ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1333 ดื้อดึง
“ฉันไม่!”
อารมณ์ของซ่างกวนหยวนก็ได้แตกตื่นกว่าเดิม เธอก็ได้ชี้ไปยังเจียงสื้อสื้อที่นั่งอยู่ไม่ไกล พูดด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว “นางแพศยา! เธอก็เป็นนางแพศยา! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอปรากฏตัว นายก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ!”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้น่ากลัวกว่าเดิม ร่างกายก็ได้ส่งบรรยากาศที่กดดันคนจนน่ากลัวออกมา
ซ่างกวนหยวนที่ได้โมโห ก็ได้พูดต่อว่า “เจียงสื้อสื้อ เป็นเพราะแก! ถ้าเกิดไม่มีแก เฟิงเฉินก็ได้แต่งงานกับฉันนานแล้ว! แกก็แค่นางแพศยา!”
ไม่รอให้จิ้นเฟิงเฉินออกตัว เจียงสื้อสื้อก็ได้ก้าวไป แล้วก็ยกมือตบหน้าของซ่างกวนหยวน
เพี้ยะ!
ซ่างกวนหยวนหันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ผมก็ได้ยุ่ง ปิดบังสีหน้าเวลานี้ของเธอ
เจียงสื้อสื้อก็ได้มองเธอด้วยแววตาเย็นชา พยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง “ซ่างกวนหยวน เธอนี่หน้าไม่อายจริงๆ! แย่งสามีของคนอื่นก็มีเหตุผลแล้วเหรอ?”
“เธอกล้าตบฉัน!”
ซ่างกวนหยวนโมโหมากๆ ยกมือจะตบกลับไป
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ไปคว้ามือของเธออย่างรวดเร็ว “เธอกล้าที่จะแตะต้องเธอแม้แต่นิด ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”
เสียงของเขาเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของเดือนฤดูหนาว หนาวจนเข้ากระดูก!
ต่อให้เป็นซ่างกวนหยวนที่กำลังโมโหอยู่ก็ได้สั่นอย่างอดไม่อยู่ แต่ว่าก็ยังเงยหน้าอย่างไม่พอใจ มองเขาอย่างโมโห “นายอย่าลืมนะ ตอนนั้นฉันเป็นคนช่วยนาย! ไม่มีฉัน นายยังจะสามารถมาอยู่พร้อมหน้ากับพวกเขาเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ออกแรงสะบัดมือของเธอ “เธอช่วยฉัน? ใช่ เธอเคยช่วยฉัน แต่กลับได้ใช้วิธีที่สกปรกมาลบอดีตของฉัน”
“นั่นเป็นเพราะฉันรักนาย!” ซ่างกวนหยวนก็ได้อธิบายเสียงแหลม “หรือว่านายมองความรู้สึกที่ฉันมีให้นายไม่ออกเหรอ? จิ้นเฟิงเฉิน ถ้านายมีจิตใต้สำนึกเล็กน้อย นายก็ไปกับฉัน”
“เขาไม่มีทางที่จะไปกับเธอ เธอตายใจไปซะเถอะ” เจียงสื้อสื้อพูดอย่างเย็นชา
ต่อให้เฟิงเฉินยังไม่ได้ฟื้นความทรงจำ แต่ว่าเขาได้รู้เรื่องที่ซ่างกวนหยวนทำทั้งหมดแล้ว เขาไม่มีทางที่จะกลับไปบ้านตระกูลซ่างกวนแล้ว
“ซ่างกวนเชียน นายจะยืนมองฉันโดนรังแกเหรอ?” ซ่างกวนหยวนหันหน้าไป สายตาที่เยือกเย็นก็ได้มองไปทางซ่างกวนเชียนที่ได้ยืนเงียบไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆ
ซ่างกวนเชียนก็ได้กำหมัดแน่น จากนั้นก็ปล่อย เดินเข้าไป “จิ้นเฟิงเฉิน น้องสาวของฉันใส่ใจนายขนาดไหน ฉันว่าในใจของนายรู้ดีที่สุด ถ้าเกิดนายยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ ก็ไม่ควรที่จะทำผิดต่อเธอ”
ได้ยินคำนี้ เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมา พูดประชดว่า “ซ่างกวนเชียน นายพูดประโยคนี้ออกมา ไม่รู้สึกผิดเหรอ? ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะน้องสาวของนาย เฟิงเฉินก็ไม่มีทางที่จะแยกจากฉันแล้วก็ลูกไปนานขนาดนี้!”
