ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 432
บทที่ 432 คุณนายหลิน
แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ กลับมากันท่าไว้ที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์นี่แหละ
ตอนที่หลินเย่นกำลังคิดหาวิธีว่าจะเจอกับเสี้ยเมิ่งเหยายังไงดี หลินหลันก็เดินเข้ามาด้านในบริษัทพอดี
“คุณนายหลิน” สาวสวยหน้าเคาน์เตอร์ตาไวเห็นหลินหลันในตอนนั้น เธอก็เรียกชื่ออย่างเคารพ
เสียงนี่เองที่ทำให้หลินเย่นสองแม่ลูกนี่อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองไปด้านข้าง เมื่อเห็นคุณนายหลินที่สาวสวยหน้าเคาน์เตอร์เอ่ยเรียกนั้นคือหลินหลันเอง ทั้งสองต่างเบิกตาโต
อีนางคนบ้านนอกเนี่ยนะ ตอนนี้กลับกลายมีคนเอ่ยเรียกว่าคุณนายหลินไปแล้วเหรอ!
เมื่อเห็นสองแม่ลูกหลินเย่นแล้ว หลินหลังเองก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ไปชั่วครู่ แต่ว่าก็สติได้เร็วมาก ความนิ่งงันแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหน้าบานขึ้นมาแทนที่ “โอ้โห พี่เย่น พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
“จริงๆ เลยนะ พี่เย่น”
“พี่มาก็ไม่แจ้งกับเราไม่ก่อนล่ะ ฉันจะเตรียมตัวออกไปต้อนรับขับสู้”
ไม่รอให้หลินเย่นได้พูดต่อ หลินหลันก็เดินมาหาตรงหน้าหลินเย่น และพูดด้วยน้ำเสียงสนิทชิดเชื้อ
“ต้อนรับขับสู้เหรอ?!”
หลินหลันไม่พูดคำนี้ออกมาก็ยังดี แต่พูดคำนี้ออกมาแล้ว ความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในทรวงอกเริ่มตีกลับขึ้นมาเป็นระลอก ต้อนรับขับสู้เหรอ? ต้อนรับกับผีนะสิ!
แกก็แค่อยากจะทำตัวสูงส่งหยิ่งผยองเหนือหัวกูละสิ!
ถึงแม้ว่าจะถูกหลินหลันทำให้โกรธจนต้องกัดฟันเอาไว้ก็ตาม ทว่าหลินเย่นก็ไม่กล้าเอาความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในทรวงอกระเบิดออกมาใส่หลินหลัน
ไม่มีเขา วันนี้เธอถึงต้องมาเอง เพื่อมาขอร้องเสี้ยเมิ่งเหยา
หลังจากสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ หลินเย่นก็สงบสติลงได้ จากนั้นก็พูดตามจุดประสงค์ที่มาตรงๆ เลย “หลินหลัน พาฉันไปหาเสี้ยเมิ่งเหยา ฉันมีธุระต้องคุยกับเธอ”
“มีธุระเหรอ?” หลินหลันตะลึงไปก่อน จากนั้นก็ฉีกยิ้มทำท่าหยอกล้อเล็กน้อย “มีธุระอะไรกัน?”
“แกอย่าสนเลยว่าเรื่องอะไรกัน แกพูดออกมาตรงๆ เลยว่าจะยอมพาพวกเราไปไหม” หลินเย่นเริ่มหงุดหงิด ตอนนี้อารมณ์ของหลินหลันมันทำให้เธอไม่สบายใจเลย เวลาก่อนหน้านี้ หลินหลันอยู่ต่อหน้าเธอยังไม่กล้าแม้แต่ที่เงยหัวขึ้นมามองหน้าเลย วันนี้ กลับเอาน้ำเสียงแบบนี้มาพูดกับเธอได้ จะทำให้เธอทนต่อไปได้ยังไงไหว
หลินหลันเองก็เห็นว่าหลินเย่นเริ่มไม่สบายใจแล้ว แต่ว่าสถานะของเธอในเวลานี้ ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของหลินเย่นอีกแล้ว
หลังจากนั้น หลินหลันก็ยิ้มแล้วเอ่ยปากพูด “พาพวกคุณเข้าไปได้แน่นอน แต่ว่าฉันไม่รับประกันว่า เมิ่งเหยาจะมีเวลามาพบพวกคุณหรือเปล่า เพราะว่าตอนนี้เธอเป็นถึงท่านประธานของบริษัท มีเรื่องมากมายที่ต้องเข้าไปสะสาง”
เธอจะยุ่งหาหอกอะไร!
หลินเย่นโมโหจนเกือบหลุดคำผรุสวาทออกมา แต่สุดท้าย เธอก็ยังฝืนทนเอาไว้ ได้แต่กัดฟัดพูด “แกรีบพาฉันขึ้นไป”
“ได้ เดินตามฉันมา” หลินหลันเห็นดังนั้นก็เริ่มเก็บอาการไว้ เพราะว่าด้วยนิสัยของหลินเย่นแล้วที่ถูกเชือดเฉือนซะจะไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้ายังเชือดเฉือนกันต่อไป หลินเย่นคงระเบิดอารมณ์จริงๆ แล้ว
ช่วงนี้หลินหลันมาที่บริษัทอยู่บ่อยครั้งถึงมีหรือไม่มีธุระก็ตาม ดังนั้นทุกคนในบริษัทต่างรู้ดีถึงสถานะว่าหลินหลันเป็นมารดาของเสี้ยเมิ่งเหยา
ตลอดทาง พนักงานของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปต่างทุกคนเรียกคุณนายหลินตลอดทาง การปฏิบัติตัวต่อหลินหลันนั้นก็ให้ความเคารพยกย่องอย่างที่สุด
ภาพนี้ ทิ่มแทงคู่สองแม่ลูกหลินเย่นอยู่ไม่น้อย
ในที่สุด ทั้งสามคนก็เดินมาถึงประตูด้านหน้าห้องทำงานของเสี้ยเมิ่งเหยา
หลินหลันไม่ได้เคาะประตูเข้ามา เปิดประตู แล้วเดินเข้าไปด้านในเลย คู่แม่ลูกหลินเย่นก็เดินตามหลังอย่างรวดเร็ว
ด้านในห้องทำงาน หลังจากได้ยินเสียงเสี้ยเมิ่งเหยาก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่เดินตามหลังหลินหลันเข้ามานั้นคือคู่สองแม่ลูกหลินเย่น หัวคิ้วของเสี้ยเมิ่งเหย่าก็ย่นเข้าหากันทันที “ฉันไม่ได้พูดว่าเวลาตอนที่ทำงาน อย่ามาหาฉันที่บริษัทไม่ใช่เหรอ?”
“เอ่อ เมิ่งเหย่า ป้าสองของแกบอกว่ามีเรื่องจะมาหาแก” หลินหลันยิ้มอย่างเยาะเย้ยตอนที่พูดด้วย ตั้งแต่ที่รู้ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาได้รับตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว เธอก็ไม่ตะคอกโหวกเหวกโวยวายใส่เสี้ยเมิ่งเหย่าเหมือนก่อน ในใจลึกๆ แล้ว เธอยังหวาดกลัวเสี้ยเมิ่งเหยาอยู่ไม่น้อย
“มีธุระอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหยาส่งแววตาและอารมณ์ไร้ความรู้สึกและเย็นชามองมาทางหลินเย่น
สายตานี้ มันทำให้หลินเย่นไม่ถูกใจมาก
อีนางผู้หญิงชั้นต่ำ จะตอแหลไปถึงไหน!
หลังจากที่ก่นด่าอยู่ในใจแล้ว หลินเย่นก็กระแอมแล้วพูดออกมา “เมิ่งเหยา ที่ป้าสองมาครั้งนี้ ก็อยากให้แกช่วยป้าสองสักเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหย่าขวมดคิ้วเป็นปม
“หางานให้รั่วเสวี่ยนทำ” หลินเย่นไม่ปิดบังอะไรกับเสี้ยเมิ่งเหยา พูดจุดประสงค์ของตนเองไปทันที
“ตอนนี้แกก็เป็นถึงประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แกอย่าพูดออกมานะว่าเรื่องนี้แกทำไม่ได้”
ไม่มีการรอให้เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอะไรต่อ หลินเย่นรีบพูดต่อทันควัน ดูจากอาการท่าทางแล้วเพื่อจะปิดการหลีกเลี่ยงของเสี้ยเมิ่งเหยาให้สนิท
เมื่อได้ยินการขอร้องของหลินเย่นแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาก็ไม่ได้โต้ตอบแต่สิ่งใด หลินหลันที่อยู่ข้างๆ นั้นแอบถอนหายใจเบาๆ ความจริงแล้วการพาคู่สองแม่ลูกหลินเย่นมาที่ห้องทำงานนั้น หลินหลันเองก็อึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะว่าเธอเองก็เป็นห่วงกลัวว่าหลินเย่นจะขอร้องเรื่องอะไรที่เกินไป จนทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาทำไม่ได้
แต่ไม่คิดว่า หลินเย่นขอให้เสี้ยเมิ่งเหยาให้งานกับถางรั่วเสวี่ยนแค่นั้นเอง
“คุณอยากให้ฉันหางานให้รั่วเสวี่ยน ทำเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดเรียวคิ้วเรียวงาม สำหรับถางรั่วเสวี่ยนแล้ว ความจริงแล้วก็ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงมากมายอะไร ถ้าได้ เธอก็ยินยอมหางานให้ถางรั่วเสวี่ยนทำ
แต่เมื่อเห็นว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับใดๆ สีหน้าของหลินเย่นเริ่มไม่ค่อยยินดีแล้ว แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ตอบคำถามของเสี้ยเมิ่งเหยาในทันที แต่ถามเสี้ยเมิ่งเหยากลับ “ตอนนี้แกก็เป็นถึงประธานบริษัทใช่ไหม?”
