ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1337 ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
เหลียงซินเวยก็ได้รีบไปที่ร้านอาหารที่ซ่างหยิงบอก พอเข้าไป ก็มีพนักงานเข้ามาถาม “ไม่ทราบว่าเป็นคุณเหลียงไหมคะ?”
เธอก็ได้รีบพยักหน้า “ค่ะ ฉันเอง”
“เชิญตามฉันมาค่ะ”
พนักงานก็ได้นำทางข้างหน้า พาเธอไปที่ห้องอาหารชั้นสอง
“นายหญิงฟางรอคุณอยู่ข้างในค่ะ”
พูดประโยคนี้จบ พนักงานก็ได้เดินลงไป
เหลือเหลียงซินเวยยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องอาหารคนเดียว
ในใจของเธอได้กลัว แต่ว่านึกถึงเป้าหมายที่ตัวเองมา ก็ได้เปิดประตูอย่างไม่ลังเล เดินเข้าไป
พออานอานเห็นเธอ ก็ได้รีบลุกขึ้นวิ่งไป “แม่ครับ แม่ทำไมถึงพึ่งมา? ผมกินเค้กก้อนใหญ่ไปหมดแล้ว”
“จริงเหรอคะ?” เหลียงซินเวยเก็บสีหน้า ก้มตัวช่วยเขาเช็ดครีมบนมุมปากเขาอย่างอ่อนโยน ถึงเงยหน้ามองซ่างหยิงที่นั่งบนโซฟา
ซ่างหยิงก็ได้มองเธอ สีหน้านิ่งเรียบ มองความรู้สึกไม่ออก
“คุณน้าค่ะ ถ้าไม่มีธุระอื่นแล้ว ฉันก็ขอพาตัวอานอานกลับไปก่อน” ใจของเหลียงซินเวยคิดอยากที่จะออกไปตลอด ไม่อยากที่จะอยู่คุยกับเธอเรื่องความรู้สึกของตัวเองกับยู่เชินเลย
“มานั่งเถอะ”
ตอนที่เหลียงซินเวยเตรียมที่จะหันตัวนั้น ซ่างหยิงก็ได้ส่งเสียง
ในใจของเหลียงซินเวย “ตึกตัก” ไปที มือที่ได้จูงมืออานอานก็ได้ค่อยๆแน่นขึ้น มุมปากก็ได้มีรอยยิ้มแบบฝืนๆ “คุณน้า ฉันไม่นั่งแล้วค่ะ คุณมีอะไรอยากที่จะพูดก็พูดมาเถอะ”
ซ่างหยิงมองเธอสักพัก ก็ได้ย้ายสายตามองไปทางอานอาน เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ “ลูกชายเธอเป็นเด็กดีรู้เรื่อง”
“ขอบคุณค่ะ” เหลียงซินเวยไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ ในใจก็ได้มีกำแพงหลายชั้นขวางไว้
“เธอได้เลี้ยงดูเขาคนเดียวต้องลำบากมากจริงไหม”
“ยังดีค่ะ อานอานเป็นเด็กดี เพราะงั้นฉันไม่ได้ลำบากมาก”
ได้ยินแบบนั้น ซ่างหยิงหัวเราะเบาๆ “เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่าย ทำไมจะไม่ลำบากล่ะ?”
“จำตอนที่ฉันคลอดยู่เชินเสร็จ การใส่ใจทั้งหมดก็ได้อยู่บนตัวเขา แทบที่จะเอาของที่ดีที่สุดในโลกนี้ให้กับเขาทั้งหมด หลายปีมานี้ เขาก็ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ได้ทำให้ฉันกับพ่อของเขาผิดหวัง กลายเป็นลูกชายที่เก่งที่สุดในใจของพวกเรา”
“แน่นอนลูกชายที่เก่งขนาดนี้ พวกเราก็ได้เตรียมภรรยาที่ดีที่สุดให้เขาแน่นอน ให้ชาตินี้ของเขาได้อยู่อย่างมีความสุข”
เหลียงซินเวยได้ฟังเงียบๆ ในใจก็ได้มีความขมขื่นก่อตัว
ภรรยาที่ดีที่สุดในปากของเธอ คงเป็นเย่เสี่ยวอี้สินะ
“ฉันคิดว่า เวยเวยเธอต้องเขาใจความลำบากของฉันใช่ไหม”
เหลียงซินเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้า มองเธอแน่น “คุณน้าคะ ยกโทษที่ฉันต้องพูดไปตรงๆนะคะ ยู่เชินอยู่ด้วยกันกับคุณหนูเย่ไม่มีทางมีความสุขหรอกค่ะ”
พอซ่างหยิงได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ได้เคร่งเครียดลงไปเล็กน้อย
เหมือนว่าที่เธอได้พูดไปมากมายขนาดนี้แล้ว หล่อนยังไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิด?