ซ่างกวนเชียนเงียบไปเลย
ที่จริงเขาไม่เต็มใจที่จะช่วยซ่างกวนหยวน เพราะงั้นเขาถึงได้เลือกที่จะอยู่เงียบๆ ตั้งแต่แรก
ถึงแม้ว่าเธอโดนเจียงสื้อสื้อตบไป เขาก็ไม่ออกตัวไปช่วย
เพราะว่า เขาอยากที่จะให้เธอตายใจ
แต่ว่าดูจากตอนนี้แล้ว ไม่มีทางเป็นแบบนั้น
“นั่นก็เป็นความผิดของเธอ!” ซ่างกวนหยวนพูด “ถ้าเกิดไม่เพราะเธอ เฟิงเฉินก็ไม่เกิดเรื่อง และก็ไม่ต้องถูกฉันช่วย ไล่ๆ ดูแล้ว เป็นความผิดของเธอทั้งหมด!”
ใช่ เป็นความผิดของเธอทั้งหมด
บรรยากาศรอบตัวของเจียงสื้อสื้อก็ได้อ่อนไปไม่น้อย
จิ้นเฟิงเฉินกลัวว่าเธอต่อว่าตัวเอง ก็ได้รีบกุมมือของเธอ พูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องฟังที่เธอพูดไร้สาระ ไม่ใช่ความผิดของเธอ ไม่ใช่ตั้งแต่แรก”
“เฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อก็ได้หันหน้าไปมองเขา จมูกก็ได้ตัน
“ซ่างกวนเชียน” จิ้นเฟิงเฉินมองไปทางซ่างกวนเชียน “ถ้าเกิดนายอยากที่จะให้ตระกูลซ่างกวนอยู่ดีๆล่ะก็ งั้นก็หยุดได้แล้ว”
ซ่างกวนเชียนได้ฟังความหมายในประโยคของเขาออก ลังเลไปสักพัก ก็ได้เลือกว่า
“หยวนหยวน ช่างมันไปเถอะ บนโลกนี้ยังมีคนที่ดีกว่าเขา ไม่ใช่เหรอ?”
เห็นว่าเขาได้มาว่าตัวเอง ซ่างกวนหยวนก็ได้โมโหจนหัวเราะ “ซ่างกวนเชียน นายบ้าไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นน้องสาวของนายนะ นายทำไมถึงได้ช่วยพวกเขามาว่าฉัน?”
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้เธอทำผิดต่อไป” ซ่างกวนเชียนก็ได้สูดหายใจเข้าไป “หยวนหยวน ยอมแพ้เถอะ”
“ไม่มีทาง!” เสียงของซ่างกวนหยวนก็ได้แหลมขึ้น เธอก็ได้จ้องมองจิ้นเฟิงเฉิน “เว้นแต่ว่าฉันตายไป ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางยอมแพ้”
เห็นว่าเธอยังดื้อด้านอยู่ ซ่างกวนเชียนทำได้แค่ไม่สนใจเธอที่ดิ้นรน ก็ได้ออกแรงลากเธอออกไป
“ซ่างกวนเชียน นายปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉัน!” ซ่างกวนหยวนก็ได้ออกแรงดิ้น หวังว่าจะหลุดจากการควบคุมของซ่างกวนเชียน
ซ่างกวนเชียนเปิดประตูรถ แล้วก็ได้ยัดเธอเข้าไปในรถ จากนั้นก็ได้นั่งเข้าไป
“ออกรถ!”
คนขับรถยังไม่ทันตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ยินคำสั่ง ก็ได้รีบสตาร์ทรถ
“ซ่างกวนเชียน ฉันเกลียดนาย! ฉันเกลียดนาย!” ซ่างกวนหยวนก็ได้ตะโกนออกมาสุดใจ ดวงตาเป็นเพราะว่าโมโหมากๆ ตาก็ได้แดง ใบหน้าทั้งใบก็เป็นเพราะโมโหจนดูดุร้ายเล็กน้อย
เห็นว่าเธอได้กลายเป็นแบบนี้ ซ่างกวนเชียนก็ได้ปวดใจมากๆ “หยวนหยวน เธอทำแบบนี้เพื่ออะไร? เขาไม่ได้รักเธอเลย ต่อให้เขาไปกับเธอ ก็เปลี่ยนแปลกความจริงที่เขาเป็นสามีของเจียงสื้อสื้อไม่ได้!”
