ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1321 เพราะว่าเขาเป็นคนของตระกูลจิ้นยังไงล่ะ
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่1321 เพราะว่าเขาเป็นคนของตระกูลจิ้นยังไงล่ะ
หลังจากที่เยี่ยมคุณท่านเสร็จแล้ว ตระกูลของเจียงสื้อสื้อกับฟางเสว่มั่นก็กล่าวอำลา แล้วตรงไปยังสนามบิน
ก่อนจะกลับไป เจียงสื้อสื้อโทรศัพท์ไปหาแม่จิ้นก่อน บอกว่าตัวเองกับลูกจะกลับบ้านแล้ว แต่ไม่ได้บอกกับพวกเขาว่าจิ้นเฟิงเฉินก็ไปด้วย
เธออยากจะเซอร์ไพรส์พวกเขา
คนขับรถไปรับพวกเขาที่สนามบิน ตอนที่เห็นจิ้นเฟิงเฉิน ก็ทั้งตกใจทั้งดีใจ
“คุณหญิง เป็นคุณชายจริงๆ เหรอ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้ายิ้มๆ “อื้อ ใช่คุณชาย”
“ถ้าคุณท่าน คุณหญิงรู้ว่าคุณชายกลับมาแล้ว จะต้องดีใจมากแน่ๆ ”
“ใช่น่ะสิ”
เจียงสื้อสื้อหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉิน กุมมือของเขา พร้อมกับพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน”พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
ระหว่างทาง จิ้นเฟิงเฉินเอาแต่มองนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลา ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ภาพวิวท้องถนนที่ผ่านไป มันรู้สึกคุ้นตาคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
สื้อสื้อบอกว่า เมืองจิ่นเป็นสถานที่ที่เขาเติบโตขึ้นมา แล้วก็เป็นสถานที่ที่พวกเขาได้มารู้จักกันด้วย มีความทรงจำมากมายของพวกเขาอยู่
“รู้สึกคุ้นเคยใช่ไหม?”
ข้างๆ หูมีเสียงที่อ่อนโยนของเจียงสื้อสื้อดังขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหัว หันไปสบกับแววตาที่เปล่งประกายสดใสของเธอ มุมปากยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้”มากๆ เลยล่ะ”
“เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปเดินเล่น ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว บางทีอาจจะมีส่วนช่วยในการฟื้นความทรงจำของคุณกลับมาก็ได้”เจียงสื้อสื้อพูดขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินตอบ”อื้อ”กลับมา ยิ้มให้กับเธอ แล้วหันสายตากลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง
แม่จิ้นตื่นขึ้นมาเช้าตรู่ ให้คนรับใช้ไปทำความสะอาดจัดระเบียบห้องที่เจียงสื้อสื้อและลูกๆ ทั้งสองคนพักอยู่
ส่วนตัวเธอเองก็เข้าครัวลงมือตุ๋นซุปไก่ด้วยตัวเอง
ช่วงเวลาที่เฟิงเฉินไม่อยู่ สื้อสื้อก็ดูผอมลงไปเยอะ เธอที่เป็นแม่สามีเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจอยู่ไม่น้อย
ตัดสินใจว่าอาศัยโอกาสที่เธอกลับมาในครั้งนี้ ดูแลฟื้นฟูร่างกายให้กับเธอให้ดีสักหน่อย
พ่อจิ้นมองเธอวุ่นไปวุ่นมา ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น”มีเรื่องอะไรก็ให้คนรับใช้ทำสิ คุณมานั่งเถอะ”
“ฉันไม่วางใจ”แม่จิ้นตอบกลับมาหนึ่งประโยค แล้วก็วุ่นต่อ
พ่อจิ้นส่ายหัวถอนหายใจ ไม่พูดอะไรอีก
ช่วงเย็น รถที่พาพวกของเจียงสื้อสื้อก็ขับแล่นเข้ามาในลานบ้านวิลล่า
พ่อจิ้นกับแม่จิ้นที่มารออยู่หน้าประตูก่อนแล้วก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที
“คุณปู่ คุณย่า”
เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนพอลงจากรถ ก็วิ่งกระโจนเข้าไปทันที
พ่อจิ้นกับแม่จิ้นแบ่งกันลูบหัวของพวกเขา แล้วก็หันมามองเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อค้ำประตูรถ ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างสดใส”พ่อ แม่ หนูพาเพื่อนมาด้วยหนึ่งคน พวกคุณจะต้อนรับไหม?”
