ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่575 ลิ้มรสชาติการตายทั้งเป็น
บทที่575 ลิ้มรสชาติการตายทั้งเป็น
แต่ต่อให้เธอสลายกลายเป็นเถ้า จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่มีทางยอมรับผิด
จิ้นเฟิงเฉินกัดฟันแน่น สายตาดุดันเสียดแทงเจียงนวลนวลที่อยู่บนพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า ความหนาวเหน็บค่อยๆ ซึมลึกอย่างช้าๆ แทบอยากจะฉีกเธอให้เป็นชิ้นๆ
มือกำหมัดแน่น จิ้นเฟิงเฉินคลายฟันที่กัดออก น้ำเสียงต่ำลึกราวกับปีศาจร้ายดังก้องอยู่ในอากาศ
“เธอทำให้ฉันตามหาตัวแทบแย่เลยนะ เจียงนวลนวล!”
ถ้อยคำเย็นเยียบไม่กี่คำราวกับการซักถามของพญามัจจุราช ทำเอาจิตใจอันเปราะบางแต่เดิมของเจียงนวลนวลทุกข์ทนแสนสาหัส
หลายปีมานี้ เธอได้แต่หนีเอาชีวิตรอด
รับรู้ถึงความหวาดกลัวของจิ้นเฟิงเฉินได้อย่างชัดเจน เพื่อตามหาตัวเธอ เขาแทบจะพลิกทั้งโลกตามหา
ผู้ชายคนนี้ก็คือปีศาจร้ายดีๆ นี่เอง!
นาทีนี้ความเยือกเย็นทั้งหมดถูกบีบจนแตกเป็นฟอง เธอสัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งความตายได้รางๆ
เวลานี้เจียงนวลนวลตกใจจนน้ำตาไหลพราก ตาลีตาเหลือกคลานไปข้างหน้า นิ้วมือทั้งผอมแห้งทั้งสกปรก กำลังกอดขากางเกงของจิ้นเฟิงเฉิน
เธอแหงนศีรษะ อ้อนวอนอยู่ซ้ำๆ “ขอร้องคุณล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว……”
เธอถูสองมือของตัวเอง โขกหัวให้จิ้นเฟิงเฉิน ศักดิ์ศรีอะไรนั่น เมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
เจียงนวลนวลคิดว่าการอ้อนว้อนจะเรียกความสงสารจากจิ้นเฟิงเฉิงได้บ้าง
ทว่าวินาทีต่อมา ตนเองก็ถูกคนของเขาโยนทิ้งลงไปบนพื้นราวกับขยะ
จิ้นเฟิงเฉินกลับโกรธจัดแทน เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ถลึงตาใส่เจียงนวลนวลด้วยสีหน้าถมึงทึง
หัวเราะอย่างเย็นชา ราวกับได้ยินเรื่องขบขันบางอย่าง “ปล่อยเธอ? ตอนนั้นที่เธอโยนสื้อสื้อทิ้งลงไปในทะเล เคยคิดว่าจะมีวันนี้บ้างไหม? เคยคิดไหมว่าจะไม่กล้าทำอีกแล้ว? เคยคิดที่จะปล่อยสื้อสื้อกับลูกไหม?”
คำพูดของจิ้นเฟิงเฉินดุดันขึ้นเรื่อยๆ ยามพูด แววตาดำกระจ่างเต็มไปด้วยความแค้นอันบ้าคลั่ง
ทั่วร่างเขาแผ่กลิ่นอายสังหารออกมา ทำให้คนหวาดกลัวอย่างมาก
เจียงนวลนวลได้ยินคำถามของเขา สีหน้าก็ไม่น่าดูมากขึ้นไปอีก
เจียงสื้อสื้อ! ยังคงเป็นผู้หญิงคนนี้!
ทำไมเธอตายไปแล้ว ยังไม่ยอมให้เธอได้มีชีวิตอยู่เป็นสุขอีก!
ความอิจฉากับความแค้นทำให้ใบหน้าเธอเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้น เธอดิ้นรนยืนขึ้น
เธอเอาอารมณ์โกรธระบายไปที่จิ้นเฟิงเฉิน ปากเปื่อยยุ่ยตะโกนด่าเสียงดังว่า “จิ้นเฟิงเฉิน แกมันเป็นไอ้บ้าคนหนึ่ง! เจียงสื้อสื้อตายไปนานแล้ว! สามปีก่อนก็เป็นฉันเองที่ฆ่าหล่อนตาย! หล่อนลืมแกไปนานแล้ว แกยังจะจดจำไปเพื่ออะไร……โอ๊ย!”
