ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 457

บทที่ 457 แผนการของสมาคมการค้าเชียสุ่ย

“ฉันเข้าใจแล้ว” เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย คำพูดของฉู่ยี่เฟยนั้นพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องสำคัญขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึง

ทว่า สิ่งของที่ราคามากกว่าสองแสนล้านนั้น ตกลงมันคืออะไรแน่?

เฉินเฟิงเริ่มประหลาดใจขึ้นมาเรื่อยๆ

“คุณเฉินเฟิง การเดิมพันกับสมาคมการค้าขอเชียสุ่ย ทางเราไม่ค่อยสนใจเรื่องแพ้ชนะ เพราะว่าทั้งสองฝ่ายต่างลงแข่งการเดิมพันนั้นมหึมาทีเดียว แต่ว่าก็ไม่ขนาดที่จะระแคะระคายธุรกิจใดๆ”

“แต่การเดิมพันในครั้งนี้ ทางสมาคมการค้าจงไห่นั้น เราต้องการชนะ พวกเราไม่สามารถแพ้ได้!”

“เพราะว่าสิ่งของชิ้นนี้มันมีผลประโยชน์ ค่อนข้างมาก ถ้าทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยชนะแล้วได้มันไป สมาคมการค้าจงไห่ของเรา ก็จะกลายเป็นคนผิดให้ต่อประชาชน” สีหน้าฉู่ยี่เฟยเคร่งขรึมมาก

“การเดิมพัน คือการต่อสู้ด้วยวิทยายุทธ์เหรอ?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วถาม เมื่อฉู่ยี่เฟยพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เฉินเฟิงก็พาจะเดาได้ เป้าหมายที่ฉู่ยี่เฟยให้ตนเองแกล้งทำเป็นชายหนุ่มของฉู่ชีงฉือนั้น ตั้งมีส่วนเกี่ยวข้องในกฎและการต่อสู้เดิมพัน

“ไม่ผิดหรอก เป็นการต่อสู้ทางด้านวิทยายุทธ์นี่แหละ” ฉู่ยี่เฟยพยักหน้า

“กฎก็ง่ายมาก ทั้งสองฝ่ายต่างให้จอมยุทธ์ฝ่ายละสิบคน จากนั้นก็ให้ประลองฝีมือบนเวที ผู้ชนะก็อยู่บนเวทีต่อไป ส่วนผู้แพ้ก็ลงจากเวทีไป ก็เป็นการแข่งขันไปตามนี้ คนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนเวที เป็นคนฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็เป็นผู้ชนะ”

“นี่เป็นกฎของสนามการแข่งขัน”

“นอกจากกฎในสนามแล้ว กฎนอกเหนือจากเวทีนั้นก็คือ กฎนอกสนามก็ง่ายดายมาก มีแค่สองข้อ ข้อแรก จอมยุทธ์ที่อยู่บนเวที อายุไม่เกินสามสิบ ข้อสอง จอมยุทธ์ที่อยู่บนเวที ต้องเป็นจอมยุทธ์ที่เป็นการถูกอบรมมาจากสมาคมการค้าจงไห่ ต้องไม่ได้มาจากหรือขอความช่วยเหลือจากสหพันธ์สงคราม สหพันธ์บูโด สหพันธ์มังกร”

“กฎเช่นนี้ ฟังไปฟังมาเหมือนว่าเป็นสมาคมการค้าเชียสุ่ยเป็นคนจัดการใช่ไหม?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วตอนถาม กฎสองข้อที่ฉู่ยี่เฟยพูดออกมานั้น ไม่ว่าเรื่องนั้น ก็เอนเอียงไปทางสมาคมการค้าเชียสุ่ย ไม่ได้เอื้ออำนวยให้กับสมาคมการค้าจงไห่เลย

ข้อแรก อายุไม่เกินสามสิบ เพื่อที่จะให้กำหนดกฎเกณฑ์การฝึกวิทยายุทธ์ของจอมยุทธ์ให้อยู่ในจำกัด ถ้าไม่มีอายุที่กำหนดแล้ว ภูมิหลังวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย ทางด้านสมาคมการค้าจงไห่สามารถหาจอมยุทธ์หมิงจิ้งหลายคนมาขึ้นเวทีได้

ถ้ามีจอมยุทธ์หมิงจิ้งมาขึ้นเวทีจริงๆ งั้นทางด้านสมาคมการค้าเชียสุ่ยก็ไม่ต้องต่อสู้แล้ว สามารถให้อีกฝ่ายแพ้ไปได้เลย

ส่วนกฎข้อสองนั้น ต้องเป็นจอมยุทธ์ที่สมาคมการค้าจงไห่เป็นคนอบรมสั่งสอนถึงเข้าร่วมได้ พูดตรงๆ เลย เพื่อหยุดห้ามทางด้านสมาคมการค้าจงไห่จะเรียนเชิญคนจากสหพันธ์ทั้งสามยักษ์ใหญ่มา จอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญที่สุดของหวาเซี่ย อยู่ในทั้งสามสหพันธ์ยักษ์ใหญ่ทั้งนั้น ทางสมาคมการค้าจงไห่สามารถใช้เงินหรืออาศัยความสัมพันธ์ ก็สามารถหาคนจากยักษ์ใหญ่ทั้งสามสหพันธ์ได้

สามารถพูดได้ว่า ทั้งสามสหพันธ์ สามารถหาคนออกมาได้คนหนึ่ง ที่สามารถทำร้ายร่างกายจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยได้อย่างไร้ร่องรอย