แม่จิ้นพูดยิ้มๆ ขึ้นอย่างไม่มีข้อสงสัย”เพื่อนของลูก แน่นอนว่าต้อนรับอยู่แล้ว”
“ลงมาสิ พ่อแม่ของฉันต้อนรับคุณแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก”เจียงสื้อสื้อพูดกับคนที่อยู่ในรถ
พ่อจิ้นแม่จิ้นนึกว่าเป็นเพื่อนของเธอจริงๆ ใบหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตรใจดี
ตอนที่เห็นว่าคนที่ลงมาจากรถคือจิ้นเฟิงเฉิน ทั้งสองคนก็อึ้งตะลึงพูดอะไรไม่ออกอยู่ตรงนั้น
“พ่อ แม่”
เสียงของจิ้นเฟิงเฉินดึงสติของพวกเขากลับมา แม่จิ้นยกมือขึ้นกุมปาก น้ำตาคลออยู่เต็มเบ้าตา
ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้คือลูกชายที่พวกเขาคิดถึงอยู่ภายในใจตลอดเวลาจริงๆ
“กลับมาก็ดีแล้วๆ “พ่อจิ้นเมินหน้าไป แอบเช็ดน้ำตาที่หัวตา
“ขอโทษ ที่ทำให้ต้องเป็นห่วง”พอเห็นผู้อาวุโสทั้งสองขอบตาเริ่มแดง จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกเศร้ามากๆ
“เฟิงเฉิน ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”แม่จิ้นพุ่งเข้าไป กอดเขาไว้แน่น เหมือนกับว่าถ้าปล่อยมือออก เขาจะหายไปอีก
แม้ว่าจะจำพ่อจิ้นกับแม่จิ้นไม่ได้ แต่ก็ยังคงรู้สึกว่าคุ้นเคย สนิทสนมกับพวกเขาไม่น้อย
ดังนั้นจิ้นเฟิงเฉินจึงไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้แม่จิ้นกอดเอาไว้แบบนั้น
พอเห็นฉากตรงหน้านี้ เจียงสื้อสื้อก็น้ำตาซึม น้ำตาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นจนพร่ามัว
แม่จิ้นปล่อยจิ้นเฟิงเฉินออก มองเขาหัวจรดเท้า สุดท้ายสายตาก็มาหยุดที่ใบหน้าของเขา รู้สึกปวดใจไม่น้อย”ทำไมถึงผอมลงขนาดนี้?”
จิ้นเฟินเฉินยิ้มๆ “ผมไม่ได้ผอมลงสักหน่อย”
“ไม่ ลูกผอมลง”
แม่จิ้นมองไปยังเจียงสื้อสื้อ พร้อมกับพูดขึ้น”สื้อสื้อ รีบเข้าบ้านกัน แม่เตรียมซุปไก่ให้กับพวกลูกแล้ว ดื่มเยอะๆ จะเสริมสร้างสารอาหารให้กับร่างกาย”
“ขอบคุณค่ะแม่”
เข้าไปในบ้าน แม่จิ้นจูงจิ้นเฟิงเฉินเข้าไปในห้องอาหาร”นั่งลงก่อน เดี๋ยวแม่ไปตักซุปมาให้พวกลูกเอง”
“คุณย่า หนูก็อยากดื่มเหมือนกัน”เถียนเถียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
แม่จิ้นหยิกแก้มของเธอด้วยความรักเอ็นดู พูดยิ้มๆ “ได้สิ เดี๋ยวย่าจะตักให้หลานกับพี่ชายเดี๋ยวนี้แหละ”
มองแม่จิ้นเดินเข้าไปในห้องครัว เจียงสื้อสื้อยิ้มให้กับจิ้นเฟิงเฉินอย่างหมดหนทาง”แม่ก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นห่วงพวกเรามาก ฉันรู้ว่าคุณเสียความทรงจำ จำอะไรไม่ได้เลย แต่ฉันก็หวังว่าคุณจะคุ้นชินกับชีวิตหลังจากนี้นะ”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มตอบกลับไป”ผมจะต้องชินให้ได้”
นี่เป็นบ้านของเขา เขาจะไม่ชินได้ยังไง?