“ไม่ผิด” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าให้เบาๆ
หลินเย่นทำคอพยักพเยิดให้ สีหน้าพออกพอใจตอนที่พูดออกมา “เป็นถึงประธานบริษัท งั้นฉันก็ขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน”
“แกก็รู้อยู่เต็มอก ว่ารั่วเสวี่ยนของฉันนั้นจบสาขาการจัดการด้านการแพทย์มาจากมหาวิทยาลัยโดยตรงเลย มันช่างเหมาะเจาะกับทางด้านบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ดังนั้นก็มีแค่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปนี่แหละ ถึงสามารถให้เธอขุดเอาความสามารถทางด้านนี้ออกมา…”
“รั่วเสวี่ยนเรียนจบปีนี้ใช่ไหม?” ไม่รอให้หลินเย่นพูดจบ เสี้ยเมิ่งเหยาก็อดไม่ได้เลยพูดแทรกหลินเย่นทันที การรับพนักงานของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปนั้นถือว่าเข้มงวดมาก ตามกฎนั้นก็เขียนเอาไว้แล้ว อย่างนั้นต้องจบการศึกษาปริญญาโท ทว่าถางรั่วเสวี่ยน จบแค่ปริญญาตรีเอง
หลินเย่นพูดด้วยอารมณ์ไม่ถูกใจ “เพิ่งจะจบแล้วไงล่ะ?”
“เพิ่งเรียบจบก็เข้ามาทำงานที่คางเหม่ยไม่ได้เหรอ? ความสามารถรั่วเสวี่ยนของฉัน โดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร ถ้าให้ฉันพูด เมื่อเอาเธอเข้ามาในคางเหม่ยแล้ว ต้องเป็นคนมากความสามารถแต่ใช้งานไม่ถูกจุดแน่”
ไม่ได้ยินคำพูดของหลินเย่น ถางรั่วเสวี่ยนที่อยู่ด้านข้างเริ่มแสดงสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติออกมาเล็กน้อย ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เธออยากเข้ามาทำงานในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แต่ผ่านรอบแรก พอมาสอบด้านเฉพาะทางรอบสองแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าความสามารถด้านเฉพาะทางไม่ผ่าน จนเธอถูกคัดออก
แต่พอมาฟังคำพูดจากหลินเย่นแล้ว การที่เธอเข้ามาในคางเหม่ย กลับกลายเป็นว่าผู้มากความสามารถแต่ใช้งานไม่ถูกจุดไปได้ซะนี่
“ได้ ฉันสามารถให้รั่วเสวี่ยนเข้ามาทำงานในคางเหม่ยได้ แต่ว่าเธอต้องเริ่มจากตำแหน่งพื้นฐานสุดมาก่อน” ในที่สุดเสี้ยเมิ่งเหยาก็สามารถหาทางออกที่ดีได้ ถึงแม้จะพูดว่าการศึกษาของถางรั่วเสวี่ยนไม่สูงเท่าไหร่ แต่เธอก็ยอมเชื่อใจถางรั่วเสวี่ยนดูสักครั้ง
ใครจะไปรู้ เมื่อหลินเย่นได้ยินเช่นนั้นก็ระเบิดอารมณ์ที่อัดอั้นออกมาทันที
“แกพูดว่าอะไรนะ ตำแหน่งขั้นพื้นฐานมาก่อนเหรอ?!” หลินเย่นทำหน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
“ทำไมเหรอ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” เสี้ยเมิ่งเหยาตีหน้าตาย การที่ให้ถางรั่วเสวี่ยนเข้ามาทำงานในคางเหม่ยนั้น นั่นเป็นการละเมิดกฎการทำงานของเธอแล้ว ยิ่งเห็นท่าทางของหลินเย่นแล้วด้วย ยังคงไม่ถูกใจอีกเหรอ?
“เสี้ยเมิ่งเหยา! รั่วเสวี่ยนมีศักดิ์เป็นน้องสาวของแกเลยนะ แกให้เธอไปทำงานงกๆ ที่ตำแหน่งต่ำๆ นั้นเหรอ!” หลินเย่นเกือบจะระเบิดอารมณ์ที่มันอัดอั้นอยู่เต็มอกออกมา
“งั้นคุณอยากให้เธอทำงานอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหยาทำสีหน้าเย็นชาใส่