ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1326 ฟื้นความจำ?
เจียงสื้อสื้ออึ้งตะลึงไป
เธอได้ยินผิดไปเหรอ?
จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้นมานั่ง ยื่นมือออกมากอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอด มือใหญ่ลูบผมที่นุ่มนวลของเธอ พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน”สื้อสื้อ ผมจะลืมคุณได้ยังไงกันล่ะ?”
พอได้ฟังแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็ร้องไห้โฮออกมาเหมือนกับเด็ก
จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้ว่าจะร้องหรือหัวเราะดี ทำได้แค่ปลอบเธออย่างใจเย็น
ผ่านไปสักพัก เธอก็ค่อยๆ หยุดลง สะอึกสะอื้นพลางพูดขึ้น”ความจำของคุณกลับมาแล้วใช่ไหม?”
“ความทรงจำกลับมา?”จิ้นเฟิงเฉินสีหน้ามึนงง
“ใช่ หรือว่าคุณจำเรื่องนี้ไม่ได้?”เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ยกมุมปากยิ้มอย่างหมดหนทาง”ผมจำไม่ได้”
เจียงสื้อสื้อมองเขา เต็มไปด้วยความสงสัย นี่มันเรื่องกันอะไรกัน?
ทำไมเขาเดี๋ยวก็จำไม่ได้ว่าตัวเองแต่งงานแล้ว เดี๋ยวก็จำไม่ได้ว่าตัวเองความจำเสื่อม?
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงสื้อสื้อเรียกโม่เหยียกับหานยู่มาที่บ้าน
หลังจากพวกเขาตรวจดูแล้ว โม่เหยียก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักอึ้ง”คุณหญิง นี่คงจะเป็นผลข้างเคียงของยาครับ ทำให้ความจำของคุณชายสับสนวุ่นวายไปหมด”
“ความจำสับสนวุ่นวาย?”เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย”เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
“อาจจะเป็นเพราะว่าฤทธิ์กระตุ้นของยามันแรงเกินไป แถมตอนนี้คุณชายน่าจะมีความจำกลับมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ถ้าอยากจะให้กลับมาทั้งหมด อาจจะต้องอดทนรออีกหน่อย”
คำพูดของโม่เหยียไม่ได้ทำให้เจียงสื้อสื้อวางใจลง เธอคิดก่อนจะพูดถามขึ้น”เป็นไปได้ไหมถ้าเกิดการกระตุ้นอีกครั้ง จะทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปอีก?”
โม่เหยียกับหานยู่หันมองหน้ากัน พยักหน้า”จริงๆ แล้วพวกเราก็เป็นห่วงเรื่องนี้เหมือนกัน ดังนั้นยังต้องการความช่วยเหลือจากคุณผู้หญิงครับ”
“ฉันช่วยอะไรได้?”เจียงสื้อสื้อถาม
“อยู่เป็นเพื่อนข้างๆ คุณชาย พูดคุยเรื่องในอดีต ให้คุณชายค่อยๆ นึกทุกอย่างออกมาอย่างช้าๆ “หานยู่พูดขึ้น”คนที่คุณชายให้ความใส่ใจที่สุดก็คือคุณ”
เจียงสื้อสื้อหันหน้ามองไปยังจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกริมหน้าต่าง สายตาอ่อนโยนราวกับเหมือนจะมีน้ำเอ่อล้นออกมา
“ฉันเต็มใจอยู่กับเขาแน่นอนอยู่แล้ว”
พอพูดถึงตรงนี้ เธอก็ดึงสายตากลับมา พร้อมกับพูดยิ้มๆ “ฉันอยากจะพาเขาไปฝรั่งเศส”
“ฝรั่งเศส?”หานยู่ส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
เจียงสื้อสื้อยิ้ม”อื้อ ช่วงวันเวลาที่อยู่ที่ฝรั่งเศส เป็นความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของพวกเราสองคน บางทีพอถึงที่นั่น เขาอาจจะคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเราขึ้นมาได้ก็ได้”
“คุณหญิง ได้แน่นอนครับ”โม่เหยียพูดขึ้น
“ฉันก็รู้สึกว่ามันจะต้องได้แน่นอนเหมือนกัน”เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ ในเมื่อเธอสามารถทำให้เฟิงเฉินรักเธอครั้งหนึ่งได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็สามารถทำให้เขารักตัวเองเป็นครั้งที่สองได้เหมือนกัน
ความรู้สึกระหว่างพวกเขาสองคน ไม่ใช่ว่าความจำเสื่อมแล้วจะสามารถลบล้างทิ้งไปได้
……
เจียงสื้อสื้อจองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสแล้ว เธอบอกเรื่องนี้กับจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว”ทำไมต้องไปฝรั่งเศส?”
