ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 449
บทที่ 449 ตบจนกว่านายจะยอม
“งั้นฉันก็จะตบจนกว่านายจะขอโทษ!”
เฉินเฟิงยิ้มเย็น พูดจบปุ๊บ ดวงตาชายหนุ่มหดตัวอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นโลกเบื้องหน้าก็เริ่มหมุนอย่างควบคุมไม่ได้
“เพี๊ยะ”
เฉินเฟิงตบหน้าเข้าให้หนึ่งฉาด ทำเอาชายหนุ่มหมุนอยู่กับที่สองรอบ ยังไม่ทันตั้งหลักดี ผันมนปากก็หลุดกระเด็นออกไปเจ็ดแปดซี่
ฉากนี้ทำให้สาวสวยเน็ตไอดอลที่ยืนข้างชายหนุ่มตกใจไม่น้อย
“อ๊า! ทำร้ายร่างกาย!” หลังจากเสียงแหลมกรี๊ดขึ้น สาวสวยเน็ตไอดอลรีบเข้าไปพยุงหนุ่มผมทอง
“พี่โป๋ พี่….ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” สาวสวยเน็ตไอดอลใบหน้าซีดเผือด เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ชายหนุ่มหน้าบวมเขียวเต็มไปด้วยเลือดข้างหน้านี้จะเป็นคนเดียวกับหวู่เหวินโป๋ที่พึ่งกดทับเธอไว้ใต้ร่างเมื่อกี้
หวู่เหวินโป๋ในตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพคนไว้ นี่มันหัวหมูชัดๆ ตบฉาดนั้นของเฉินเฟิงใช้แรงไปเท่าไหร่เนี่ย?
“ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแกย๊าก!” หลังจากล้มลุกคลุกคลานอยู่สักพัก หวู่เหวินโป๋กำหมัดจะชกเฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง
“ไม่เจียมตัวเองเลย” เฉินเฟิงยิ้มหยัน ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตบหน้าหวู่เหวินโป๋อีกฉาด
และคบฉาดนี้ใช้แรงมากกว่าตบเมื่อกี้สามส่วน!
หลังจากเสียง”เพี๊ยะ”ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หวู่เหวินโป๋กระเด็นลอยออกไปเจ็ดแปดเมตรเลยทีเดียว!
“อ๊า! ช่วยด้วย!”
สาวสวยเน็ตไอดอลเสียงกรี๊ดร้องขอความช่วยเหลือ เสียงร้องนี้ดึงดูดความสนใจจากคนในที่จอดรถใต้ดินได้ในที่สุด
ไม่นานก็มีชายหนุ่มในชุดดูดีสามคนรีบเข้ามา
“หลิวเถียน?” ชายหนุ่มร่างสูงตัวหัวหน้าเหมือนจะรู้จักสาวสวยเน็ตไอดอล เขาตกใจจนอดอุทานชื่อเธอออกมา
“พี่ทาว ช่วยด้วยค่ะ”
พอเห็นชายหนุ่มร่างสูง หลิวเถียนเหมือนเห็นฟางเส้นสุดท้าย เธอรีบโผเข้าหาเขาทันที
มีร่างอ่อนนุ่มในอ้อมแขน ชายหนุ่มร่างสูงรู้สึกฮึกเหิมขึ้นทันที แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้
“ไม่ต้องกลัวนะ เถียนเถียน เกิดอะไรขึ้นค่อยๆเล่ามาสิ มีพี่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครทำร้ายเธอได้นะ” ชายหนุ่มร่างสูงตบไหล่หลิวเถียนแผ่วเบา ปลอบประโลมเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เจ้าบ้านั่น เขา…เขาพึ่งตบพี่โป๋!” หลิวเถียนชี้นิ้วใส่เฉินเฟิงด้วยสีหน้าโกรธแค้น หวู่เหวินโป๋พอโดนเฉินเฟิงตบกระเด็นไปเจ็ดแปดเมตรก็ไม่ขยับตัวอะไรเลย ไม่รู้ตายหรือเปล่า
“พี่โป๋?” หวังทาวตากระตุก รีบถามต่อ: “พี่โป๋ไหน? หวู่เหวินโป๋?”
“อือ!” หลิวเถียนพยักหน้าหนักแน่น ที่หวังทาวมีปฏิกิริยาแบบนี้เธอรู้อยู่ก่อนแล้ว
ในแวดวงคนรวยของจงไห่ หวู่เหวินโป๋ถือเป็นรองแค่สี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น ในฐานะลูกชายโทนของหวู่เหวินเฉิงอิงเจ้าพ่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหวินยิง หวู่เหวินโป๋อยากได้อะไรก็ได้ในตระกูลหวู่เหวินเสมอ
หวังทาวตรงหน้านี้ถึงจะมีชื่อเสียงในวงการ แต่ถ้าเทียบกับหวู่เหวินโป๋ หวังทาวทาบไม่ติดเลย
“พี่โป๋ล่ะ?” ไม่ต่างจากที่หลิวเถียนคาดไว้ พอรู้ว่าเป็นหวู่เหวินโป๋ หวังทาวก็มีสีหน้าเคียดแค้น อยากจะแก้แค้นให้หวู่เหวินโป๋ทันที
“พี่โป๋อยู่ตรงนั้น” หลิวเถียนชี้ไปที่ที่ห่างไปราวเจ็ดแปดเมตร เมื่อกี้หวู่เหวินโป๋โดนเฉินเฟิงตบเข้าให้หนึ่งฉาดซะกระเด็นไปเจ็ดแปดเมตร ดังนั้นตอนแรกพวกหวังทาวถึงไม่เห็นหวู่เหวินโป๋
“อยู่ตรงนั้น?!” หวังทาวตะลึงก่อน และรีบวิ่งไปที่ตัวหวู่เหวินโป๋ พยุงเขาขึ้นมา
พอเห็นสภาพน่าอนาจของหวู่เหวินโป๋ ทุกคนตะลึงจนดวงตาแทบหลุดจากเบ้า คนตรงหน้านี้เป็นหวู่เหวินโป๋จริงหรอ?!
“อ๊า! ฆ่ามันซะ! ฆ่ามันเลย!”
“ใครฆ่ามันให้ฉันได้ ฉันให้คนนั้นสิบล้านเลย!”
เดิมหลายคนยังสงสัยคนตรงหน้าว่าเป็นใคร แต่พอได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็คลายความสงสัยลงทันที
คนที่โดนตบจนแทบไม่เหมือนคนตอนนี้คือหวู่เหวินโป๋!
นี่เป็นเสียงของหวู่เหวินโป๋ ไม่ผิดตัวแน่
“พี่โป๋อย่าพึ่งโกรธนะครับ พวกเราจะช่วยพี่จัดการมันเอง” พอแน่ใจว่าเป็นหวู่เหวินโป๋ หวังทาวรีบประจบทันที
อีกสองคนก็ทำท่าทีเหมือนหวังทาว เพราะหวู่เหวินโป๋เป็นคุณชายใหญ่ระดับสูงสุดของจงไห่ ถ้าสามารถเกาะขาเขาได้ ต่อไปพวกเขาก็มีฐานะระดับหนึ่งในวงสังคมแน่
“ใครทำหะ?!”
พอฝากหวู่เหวินโป๋ให้หลิวเถียน หวังทาวเดินมายืนต่อหน้าเฉินเฟิงกับหลี่เล่ออย่างเย็นชา
เฉินเฟิงยังไม่ทันพูดอะไร หลี่เล่อก็แซงหน้าขึ้นมายืนกันเฉินเฟิงไว้พลางว่า: “ฉันเอง!”
“แก?” หวังทาวมองหลี่เล่ออย่างสงสัยครู่หนึ่ง พอเห็นรอยฝ่ามือแดงบนใบหน้าหลี่เล่อ เขาก็อดหัวเราะไม่ได้: “เจ้าหนู อยากจะเป็นฮีโร่ก็ส่องกระจกดูสารรูปตัวเองด้วยนะว่าเป็นไหวไหม อย่างแกน่ะไปช่วยพี่โป๋ถือรองเท้ายังไม่คู่ควรเลย”
“แกตบพี่โป๋ใช่ไหม?” หวังทาวเบนสายตามาที่เฉินเฟิง
เทียบกับหลี่เล่อแล้ว เฉินเฟิงกลับดูเหมือนคนทำมากกว่า อย่างอื่นยังไม่ต้องพูด แค่ออร่าที่เฉินเฟิงฉายออกมาก็ดูผิดจากคนธรรมดาแล้ว
“ใช่แล้วยังไง?” เฉินเฟิงยิ้มบาง
“ใช่แล้วยังไง? เจ้าหนู แกกล้ามากนะ” หวังทาวสีหน้าเย็นชาฉับพลัน เฉินเฟิงเห็นพวกเขาสามคนย่ามสามขุมเข้ามา ไม่เพียงไม่กลัว กลับดูสบายๆแบบนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า เฉินเฟิงมีฝีมือพอตัวอยู่
แต่พวกเขาสามคนก็ไม่ใช่กระจอก!
“หวังทาว อย่าเสียเวลาพล่ามกับเจ้าขยะนี่เลย! ฆ่ามันซะ มีอะไรฉันรับผิดชอบเอง!” ตอนนี้หวู่เหวินโป๋ที่อยู่ด้านหลังเอ่ยปากอย่างมาดร้าย
หวังทาวได้ยิน แววตาส่อแววชั่วร้ายขึ้นมา
“ขอโทษด้วยนะน้องชาย พี่โป๋อยากให้แกตาย…งั้นแกช่วยตายหน่อยละกันนะ!”
พูดจบ หวังทาวก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว กำหมัดจะชกเข้าหน้าเฉินเฟิง
หมัดนี้เห็นชัดว่ามีพื้นฐานมา ท่าทางออกหมัดเล่นๆของหวู่เหวินโป๋ก่อนหน้านี้เทียบกับหมัดนี้แล้ว เหมือนอนุบาลไปเลย
หมัดของหวังทาวยังไม่ทันโดนหน้าเฉินเฟิง หวู่เหวินโป๋ที่อยู่ด้านหลังมีสีหน้าแสยะยิ้ม
หลิวเถียนเองก็ตื่นเต้น ฝีมือของหวังทาวเธอเคยได้ยินมาบ้าง ได้ยินว่าได้แชมป์มวยสมัครเล่นของเมืองจงไห่สามปีซ้อน รับมือไอ้กระจอกอย่างเฉินเฟิงคงจะสบาย…
หลิวเถียนคิดยังไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนประหนึ่งหมูโดนเชือดขึ้น
วินาทีต่อมา หลิวเถียนเบิกตากว้าง ความตื่นเต้นบนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว
สีหน้าแสยะยิ้มของหวู่เหวินโป๋ชะงักค้าง เขาไม่กล้าจะเชื่อสายตาตัวเองตอนนี้เลย!
หวังทาวที่ดูฮึกเหิมน่าเกรงขามกลับคุกเข่ากึ่งนั่งต่อหน้าเฉินเฟิง!
ส่วนแขนของเขากลับงออย่างองศาที่แปลกในมือของเฉินเฟิง!
ตอนนี้หวังทาวที่กึ่งคุกเข่าบนพื้น ความตกใจในใจเขาไม่น้อยไปกว่าหวู่เหวินโป๋และหลิวเถียนเลย
เขาเป็นแชมป์มวยสมัครเล่นสามสมัยของจงไห่นะ ทำไมพอมาอยู่ต่อหน้าเฉินเฟิงกลับเป็นเหมือนเศษกระดาษเลยล่ะ?
มือเดียว!
เฉินเฟิงใช้แค่มือเดียวก็ซัดเขาหมอบเลย!