เหลียงซินเวยยิ้ม ก็ได้พูดต่อ “คุณน้าคะ คุณรู้จักลูกชายของคุณดีจริงเหรอ?”
“ฉันรู้จักลูกชายฉันดีหรือไม่ ไม่ถึงคิวเธอที่มาสงสัยฉัน!” ในหน้าซ่างหยิงเย็นลง สายตามองเธออย่างเยือกเย็น
“ได้ค่ะ ฉันไม่ควรที่จะสงสัยคุณ แต่ว่าฉันหวังว่าคุณนั้นสามารถที่จะยืนในจุดของยู่เชินมาคิด คิดว่าสิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุดคืออะไรกันแน่?”
สีหน้าของซ่างหยิงก็ได้เครียดกว่าเดิม ถามด้วยเสียงเย็นชา “นี่เธอกำลังสั่งสอนฉันเหรอ?”
“คุณน้าคะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” เหลียงซินเวยก็ได้รีบอธิบาย “ฉันก็แค่หวังว่าคุณสามารถที่ลองเปิดใจยอมรับฉัน ฉันกับยู่เชินต่างก็รักกันจริงๆค่ะ”
“โทษที ชาตินี้ฉันก็ไม่มีทางที่จะยอมรับเธอ!” ซ่างหยิงก็ได้พูดออกไปอย่างเด็ดขาด
เหลียงซินเวยหัวเราะเลย หัวเราะอย่างขมขื่นมากๆ “คุณน้า ฉันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เธอไม่ได้แย่ แต่ว่าไม่เหมาะกับยู่เชิน” ซ่างหยิงคิดไปสักพัก ก็ได้พูดต่อ “วันนี้ฉันพาอานอานมาที่นี่ อยากที่จะบอกเธอว่า ถ้าเกิดเธอยังไม่ไปจากยู่เชิน ฉันก็ไม่มั่นใจว่าฉันจะทำอะไรออกมาได้บ้าง”
ได้ยินแบบนั้น เหลียงซินเวยขมวดคิ้ว “คุณน้า นี่คุณกำลังข่มขู่ฉันเหรอ?”
“ข่มขู่หรือว่าตักเตือนก็ดี ฉันแค่อยากให้เธอไปจากยู่เชิน!”
“นอกเสียจากว่ายู่เชินบอกเลิกฉัน ฉันไม่มีทางไปจากเขาหรอกค่ะ” ท่าทางของเหลียงซินเวยก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“งั้นเธอไม่สงสารลูกชายของเธอเหรอ?” ซ่างหยิงถาม
เหลียงซินเวยก็ได้สบตาเธออย่างไม่เกรงกลัว “ตอนนี้เป็นสังคมภายใต้หลักนิติธรรม คุณน้าอย่าทำอะไรมั่วๆนะคะ”
ซ่างหยิงก็ได้ขำออกมา “งั้นเธอไม่เคยฟังคำที่ว่าเงินสามารถทำให้ผีฆ่าปีศาจได้เหรอ แน่นอน ฉันไม่ทำอะไรลูกชายของเธอ เป็นไปได้ว่าฉันก็แค่เอาเขาไปซ่อนไว้ที่ที่ทำให้เธอไม่สามารถหาเขาเจอตลอดชีวิต”
การข่มขู่อย่างไม่มีปิดบัง
เหลียงซินเวยก็ได้จับมือของอานอานแน่น ใบหน้าก็ได้มีความกลัวแสดงออกมาอย่างชัดเจนเล็กน้อย
ใช่
เธอกำลังกลัว
เธอกลัวว่าซ่างหยิงจะทำอะไรที่ไม่ดีกับอานอานขึ้นมาจริงๆ
“ถ้าเกิดเธอไม่สามารถที่จะตอบฉันในตอนนี้ได้ ฉันสามารถที่จะให้เธอกลับไปคิดกี่วัน”
ซ่างหยิงก็ได้แสดงออกมาว่าใจกว้างมากๆ
เหลียงซินเวยก็รู้สึกว่าน่าขำ “คุณน้า คุณไม่กลัวว่าฉันจะไปบอกกับยู่เชินเหรอ?”
