ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่1338 แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เหลียงซินเวยคิดไปสักพัก ก็ตัดสินใจส่งอานอานไปที่บ้านของเพื่อน
จากนั้น ก็ได้ไปที่ซูเปอร์ไปซื้อผักมาเล็กน้อย กลับบ้านเตรียมมื้อค่ำ
ตั้งใจมากๆ
แต่ว่าก็เสียใจมากจริงๆ
นี่อาจเป็นเพราะ……นี่เป็นการทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเขาล่ะมั้ง
ก่อนเลิกงาน ฟางยู่เชินก็ได้รับสายจากเหลียงซินเวย
“คืนนี้มาหาหน่อยได้ไหมคะ?”
ปลายสายก็ได้ยินเสียงที่ถามของเธอ
“ได้แน่นอน” ฟางยู่เชินไม่พูดอะไรก็ได้ตอบตกลงไป
“งั้นฉันรอพี่ค่ะ”
พูดคำนี้จบ ไม่รอให้ฟางยู่เชินตั้งตัวได้ สายก็ได้ถูกตัดไป
เธอเป็นอะไรไป?
ฟางยู่เชินเอาโทรศัพท์ลงมา มองจอโทรศัพท์ที่ดับไป คิ้วก็ได้ขมวด
พอเลิกงาน ฟางยู่เชินก็ได้เอาเสื้อนอก รีบเดินออกไป เกือบที่จะชนกับส้งหยาวที่อยู่ที่หน้าประตู
“ท่านประธานครับ คุณเลิกงานตอนนี้เหรอ?” ส้งหยาวถาม
ฟางยู่เชินเหล่มองเขาสักพัก “ไม่เลิกงาน หรือว่าจะอยู่มาทำโอทีเหรอ?”
“เปล่าครับ มีการประชุมโทรศัพท์สายหนึ่งที่ต้องการให้คุณเข้าร่วมครับ”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว คิดถึงเหลียงซินเวยที่โทรมาแล้วก็มีท่าทางที่ไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัดแบบนั้น เขาก็ได้พูดออกไปว่า “เลื่อนไปวันอื่น คืนนี้ฉันไม่ว่าง”
พูดจบ เขาก็ได้ก้าวที่ในลิฟต์
เจอกับช่วงเลิกงานพอดี รถได้ติดไปหลายครั้ง กว่าเขาจะถึงใต้ตึกบ้านเหลียงซินเวย
ตอนที่เหลียงซินเวยมองเห็นเขา ก็ได้มีรอยยิ้มอ่อนๆ ออกมา “พี่มาแล้ว”
“อืม ผมแล้ว”
ฟางยู่เชินเดินเข้าไป ก็ได้มองไปทางห้องอานอานสักพัก ถาม “อานอานล่ะ?”
“อานอานไม่อยู่บ้านค่ะ”
ได้ยินแบบนั้น ฟางยู่เชินก็ไม่ได้มีอะไรต้องกังวลพอดี ก็ได้กอดเอวของเธอ ออกแรงดึงเข้ามาให้อ้อมกอด ก้มหน้าจูบริมฝีปากที่แดงของเธอ
เหลียงซินเวยก็ได้ทำตาโต แววตาก็ได้เขียนคำว่าประหลาดใจเต็มไปหมด
แต่ว่าวิต่อมา เธอก็ได้ค่อยๆ หลับตา สองมือก็ได้วางที่แผ่นหลังที่กว้างของเขา ตอบจูบเขาอย่างไม่คุ้นเคย
อุณหภูมิรอบข้างก็ได้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ตอนที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้นั้น ฟางยู่เชินก็ได้ผลักเหลียงซินเวยออกทันเวลา ก้มลง มองแววตาที่น่าหลงใหลของเธอ ก็ได้ด่าตัวเองเงียบๆ
แม่งเอ๊ย!
เกือบที่จะอดทนไม่อยู่แล้ว
กดความร้อนในร่างกายลง ริมฝีปากปากของฟางยู่เชินได้ยิ้ม “กินข้างหรือยัง?”
เหลียงซินเวยตั้งสติได้ ก็ได้รู้สึกตัวว่าเมื่อกี้พึ่งเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าก็ได้แดงไปยัดหูเลยทันที หันไปไม่กล้าที่จะสบตาของเขา “ยังค่ะ รอพี่อยู่”
เสียงของเธอก็ได้อ่อน ก็ได้มีหอบเบาๆ ปนอยู่
ฟางยู่เชินก็ได้หัวเราะออกมาเบาๆ ถาม “อยากที่จะกินที่บ้าน หรือว่าออกไปกิน?”
“กินที่บ้านค่ะ” เหลียงซินเวยก็ได้ชี้ไปที่ห้องครัว
ฟางยู่เชินถึงได้เห็นว่าบนโต๊ะอาหารได้มีสเต๊ก ไวน์แดงแล้วก็ดอกไม้จุดเทียนเตรียมไว้แล้ว เขาก็ได้หันหน้าไปมองเหลียงซินเวย “นี่คือ……”
“วันนี้เป็นวันครบรอบการครบร้อยวันของพวกเรา”
เหลียงซินเวยก็ได้จูงมือเขาเดินไปนั่งที่ห้องครัว จุดเทียนขึ้น แล้วก็เทไวน์แดงไปที่แก้วไวน์
“ร้อยวัน?” ฟางยู่เชินก็ได้หลุดขำออกมา “ตามที่เธอฉลองแบบนี้ ต่อไปก็คงมีสองร้อยวัน สามร้อยวันใช่ไหม?”
“อาจจะนะคะ” ในใจของเหลียงซินเวยก็ได้ขมขื่น ยกแก้วไวน์ขึ้นมา “ยู่เชิน สามารถที่จะคบกับพี่ได้เป็นความสุขมากที่สุดของฉันในชีวิตนี้”
ฟางยู่เชินก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมอยู่ๆ ถึงได้หวานแบบนี้?”
“เพราะว่าผู้หญิงเป็นมนุษย์ที่ใช้ความรู้สึกไงคะ” เธอก็ได้พยายามซ่อนอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ดี
ฟางยู่เชินยิ้ม ก็ได้ยกแก้วไวน์ไปชนแก้วของเธอ “การได้เจอเธอเป็นโชคดีที่สุดของผม พวกเราต้องผ่านสองร้อยวัน สามร้อยวัน……ชาติหนึ่งด้วยกัน”
เห็นความจริงจังในสายตาของเขา จมูกของเหลียงซินเวยก็ได้ตัน ก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ ก็ได้บังคับให้น้ำตากลับไป
ชาตินี้ยาวไป เธอไม่กล้าที่จะคิด
ก็ได้จิบไวน์ไปคำ ลิ้มก็ได้แตะความขมเล็กน้อย
เหมือนกับความขมในใจของเธอมาก
“เธอเป็นคนทำสเต๊กเอง?” ฟางยู่เชินถาม
เหลียงซินเวยก็ได้ตอบ “อืม” เบาๆ มองเขาหั่นชิ้นเล็กๆ แล้วก็เอาเข้าปาก
“รสชาติไม่เลวนะเนี่ย”
เหลียงซินเวยก็ได้ยิ้มออกมา “งั้นก็ดีค่ะ”
“ต่อไปเป็นความโชคดีของผมแล้ว” ฟางยู่เชินก็ได้มองเธออย่างมีความนัยลึกซึ้งสักพัก แล้วก็ค่อยๆ ก้มหน้าหั่นเนื้อวัว
เหลียงซินเวยมองเขา รอยยิ้มที่มุมปากก็ได้ค่อยหายไป แววตาก็ได้มีเจ็บปวดเล็กน้อย
แสงเทียนที่เหลืองก็ได้ส่องไปทางเขา ทำให้ใบหน้าของเขาได้ดูคมเข้มกว่าเดิม
รู้สึกถึงสายตาของเธอ ฟางยู่เชินเงยหน้า ตอนที่กำลังเปิดปากหยอกเธอนั้น กลับเจอกับแววตาที่แดงของเธอ วิต่อมา น้ำตาก็ได้ไหลลงมา
เขาก็ได้อึ้ง ก็ได้รีบถามอย่างเป็นห่วงว่า “เวยเวย อยู่ดีๆ ร้องไห้ทำไม?”
เหลียงซินเวยตั้งสติได้ ก็ได้รีบยกมือมาเช็ด ฝืนยิ้มออกมา ก็ได้หาเหตุผลออกไปลวกๆ “ฉัน ฉันก็แค่ซาบซึ้งเกินไป”
“จริงเหรอ?” ฟางยู่เชินไม่ได้เชื่อนัก
“แน่นอนค่ะ” เหลียงซินเวยยิ้ม “รีบกินเถอะ ไม่อย่างนั้นก็เย็นแล้ว”
พูดจบ เธอก็ได้ก้มหน้า หลบสายตาที่ค้นคว้าของเขา หั่นเนื้อวัวชิ้นใหญ่ๆ เข้าปาก เปลี่ยนเรื่องว่า “รสชาติไม่เลวจริงๆ ค่ะ”
ฟางยู่เชินมองเธอ สายตาเป็นห่วงเล็กน้อย
ตั้งแต่ได้รับสายของเธอ ก็รู้สึกว่าเธอไม่ปกติ บวกกับอารมณ์ของเธอตนนี้……
เขาสามารถที่จะมั่นใจได้ว่าเธอมีเรื่องปิดบังเขา
แต่ว่าเขาไม่ได้ถาม เพราะว่าต่อให้เขาถาม เธอก็ไม่มีทางพูดความจริง
ฟางยู่เชินคิดไปสักพัก ถาม “กินเสร็จแล้ว เธออยากจะทำอะไร?”
“ไปรับอานอานกลับบ้านค่ะ”
“งั้นผมล่ะ?” ฟางยู่เชินถาม
เหลียงซินเวยก็ได้หัวเราะสักพัก “ทานข้าวเสร็จ ฉันมีเรื่องคุยกับพี่ค่ะ”
ฟางยู่เชินพยักหน้า “ได้”
ทานข้าวเสร็จ ทั้งสองก็ได้เก็บจานชามด้วยกัน เหลียงซินเวยก็ได้เดินไปที่ห้องรับแขกก่อน
ฟางยู่เชินก็ได้ค่อยๆ ก้าวไป ถามเสียงอ่อนโยนว่า “กินข้าวเสร็จแล้ว เธออยากจะพูดอะไร?”
เหลียงซินเวยเงียบไปสักพัก ถึงได้ค่อยๆ เปิดปากพูดว่า “พวกเราเลิกกับเถอะค่ะ”
พูดคำนี้ออกมา ฟางยู่เชินคิดว่าตัวเองได้ฟังผิดไป “เธอพูดอะไร?”
เหลียงซินเวยก็ได้กำหมัดแน่น จากนั้นก็ได้คลายออก เงยหน้ามองเขา ก็ได้พูดออกไปทีละคำอย่างชัดเจน “พวกเราเลิกกันเถอะ”
ในใจของฟางยู่เชินได้รน แต่ว่าก็ยังยิ้มแล้วพูด “เวยเวย วันนี้เหมือนว่าไม่ได้เป็นวันเอพริลฟูลส์นะ”
“ยู่เชิน ฉันไม่ได้โกหกค่ะ เรื่องนี้จริงจัง”
กว่าเธอจะรวบรวมความกล้าพูดแบบนี้ออกมาได้ เขาทำไมถึงได้คิดว่ากำลังล้อเล่นอยู่ล่ะ?
รอยยิ้มที่มุมปากของฟางยู่เชินก็ได้แข็งไปทันที เวลานี้ ถึงได้หาเสียงของตัวเองเจอ “ทำไมล่ะ?”
“เพราะว่าไม่เหมาะสม”
เหตุผลของเหลียงซินเวยก็ได้ทำให้ฟางยู่เชินหัวเราะออกมา “พวกเราอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ตอนนี้เธอถึงมาพูดกับผมว่าไม่เหมาะสม เธอกำลังล้อผมเล่นเหรอ?”
“ยู่เชิน พี่เก่งเกินไป ฉันไม่เหมาะกับพี่เลย”
เหลียงซินเวยก็ได้หลับตา กำหมัดแน่น ก็ได้กดความเจ็บปวดที่แทบจะกลืนเธอไปเลยแบบนั้นไว้ แล้วก็พูดอีกว่า “เลิกกันเถอะ”
ฟางยู่เชินก็ได้เดินไป นั่งยองๆ หน้าเธอ ก็ได้กุมมือของเธอ
“ถ้าเกิดเพราะเรื่องนี้ งั้นไม่จำเป็นต้องเลิกกันจริงๆ ผมไม่ได้แคร์เลยสักนิด ขอแค่พวกเรารักกันก็พอแล้ว อีกอย่าง ในใจของผมตอนนี้ เธอก็เก่งมากๆ แล้วก็ไม่มีใครแทนได้”
เหลียงซินเวยก็ได้ลืมตา เจอกับสายตาที่เต็มไปด้วยรักของเขา จมูกก็ได้ตัน สายตาก็ได้น้ำตาคลอ
“เวยเวย ผมรักเธอ นี่ก็พอแล้ว”
การบอกรักที่ลึกซึ้งของเขา ทำให้เหลียงซินเวยหลับตาอย่างเจ็บปวด น้ำตาก็ได้ไหลลงมา
“เวยเวย ไม่ต้องพูดอะไรโง่ๆ ได้ไหม?” ฟางยู่เชินยกมือไปเช็ดน้ำตาของเธออย่างอ่อนโยน
“ขอโทษค่ะ” เหลียงซินเวยก็ได้กัดฟัน พูดออกไปอย่างปวดใจว่า “ฉันคบหากับพี่ มันเจ็บปวดมากจริงๆ!”