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“เฟิงเฉิน”
“พี่ครับ”
จิ้นเฟิงเหรากับซ่างกวนหยวนเรียกออกมาพร้อมกัน ทั้งคู่หันมาสบตากัน ซ่างกวนหยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนว่า “เฟิงเฉิน คุณฟังฉันนะคะ พวกเขาตั้งใจมากระตุ้นคุณ ความจริงคุณไม่เคยมีลูก ไม่มีอะไรเลย มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น”
พอได้ยินแบบนั้น จิ้นเฟิงเหราก็ได้หัวเราะออกมา หัวเราะด้วยใบหน้าที่เยาะเย้ย “คุณซ่างกวนครับ การที่คุณพูดแบบนี้ออกมา คุณไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอครับ?”ซ่างกวนหยวนหันไปถลึงตาใส่เขา “จิ้นเฟิงเหรา อย่าคิดว่าการที่คุณพาเด็กสองคนนี้มา แล้วจะทำให้เฟิงเฉินจำอะไรขึ้นมาได้นะ มันคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด พวกคุณยอมแพ้ไปซะเถอะ”
“จริงเหรอครับ?” จิ้นเฟิงเหราเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดออกไปอย่างใจเย็นว่า “ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ต้องยอมแพ้”
พูดจบ เขาก็มองไปยังจิ้นเฟิงเฉิน
เขาไม่เชื่อหรอกว่าเด็กๆ ทั้งสองจะไม่ส่งอะไรกับพี่ใหญ่ในตอนนี้เลย
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้คิดถึงหนูกับพี่ชายมั้ยคะ?” เถียนเถียนพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล กอดขาของจิ้นเฟิงเฉินแล้วเขย่าไปมา
“นี่เด็กหนู ฉัน……”
พอจิ้นเฟิงเฉินเปิดปากพูด เถียนเถียนก็ “แง” ร้องไห้ออกมาทันที “แด๊ดดี้ หนูไม่ใช่เด็กหนู หนูคือเถียนเถียนไง……”
พอเธอร้องไห้ออกมาแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ร้อนรนขึ้นมาทันที เขายื่นมือจะไปอุ้มเธอ แต่ก็เกิดลังเลขึ้นมา
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ใจร้าย แด๊ดดี้จำเถียนเถียนไม่ได้แล้วเหรอคะ……” เถียนเถียนร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด