ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่37 จัดการมันซะ
บทที่37 จัดการมันซะ
เธอรีบหยุดเดินแล้วนั่งกลับไปที่รถ
ตอนนี้หลานซือเฉินคงอุ้มเจียงสื้อสื้อออกจากหมู่บ้านไปแล้ว
ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ค่อยได้สติ เธอนอนพิงเขาทั้งตัว หน้าที่กำลังหลับอยู่ดูอ่อนโยนและอบอุ่น ไม่มีการหวาดระแวงหรือความร้ายใดๆ ดูดีเลยทีเดียว
ใบหน้าที่สวยงามของเธอเหมือนดั่งภาพวาด ตอนนี้เธอเหมือนเมื่อ6ปีก่อนเลย
ตอนนั้นเธอดูพูดง่าย สั่งง่ายใช้เป็นเครื่องมือได้
แต่ตอนนี้……………………
พอนึกถึงสิ่งที่เธอเคยพูด ที่เธอเกลียดตัวเอง หลานซือเฉินก็รับไม่ได้ ความรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ผุดขึ้นมาก็หายไปกับความคิดพวกนี้
“เปิดประตู” เขาพูดกับผู้ชายเสื้อดำสองคนนั้น
ผู้ชายสองคนนั้นก็เดินไปเปิดประตูหลังรถ
หลานซือเฉินก้มลงไปแล้ววางเจียงสื้อสื้อเข้าไปในรถเตรียมลุกออกมา
ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงดัง ‘ปั้ง–‘
เขารีบหันกลับไปมองแล้วเห็นชายเสื้อดำที่ตนเองพามาลอยไปชนกับรถที่จอดอยู่ไม่ไกล
หลานซือเฉินตกใจมาก รีบหันไปอีกฝั่งอย่างไว แต่หางตาเขาเห็นเงาคนวิ่งใกล้เข้ามา…….
เขายังไม่ทันได้มองให้ชัดก็รู้สึกปวดที่ท้องอย่างหนัก
แรงนั้นหนักจนเหมือนจะทำให้อวัยวะภายในเขาเคลื่อนที่ไปด้วยเลย เขานอนขดอยู่บนถนนอย่างทรมาน…..
คนที่มาทำร้ายพวกเขานั้นก็คือจิ้นเฟิงเฉิน
ตอนแรกเขามารับเจียงสื้อสื้อไปกินข้าวตามสัญญา แต่ระหว่างทางที่มาจิ้นเฟิงเหราโทรเข้ามาบอกว่าที่บริษัทมีเหตุด่วนนิดหน่อย ก็เลยต้องรอเขามาเจอกันก่อน เลยทำให้ช้าลงกว่าเดิมเล็กน้อย
แต่ไม่คิดเลยว่าจะเห็นภาพนี้
จิ้นเฟิงเฉินโกรธมาก เหมือนของมีค่าของตัวเองโดนคนอื่นเขาขโมยไป
โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่าเธอสลบอยู่ สายตาที่เขามองหลานซือเฉินเหมือนมองคนที่ตายไปแล้ว “คุณชายหลาน!”
ทันใดนั้นชายเสื้อดำอีกคนก็รู้ตัวแล้วรีบวิ่งมาปกป้องเจ้านาย แต่เดินไปแค่สองก้าวก็มีคนดึงคอเสื้อเขาไว้ แล้วมีเสียงพูดออกมาว่า “ฉันเตือนนายเลยนะว่าอย่าไปยุ่งกับเขา นายสู้เขาไม่ไหวหรอก”
แต่รอบนี้ชายเสื้อดำไหวพริบเร็วกว่าเดิม เขาหันหลังไปชกใส่อีกคน
แต่คนที่อยู่ข้างหลังรู้ทัน เขาหลบหมัดชายเสื้อดำไปได้ง่ายๆ แถมยังจับแขนอีกข้างเขาไว้แล้วก็กระชาก
ชายเสื้อดำเสียสมดุลแล้วล้มมาทางเขา
จิ้นเฟิงเหรายิ้มเบาๆ แล้วสับเข่าใส่ท้องเขาแรงๆ ………
ชายเสื้อดำร้องอย่างเจ็บปวด หลังจากนั้นก็ล้มลงไปนอนขดกับพื้น
“ฝีมือแค่นี้ยังมีหน้ามาเป็นบอดี้การ์ดอีกหรอ?”
จิ้นเฟิงเหราปัดๆ มือตัวเอง แล้วส่ายหัวอย่างผิดหวัง
เวลาเดียวกันหลานซือเฉินยังไม่ได้หายจากความเจ็บปวดนั้น เขาก็นั่งมองคนอุ้มเจียงสื้อสื้อออกจากรถแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
จิ้นเฟิงเฉินตรวจดูร่างกายเธออย่างระวังว่ามีแผลอื่นอีกไหม พอรู้ว่าเขาแค่สลบไปก็โล่งอกขึ้นมา แต่สายตาเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
หลานซือเฉินกล้ายุ่งกับคนของเขาได้ไง?