“เพราะว่า……”เจียงสื้อสื้อคิดพิจารณาอยู่สักพัก”ในตอนนั้นคุณเจอฉันกับเถียนเถียนที่นั่นยังไงล่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ?”จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม”แล้วทำไมผมถึงจำไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว?”
“เพราะว่าคุณลืมไปแล้ว”เจียงสื้อสื้อตอบกลับมาเบาๆ สายตาที่มองเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าโศกเสียใจ
“อย่างนั้นเหรอ?”จิ้นเฟิงเฉินพยายามนึกยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกไป พูดขอโทษ”ขอโทษด้วยนะ ผมจำไม่ได้จริงๆ ”
คำขอโทษที่กะทันหันแบบนี้ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกอัดอั้นตรงจมูกอยากจะร้องออกมา เธอเงยหน้าขึ้น พยายามบังคับให้น้ำตากลับเข้าไป แล้วฝืนยิ้ม พูดขึ้น”ไม่เป็นไร คุณจำได้หรือจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรทั้งนั้น แค่คุณอยู่ข้างๆ ฉันก็พอแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกซาบซึ้งใจกับคำพูดของเธอ
พูดกันตรงๆ ก็คือรู้สึกซาบซึ้งใจกับความรู้สึกที่เธอมีให้กับตนเองนั่นเอง
ในสภาวะที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ เธอยังยอมที่จะรักเขา ไม่มีบ่นไม่มีต่อว่าเลยแม้แต่นิดเดียว
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ตัดสินใจกันแล้ว ว่าจะไปฝรั่งเศสสักระยะหนึ่งนะ”
“ครับ แล้วแต่คุณเลย”จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย
……
แม่จิ้นพอรู้ว่าพวกเขาจะไปฝรั่งเศส ในตอนแรกก็ไม่เห็นด้วย เพราะว่ากว่าจิ้นเฟิงเฉินจะกลับบ้านมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย เธอไม่อยากจากเขาไปจริงๆ
“แม่ แม่ก็เห็นอาการในตอนนี้ของเฟิงเฉินแล้ว มันไม่แน่นอนเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ไม่ดี หนูกลัวว่าเขาจะลืมเรื่องราวทุกอย่างไปอีก ก็เลยอยากจะพาเขาไปพักผ่อนปล่อยจิตปล่อยใจที่ฝรั่งเศสสักหน่อย”
เหตุผลของเจียงสื้อสื้อ ไม่ได้ทำให้แม่จิ้นเห็นด้วย
“แต่ถ้าพวกลูกเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ฝรั่งเศสล่ะ พวกเราจะช่วยได้ยังไง?”แม่จิ้นยังคงไม่ไว้วางใจ
ที่แท้เธอก็กังวลเรื่องนี้นี่เอง
เจียงสื้อสื้อยิ้มเล็กน้อย”แม่ แม่วางใจได้ หนูจะดูแลเฟิงเฉินอย่างดี จะไม่เกิดอะไรขึ้นแน่นอน”
“แม่ แม่อย่ากังวลไปเลย เชื่อพี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่เถอะ”จิ้นเฟิงเหราพูดขึ้น
แม่จิ้นถอนหายใจออกมา”ก็ได้ อยากไปก็ไปเถอะ”
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมาทันที”ขอบคุณค่ะแม่”
“หม่ามี๊ พวกเราก็อยากไปด้วยเหมือนกัน”จู่ๆ เถียนเถียนก็เปิดปากพูดขึ้น
“พวกลูกๆ ก็อยากไปเหมือนกันเหรอ?”เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว”แม่พาแด๊ดดี้ของลูกไปรักษา พวกลูกก็อยู่ที่บ้านนี่แหละ โอเคไหม?”