“ฉันไม่สน ฉันจะเอาเขา!” ซ่างกวนหยวนก็ได้กัดฟันอย่างแรง “ฉันไม่มีทางยอมแพ้! ฉันจะฆ่าเจียงสื้อสื้อ!”
มีแค่เจียงสื้อสื้อตายไป เฟิงเฉินถึงจะกลับมาหาตน
ซ่างกวนเชียนคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “เธอบ้าไปแล้วเหรอ? เธอรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมาไหม?”
เธอทำไมเปลี่ยนไปจนน่ากลัวแบบนี้?
ซ่างกวนหยวนหันไป มุมปากก็ได้ยิ้มอย่างเย็นชา “ซ่างกวนเชียน ทางที่ดีนายอย่ามายุ่งเรื่องฉัน ไม่อย่างนั้นแม้แต่นายฉันก็ไม่ปล่อยไปแน่”
ซ่างกวนเชียนตกใจมากๆ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่รู้จักเธอมาก่อน จิตใจของเธอทำไมได้บิดเบี้ยวขนาดนี้?
……
“ไปได้สักที” เจียงสื้อสื้อก็ได้โล่งออกไปเลย
เธอก็ได้หันหน้าไปมองเด็กสองคน พบว่าพวกเขานั้นต่างพากันนั่งอย่างว่าง่าย ใบหน้าเล็กๆ สองใบก็ได้เขียนคำว่าโมโหอย่างชัดเจน
“เป็นอะไรไปคะ?” เธอก็ได้ถามเสียงเบา
“คุณป้าคนนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เถียนเถียนก็ได้พูดอย่างโมโห “หนูเกลียดเขา!”
“ผมก็เกลียด!” เสี่ยวเป่าพูดเสริม
เจียงสื้อสื้อก็ได้ขำออกมา “เธอไม่มาอีกแล้วจ้ะ”
“จริงเหรอคะ?” เถียนเถียนก็ได้ถามอย่างไม่มั่นใจ “เธอคงไม่ได้จะมาแย่งแด๊ดดี้ไปอีกใช่ไหมคะ?”
“ไม่แล้วจ้ะ” เจียงสื้อสื้อก็ได้เม้มปาก “เธอรู้ว่าแด๊ดดี้ของหนูไม่มีทางไปกับเธอแล้ว เพราะงั้นไม่มาอีกแล้ว”
“งั้นก็ดี” เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าก็ได้ตอบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
พอเด็กจอมซนสองคนได้วิ่งไปเล่นของเล่นแล้ว จิ้นเฟิงเฉินถึงได้ค่อยๆ พูดออกมาว่า “คุณคิดว่าเธอจะไม่มาอีกแล้วเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อหันไปมองเขา “หรือว่าคุณไม่ได้คิดแบบนั้นเหรอ?”
“เท่าที่ผมรู้จักเธอ เกรงว่าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่”
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็อารมณ์ไม่ดีแล้ว “งั้นคุณรู้จักเธอดีจริงๆ นะคะ”
เห็นว่าเธอหึง จิ้นเฟิงเฉินก็ได้หัวเราะออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงเบาๆ “คุณคิดผิดแล้ว ผมก็แค่รู้สึกว่าเธอนั้นเป็นคนที่ทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มาวางยาผม”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วแน่น “งั้นทำยังไงคะ พวกเราต้องย้ายบ้านไหม?”
“ไม่ต้อง ผมต้องปกป้องคุณกับลูกเป็นอย่างดีแน่” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เจียงสื้อสื้อก็ได้ยิ้มออกมา “ก็ได้ค่ะ มีคุณอยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ”
ขอแค่เขาอยู่ข้างกาย ต่อให้เป็นภูตผีปีศาจ เธอก็ไม่กลัว
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มแล้วก็กอดเธอมาในอ้อมกอด “ถึงแม้พูดแบบนั้น แต่ว่าพวกเรายังต้องระวังหน่อยนะ”
เจียงสื้อสื้อก็ได้พยักหน้าในอ้อมอกของเขา “ค่ะ