“เธอกล้าเหรอ!” สีหน้าของซ่างหยิงได้เปลี่ยนทันที ก็ได้มองเธอแน่น
มุมปากของเหลียงซินเวยได้ยิ้ม “ฉันกล้าแน่นอนค่ะ ไหนๆคุณนั้นอยากที่จะทำไม่ดีกับอานอาน แค่ฉันไปบอกกับยู่เชิน เขาต้องคิดหาวิธีมาปกป้องฉันกับอานอานได้อย่างดีแน่”
พูดจบ เหลียงซินเวยรู้สึกว่าหลังของตัวเองนั้นก็ได้มีเหงื่อไหล
เธอกำลังพนัน
พนันว่าซ่างหยิงจะไม่มีกดดันเธอเพราะยู่เชิน
ซ่างหยิงก็ได้ขำออกมาอย่างดูถูกเบาๆ “เหลียงซินเวย เธอคิดว่ายู่เชินจะโวยวายกับที่บ้านเพื่อเธอเหรอ? หรือว่าเธอนั้นอยากที่จะเป็นผู้หญิงร้ายที่ทำลายความสงบสุขของครอบครัวคนอื่น?”
“ไหนๆคุณน้าก็กลัวว่าฉันจะทำลายความสงบสุขของครอบครัวพวกคุณ งั้นทำไมต้องมากดดันฉันล่ะคะ”
“ปากดีจริงๆ!” ซ่างหยิงก็ได้หึออกมาอย่างเย็นชา “ฉันบอกเธอไว้เลยนะ เหลียงซินเวย ถ้าเกิดเธอกล้าที่จะบอกกับยู่เชิน ฉันไม่มีทางปล่อยเธอกับลูกของเธอไว้แน่”
เหลียงซินเวยก็ได้กำมือของอานอานแน่น ใบหน้าเล็กก็ได้ซีดจนไม่มีสีเลือดเลย
เธอรู้ว่าซ่างหยิงพูดได้ทำได้ อีกอย่างจากอำนาจของตระกูลฟาง อยากที่จะจัดการเธอกับอานอานก็เหมือนกับบีบมดให้ตายง่ายๆแบบนั้น
“ขอแค่เธอเดินออกมาเอง ฉันจะปล่อยวางเรื่องอดีต ก็ยังที่จะเอ็นดูเหมือนกับลูกสาวแท้ๆคนหนึ่ง”
อานอานที่ได้เงียบอยู่ตลอดก็ได้พูดออกมา “คุณย่าฟาง คุณทำไมไม่ชอบคุณแม่ของผมครับ?”
อยู่ๆเด็กก็ได้ถามแบบนี้ออกมา ซ่างหยิงไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดีไปชั่วขณะ
จะบอกว่าเธอนั้นดูถูกฐานะของเธอไม่ได้ใช่ไหม
“อานอาน ไม่ชอบก็คือไม่ชอบค่ะ ไม่มีเหตุผล” เหลียงซินเวยก็ได้ลูบหัวของอานอาน มองไปทางซ่างหยิง “คุณน้าค่ะ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงค่ะ หวังว่าคุณนั้นพูดได้ทำได้นะคะ”
“แน่นอนว่าฉันพูดได้ทำได้”
เหลียงซินเวยพยักหน้ากับเธอ “งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน”
มองเธอที่ได้จูงมือลูกออกไป ซ่างหยิงก็ได้ถอนหายใจออกมายาวๆ
ถ้าไม่เพื่อความสุขทั้งชีวิตของลูกชาย เธอก็ไม่อยากที่จะเป็นคนที่ไม่ดีขนาดนี้
ก็แค่คราวนี้เหลียงซินเวยน่าจะไปจากยู่เชินแล้วล่ะมั้ง
ออกมาจากร้านอาหาร เหลียงซินเวยมองคนที่ได้เดินไปเดินมา มุมปากก็ได้มีความยิ้มที่ขมขื่นออกมา
ซ่างหยิงได้พูดออกมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ไม่อยากที่จะหน้าด้านอยู่ด้วยกันกับยู่เชินแล้ว
เพื่ออานอาน เธอไม่มีทางเลือกอื่น
“แม่ครับ ไม่เป็นไรนะครับ แม่ยังมีผมอยู่”
คำพูดของอานอาน ก็ได้ทำให้จมูกของเหลียงซินเวยตันทันที เธอก็ได้ฝืนยิ้มออกมา “ค่ะ แม่ยังมีอานอานอยู่”