คำว่าเจียงสื้อสื้อตายเสียดแทงจิตใจของจิ้นเฟิงเฉิน รูม่านตาเขาหดเล็กน้อย ระเบิดความโกรธออกมา
เขาพลันยกเท้าถีบเจียงนวลนวลเต็มแรง หลังเจียงนวลนวลร้องเสียงแหลมออกมา ก็คุกเข่าลงไปกองกับพื้น
แต่เหมือนจิ้นเฟิงเฉินจะยังไม่คลายความโกรธ เดินเข้าไปเหยียบเธอไว้อย่างแรงอีกที
“สื้อสื้อยังไม่ตาย คนที่สมควรตายคือเธอ คือหญิงชั่วอย่างเธอ!
กระทั่งเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลกเธอก็ยังไม่ยอมปล่อยไป
ทำร้ายลูกเมียเขา จะสำนึกเสียใจสักนิดก็ไม่มี!
เดิมร่างกายเจียงนวลนวลก็เสียหายมากพออยู่แล้ว หนีเอาตัวรอดมาหลายปีทำให้เธออดมื้อกินมื้อ
ป่วยก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาล เพื่อยื้อความตาย ร่างกายจึงสั่งสมโรคเรื้อรังไว้มากมาย
โดนจิ้นเฟิงเฉินถีบเข้าอย่างนี้ จึงทำให้เธอราวกับเศษเทียนไขท่ามกลางลมพายุ ใกล้จะสิ้นลม
เธอกุมหน้าอกไว้ และไออย่างรุนแรงสักครู่ ไออยู่ดีๆก็กระอักเลือดออกมา
จู่ๆ เจียงนวลนวลก็ยิ้ม ซวนเซลุกขึ้นจากพื้น ถลึงตาใส่จิ้นเฟิงเฉินอย่างชั่วร้าย
“หล่อนตายแล้ว ศพก็เน่าอยู่ในทะเลไปแล้ว ตายโดยไร้ร่างสมบูรณ์! จิ้นเฟิงเฉิน แกอย่าหลอกตัวเองอีกเลย แกปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือแล้วอย่างไร?
ยังไงก็ช่วยนางแพศยาเจียงสื้อสื้อไม่ได้อยู่ดี หากเก่งนักวันนี้ก็ฆ่าฉันเลยสิ ฆ่าฉันก็แค่ชีวิตเดียว แต่เจียงสื้อสื้อมีสองชีวิตอยู่ในร่าง หนึ่งชีวิตแลกสองชีวิต ชีวิตนี้ของฉันก็คุ้มค่าแล้ว! ระหว่างทางไปปรโลก ถึงฉันเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อนหล่อนไป!”
เจียงนวลนวลในเวลานี้เสียสติไปแล้ว ในเมื่อรู้ว่าตกอยู่ในมือจิ้นเฟิงเฉินก็คงไม่มีจุดจบที่ดีไปได้
จะตีหม้อก็ตีให้แหลกไปเลย ใช้ถ้อยคำชั่วร้ายเสียดแทงจิตใจจิ้นเฟิงเฉินไปเรื่อยๆ
เธอไม่ได้อยู่เป็นสุข ก็จะไม่ยอมให้พวกเขาได้อยู่เป็นสุขเช่นกัน!
คำพูดของเจียงนวลนวล กรีดไปบนแผลที่ยังไม่หายดีของจิ้นเฟิงเฉินอย่างรุนแรง จนเหวอะหวะ
เส้นเลือดดำปูดนูนขึ้นมาบนหลังมือเขา สายตาพลันเปลี่ยนเป็นคมกริบ เงาร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาทันที มือข้างหนึ่งบีบไปบนลำคอของเธอ
เขาออกแรงที่มือ ดันเจียงนวลนวลไปติดกำแพงด้านข้าง
“อยากตาย งั้นฉันจะส่งเสริมเธอเอง!”