“ไม่เอา”เถียนเถียนเบี่ยงหน้าหนี ทำปากจู๋ พูดขึ้นด้วยความโมโห”หนูไม่อยากแยกจากหม่ามี๊แด๊ดดี้ต่างหากล่ะ”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ให้พวกเขาไปด้วยเถอะ บางทีมีพวกเขาอยู่ด้วย พี่ใหญ่อาจจะยิ่งฟื้นความจำกลับมาง่ายขึ้นก็ได้นะ”
เจียงสื้อสื้อคิดรู้สึกว่าที่จิ้นเฟิงเหราพูดมาก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน ก็เลยพยักหน้า”ได้ พวกเราไปด้วยกันนะ”
พอเห็นเธอรับปากแล้ว เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็โห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทันที ทำเอาคนอื่นๆ พากันหัวเราะออกมายกใหญ่
แม่จิ้นพอคิดว่าจะต้องแยกจากพวกเขาไปสักระยะหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหายไป พูดทอดถอนใจ”กว่าทั้งครอบครัวจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ต้องมาแยกจากกันอีกแล้ว ในใจของฉันรู้สึกเศร้าจริงๆ ”
“แม่ ไม่นานพวกเราก็กลับมาแล้ว”
เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปกอดเธอ”แม่วางใจได้ หนูจะดูแลเฟิงเฉินกับลูกๆ เอง จะไม่ทำให้พวกแม่ผิดหวังแน่นอน”
แม่จิ้นตบๆ ลงที่หลังของเธอ”แม่เชื่อลูกเสมอ”
เจียงสื้อสื้อปล่อยเธอออก รู้สึกอัดอั้นตรงจมูกเหมือนจะร้อง”ขอบคุณนะคะแม่”
“เด็กโง่ อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันสิ พอพวกลูกกลับมา พวกเราทั้งครอบครัวก็จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันจริงๆ สักที”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าอย่างหนักแน่น”อื้อ”
……
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อออกไปที่สนามบิน คนที่ซ่างกวนเชียนส่งออกมา ในที่สุดก็หาเบาะแสของซ่างกวนหยวนเจอแล้ว
“ท่านประธานครับ คุณหนูถูกขังอยู่ในวิลล่าหลังหนึ่งที่อยู่ตรงชานเมืองครับ”
พอได้ทราบข่าวนี้ ซ่างกวนเชียนก็วางงานในมือลง ขับรถมุ่งไปยังวิลล่าหลังนั้นทันที
รถจอดตรงข้างนอกวิลล่า พอซ่างกวนเชียนลงจากรถ ก็มีคนเข้ามาต้อนรับทันที
“ท่านประธาน มาแล้วเหรอครับ”
“อยู่ไหน?”ซ่างกวนเชียนมองไปยังประตูวิลล่าที่ปิดสนิทอยู่
“อยู่ข้างใน”
ซ่างกวนเชียนชำเลืองตามองคนคนนั้น ก่อนจะพูดดุ”มัวยืนอยู่ทำไม? รีบเข้าไปเคาะประตูสิ!”
“ครับ!”
คนคนนั้นรีบวิ่งเข้าไป ทุบประตูอย่างแรง พร้อมกับพูดตะโกน”คนที่อยู่ข้างในรีบมาเปิดประตูเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นพวกเราจะบุกเข้าไปแล้วนะ!”
คนที่อยู่ข้างในพอได้ยินแล้ว ต่างก็หันมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง?
“เปิดประตูเร็วเข้า!”
เสียงเคาะประตู”ตุ๊งๆ ”
ในช่วงที่หมดหนทาง ทำได้แค่เดินไปเปิดประตูออก
พอประตูเปิดออก คนข้างนอกก็พุ่งเข้ามาทันที
คนข้างในก็วิ่งเข้าไปเช่นกัน ขวางรั้งเอาไว้
ซ่างกวนเชียนเดินเข้าไป ก็พบว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนของซ่างกวนหยวนทั้งสิ้น ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้”พวกแกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
คนพวกนั้นมองหน้ากัน ก้มหน้า ไม่ได้ส่งเสียงอะไร