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเจียงสื้อสื้อไว้แล้วเข้าเข้าไปหาหลานซือเฉินทีละก้าวทีละก้าว
เขามองดูเขาอย่าผู้ชนะ บรรยากาศดูตึงเครียดและน่ากลัว สายตาที่แหลมคมเหมือนมีด แค่สายตาก็ทำให้คนไม่กล้าที่จะสบตากับเขาแล้ว
หลานซือเฉินหายใจไม่ค่อยทัน เขารู้สึกกลัวและระแวงอยู่ในใจ
คนที่ทำให้เขารู้สึกกดดันแบบนี้มีไม่มาก
ผู้ชายตรงหน้านี้เจอกันเป็นครั้งที่2แล้ว ครั้งแรกเจอที่หน้าห้องอาหาร คราวนั้นเขาก็รู้สึกแบบนี้ คราวนี้เป็นครั้งที่ 2
ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงรู้จักคนระดับนี้ได้?
อีกอย่าง……….ทำไมเขาถึงอยู่กับ จิ้นเฟิงเหรา?
ในขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จิ้นเฟิงเหราก็วิ่งตามหลังมา
พอเห็นพี่ตัวเองอุ้มพี่สะใภ้ไว้อย่างกับสมบัติ เขาก็ส่งสายตาสงสารไปที่หลานซือเฉิน
กล้ายุ่งกับพี่สะใภ้ในอนาคตของเขาได้ยังไง สงสัยไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วมั้ง
“มือข้างไหนที่ทำร้ายเธอ?”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่หลานซือเฉินสักพักแล้วก็พูดออกมาจนได้ พอเขาพูดออกมาเสียงเขาทำให้คนตกใจ หลานซือเฉินค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น สายตาดูหมนหมองแล้วถามเขา “นายเป็นใคร?”
จิ้นเฟิงเฉินไม่อยากพูดมากกับเขา ถามไปอีกรอบอย่างจริงจัง “ฉันถามนายว่า มือข้างไหนที่ทำร้ายเธอ?”
หลานซือเฉินหน้าเสียกว่าเดิม “มันเกี่ยวอะไรกับนาย ส่งเธอกลับมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าเคร่งกว่าเดิม “ไม่พูดใช่ไหม? ถ้างั้นก็ไม่ต้องเก็บไว้ทั้งสองข้าง เฟิงเหรา”
“ครับพี่”
จิ้นเฟิงเหรายกมือตอบอย่างเต็มใจ
จิ้นเฟิงเฉินพูดต่อว่า “จัดการเขาซะ”
“โอเคครับ ไม่มีปัญหา พี่พาคุณเจียงขึ้นรถไปก่อนเลยครับ เรื่องนี้ให้ผมจัดการ”
จิ้นเฟิงเหราตอบอย่างไว แล้วก็กำหมัดมองไปที่หลานซือเฉิน
หลานซือเฉินเข้าใจบางอย่างทันที เหมือนจะไม่กล้าเชื่อเขามากกว่า
พี่ชาย………
จิ้นเฟิงเหราเรียกเขาว่าพี่ชายงั้นหรือ
บนโลกนี้มีคนคนเดียวที่จิ้นเฟิงเหราจะเรียกว่าพี่ได้ นั่นก็คือประธานของจิ้นกรุ๊ป จิ้นเฟิงเฉิน!!!
คนที่เก่งที่สุดในวัยนี้ของเมืองจิ่น และเป็นคนที่ใครก็ยากที่จะเข้าถึงได้
หลานซือเฉินตกใจจนเหงื่อแตก เขามองไปที่จิ้นเฟิงเหรากำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดพูดไปเพราะไม่กล้า
จิ้นเฟิงเหรามองออกทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร ก็เลยพูดไปว่า “คนที่แช่หลาน ฉันไม่รู้นายโชคร้ายหรือโชคไม่ดีกันแน่ ฉันปฏิเสธร่วมงานกับนายไปอย่างชัดเจนแล้ว แต่ทำไมนายถึงยังไม่ตายใจสักที ทำไมต้องมายุ่งกับคนที่นายไม่ควรยุ่งด้วย? ตอนนี้เป็นไงล่ะพี่ชายฉันโกรธมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันทำอะไรกับนาย นายก็รับไว้ซะ…….เพราะว่านายเป็นคนทำตัวเองทั้งนั้น!”
พอพูดจบจิ้นเฟิงเหราก็เริ่มลงมือ
ฝีมือการต่อสู้ของเขาก็เรียนมาจากพี่ชายทั้งนั้น ไม่เบาเหมือนกัน
หลานซือเฉินเองก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว
………..
10นาทีผ่านไป จิ้นเฟิงเหราเดินกลับไปบนรถอย่างสบายใจ แล้วก็อวดกับพี่ชายเขาว่า “พี่ชายครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ”
“ขับรถเลยครับ”