ฝ่ามือใหญ่ของเขากุมรอบลำคอเจียงนวลนวล นัยน์ตาแดงฉาน
รับรู้ได้ถึงเลือดของเจียงนวลนวลไหลลงใต้ฝ่ามือ
มีครึ่งหนึ่งที่เหมือนกับสื้อสื้อ เพียงแค่สีเลือดของเจียงนวลนวลเป็นสีดำ
เขายิ่งสะอิดสะเอียน มือก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบ
เจียงนวลนวลไม่ทันได้ตั้งตัว หลังชนกำแพงไม่ทันได้ร้องครวญคราง
ลำคอถูกบีบไว้ รู้สึกหายใจไม่ออก สีหน้าเธอเริ่มเขียวคล้ำ
สองมือปัดป่าย โซ่เหล็กเส้นยาวกางออกเป็นเส้นตรงพอดี
ข้อมือเธอถูกล่ามไว้จนเป็นรอยแดง พยายามแกะมือจิ้นเฟิงเฉินออกโดยสัญชาตญาณ ทว่าแรงสักนิดกลับไม่มี
เจียงนวลนวลได้แต่ไออย่างรุนแรง น้ำตาถูกบีบออกมาอย่างดื้อๆ
เวลานี้เธอรู้สึกถึงความกลัวตายอย่างแท้จริง
กลีบปากค่อยๆ เปลี่ยนจากขาวกลายเป็นม่วง เจียงนวลนวลพูดคำออกมาสองสามคำอย่างทรมาน อ้อนวอนอย่างขมขื่น “อย่า อย่าฆ่าฉัน……”
ในสายตาที่พร่าเลือน มองเห็นเพียงความดุร้ายของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินในตอนนี้ราวกับปีศาจร้ายที่มาเยือนในคุกใต้ดินด้วยตนเอง
บนตัวนอกจากกระหายกลิ่นคาวเลือดแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก
ภาพนี้สลักลึกลงไปในกระดูกของเจียงนวลนวล บั้นปลายชีวิตต่อจากนี้ พอคิดถึงจิ้นเฟิงเฉิน เธอจะตัวสั่นอย่างรุนแรง
มองเห็นเจียงนวลนวลเริ่มดิ้นรนขัดขืนน้อยลง คนที่อยู่ใต้อาณัติต่างตกตะลึงกันไปหมด ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวาง
กู้เนี่ยนได้สติ รีบเดินเข้ามา คิดจะห้ามไว้
มือของจิ้นเฟิงเฉินต้องมาเปรอะเปื้อนเพราะคนเช่นนี้ไม่คุ้มกันเลย
“คุณชาย!” กู้เนี่ยนร้องเรียกเสียงดัง
เสียงเรียกดึงสติจิ้นเฟิงเฉิน เขาแค่นเสียงเย็นชา ปล่อยมือทันที
เจียงนวลนวลราวกับของเหลวกองหนึ่ง ไถลจากกำแพงลงมากองที่พื้น
กุมลำคอสีแดงช้ำ หอบหายใจอย่างแรง จนตรอกอย่างยิ่ง
จิ้นเฟิงเฉินลดสายตามองต่ำไปที่เจียงนวลนวล กล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “ฆ่าเธอ? ฆ่าเธอตายมันจะสบายเกินไป เธอเองก็เสียเปรียบเช่นกัน
แต่เธออย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนัก ที่ฉันไม่ฆ่าเธอเพราะฉันอยากให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอได้ลิ้มรสชาติการตายทั้งเป็น ต่อจากนี้ไป เธอจะต้องเสียใจภายหลังเพราะเวลานี้ไม่ได้ตายด้วยน้ำมือฉัน!”
หลังพูดจบ ก็ไม่สนใจเจียงนวลนวลที่อยู่บนพื้นอีก เขาหมุนตัวก้าวเท้าออกไปจากสถานที่หนาวเย็นและอับชื้นแห่งนี้
ก่อนจะจากไป เขาได้สั่งกำชับสองพี่น้องที่มีหน้าที่คอยเฝ้าเจียงนวลนวลด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า “ดูแลเธอให้ดี อย่าให้ตายก็พอ”
“ได้ครับ เจ้านาย คุณวางใจ พวกเรารู้จักขอบเขต”
คนที่เป็นลูกมือพยักหน้า ได้รับคำสั่งก็เดินไปหาเจียงนวลนวล หนึ่งในนั้นยังขยับข้อมือเล็กน้อยด้วย
ที่นี่กับที่จีนไม่เหมือนกันเท่าไหร่นัก ดังนั้นเรื่องบางเรื่องจึงจัดการได้ค่อนข้างสะดวกกว่า
ลูกน้องจิ้นเฟิงเฉิน ส่วนใหญ่ล้วนเก็บมาจากอันธพาลข้างถนนเหล่านั้น แต่พอคิดจะกลับตัวกลับใจกลับถูกคนขององค์กรลงมืออย่างโหดเหี้ยมทารุณ