……
จิ้นเฟิงเหราพอได้รับโทรศัพท์จากพ่อ บอกว่าพี่ชายกลับมาแล้ว ก็ทิ้งงานในมือแล้วขับรถกลับบ้านทันที
พอเข้ามาในบ้าน เขาก็คว้าตัวของพ่อบ้านมา”พี่ล่ะ?”
“คุณชายอยู่ในห้องอาหารครับ”
พ่อบ้านพูดยังไม่ทันจบ จิ้นเฟิงเหราก็วิ่งตรงเข้าไปในห้องอาหารทันที
“รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง? รสชาติพอดีไหม?”แม่จิ้นพูดถามขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย”อร่อยมาก”
แม่จิ้นยิ้มอย่างมีความสุขทันที”อร่อยก็กินเยอะๆ ”
ในเวลานี้เองจิ้นเฟิงเหราก็พุ่งเข้ามา ตอนที่เห็นจิ้นเฟิงเฉิน ฝีเท้าก็หยุดชะงักลง ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความสุขความดีใจ
“พี่”เขาเรียกขึ้นอย่างระมัดระวัง
กลัวว่าที่ตัวเองเห็นจะเป็นภาพหลอน
จิ้นเฟิงเฉินเงยมอง สีหน้านิ่งๆ พยักหน้าเล็กน้อย
เป็นพี่ชายของเขาจริงๆ !
จิ้นเฟิงเหราเดินตรงเข้าไป กอดคอของเขาเอาไว้”พี่ ดีจังเลย ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว”
พอเห็นแบบนี้ แม่จิ้นก็ตีมือของเขาอย่างไม่สบอารมณ์”ระวังหน่อย อย่าไปรัดคอพี่ของลูกสิ”
จิ้นเฟิงเหรารีบปล่อยออกทันที”พี่ ไหนๆ พี่ก็กลับมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้เกี่ยวกับเรื่องวันหยุดของผมใช่ไหม?”
พอได้ฟังแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ชักมุมปาก
ที่อารมณ์ตื่นเต้นขนาดนี้ ก็เพื่อวันหยุดของตัวเองสินะ!
“วันหยุดอะไร?”จิ้นเฟิงเฉินถาม
“ก็พี่สัญญากับผม ว่าหวั่นหวั่นคลอดแล้วจะให้วันหยุดยาวกับผม ตอนนี้หวั่นหวั่นก็คลอดแล้ว ดังนั้น……พี่ก็น่าจะเข้าใจนะ”
“ในเมื่อคลอดแล้ว จะเอาวันหยุดไปทำไม?”จิ้นเฟิงเฉินชำเลืองตามองเขา
คำพูดนี้ก็คือสไตล์ของจิ้นเฟิงเฉิน
ถ้าไม่รู้ว่าความทรงจำของเขายังไม่กลับมาจริงๆ ล่ะก็ เจียงสื้อสื้อก็จะนึกว่าเขานึกอะไรออกแล้วแน่ๆ
“ไม่ใช่สิ!พี่ พี่จะพูดแล้วไม่มีความน่าเชื่อถือแบบนี้ไม่ได้นะ”จิ้นเฟิงเหราพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ฉันจำไม่ได้ นายจะให้ฉันพูดแล้วน่าเชื่อถือได้ยังไง?”จิ้นเฟิงเฉินถามเขากลับไป
“จำไม่ได้?”จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว หันหน้ามองไปยังเจียงสื้อสื้อ”หรือว่าความจำยังไม่กลับมา?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า”ใช่ ความจำของเขายังไม่กลับมา”
“แล้ว……แล้วเขายอมมาได้ยังไง?”จิ้นเฟิงเหราอึ้งไป
พวกเขาไปถึงตระกูลซ่างกวนด้วยตัวเอง คิดที่จะพาเขากลับมา แต่ก็ถูกกีดกันเอาไว้
“เพราะว่าเขาเป็นคนของตระกูลจิ้นยังไงล่ะ”เจียงสื้อสื้อพูดขึ้น
จิ้นเฟิงเหรายิ้ม ยกนิ้วโป้งให้กับเธอ”พี่สะใภ้ใหญ่ เหตุผลสุดยอดจริงๆ “