“กฎของการเดิมพันในปีนี้ ทางด้านสมาคมการค้าเชียสุ่ยเป็นคนตั้งขึ้นมา” ฉู่ยี่เฟยพยักหน้าให้พร้อมทั้งยิ้มอย่างขมขื่น พร้อมทั้งพูดว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเราก็ไม่สามารถให้ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยกำหนดกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ แต่ครั้งนี้ เพราะว่ามันเกี่ยวพันกับสิ่งของชิ้นนั้น อารมณ์ท่าทางของสมาคมการค้าของเชียสุ่ยนั้นค่อนข้างแข็งกร้าวมาก พวกเขาเคยพูดตรงๆ ออกมาว่า ถ้าไม่ให้พวกเขาออกกฎ งั้นพวกเราก็ต้องทำลายสิ่งของชั้นนั้นไป ก็ไม่ยอมให้สิ่งของชิ้นนั้นเอาออกมาเป็นของเดิมพัน”

เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย สมาคมการค้าเชียสุ่ยในครั้งนี้ถึงได้กล้าแข็งกร้าวเช่นนี้ ด้วยเหตุผลที่แข็งกร้าวของพวกเขา

คำพูดของฉู่ยี่เฟยไม่ยากที่จะรับรู้ได้ว่า สิ่งของในการประลองฝีมือในการเดิมพันในครั้งนี้ เดิมทีสิ่งของชิ้นนี้เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบ ก็เพราะว่าประวัติศาสตร์บางอย่าง สิ่งของชิ้นนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองชิ้น ครึ่งหนึ่งตกอยู่ในมือของสมาคมการค้าจงไห่ อีกส่วนก็ตกอยู่ในสมาคมการค้าเชียสุ่ย

เมื่อเอามาเปรียบเทียบสมาคมการค้าเชียสุ่ย ทางด้านสมาคมการค้าจงไห่ต้องการสิ่งของชิ้นนั้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าของชิ้นนั้น เพราะเดิมทีเป็นสิ่งของของประเทศหวา ถ้าไม่ยอมตกลงกับกฎที่ไม่เป็นธรรมของสมาคมการค้าเชียสุ่ย ยินยอมให้ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยทำลายสิ่งของชิ้นนั้นให้สิ้นซาก เช่นนั้นทางด้านสมาคมการค้าจงไห่จะเป็นผู้ร้ายของประชาชนทันที

“สมาคมการค้าเชียสุ่ย เหมือนว่ามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าการประลองฝีมือในครั้งนี้จะเป็นฝ่ายชนะ?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วถาม เมื่อเห็นภายหน้าแล้ว ผู้ชนะในการประลองฝีมือสมาคมการค้าเชียสุ่ยจ้องได้มาก ก็แค่ พวกเขาไปเอาความมั่นใจจากที่ไหนมา?

“ไม่ผิด พวกเขามั่นใจเป็นอย่างมากในการประลองฝีมือชนะในการแข่งครั้งนี้” สีหน้าฉู่ยี่เฟยเคร่งขรึมหนักเล็กน้อยตอนที่พยักหน้าให้ “ก่อนหน้านี้ที่ฉันได้ข่าวมา พวกเขาเตรียมตัวมาเมื่อห้าปีก่อน เพื่อการเตรียมตัวในการประลองฝีมือในครั้งนี้”

“เอากฎเกณฑ์เรื่องนี้มาพูด พวกเขาไม่อนุญาตให้สหพันธ์ทั้งสามของพวกเราเข้ามายุ่มย่าม แต่ทางฝ่ายเขาเองนั้น ห้าปีก่อน ยืมตัวลูกศิษย์จากเสินอิ่นและนักบุญมีดมา การประลองฝีมือในครั้งนี้ ท่ามกลางนักฆ่าของพวกเขา ก็เป็นลูกศิษย์จากเสินอิ่นและนักบุญมีด”

“ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยวางแผนมาดี!” เฉินเฟิงหัวเราะแห้งๆ ออกมา ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยในครั้งนี้หน้าด้านที่สุด ไม่ให้ทางสมาคมการค้างจงไห่ขอความช่วยเหลือจากสหพันธ์ทั้งสามเลย แต่พวกเขาเองเชิญลูกศิษย์จากเสินอิ่นและนักบุญมีดมาอย่างเปิดเผย

ตอนที่ลองถาม สมาคมการค้าจงไห่ฝึกอบรมจอมยุทธ์ของตนเอง แล้วจะมาต่อสู้กับคนที่ฆ่าคนเป็นประจำ เมื่อเอามาเปรียบเทียบลูกศิษย์ในการท่องวงการท่ามกลางความเป็นความตายของเสินอิ่นและนักบุญมีดได้ยังไง?

“สมาคมการค้าเชียสุ่ยในครั้งนี้มันทุเรศมาก นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมทางเราต้องเชิญคุณมา” ฉู่ยี่เฟยยิ้มให้อย่างขมขื่น ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมาคมการค้าจงไห่ไม่กลัวการประลองฝีมือจากสมาคมการค้าเชียสุ่ย แต่ครั้งนี้ ทว่าสมาคมการค้าเชียสุ่ยเชื้อเชิญลูกศิษย์ของเสินอิ่นและนักบุญมีดมาได้

ทางเสิ่นอิ่นไม่ต้องพูดมาถึง ตำแหน่งในการรวมตัวกลายมาเป็นประเทศญี่ปุ่น ตำแหน่งพวกสหพันธ์สงครามในหวาเซี่ยพวกนี้ มีโครงสร้างอบรมสั่งสอนนินจาเฉพาะเจาะจงของประเทศญี่ปุ่น นินจาที่ออกมาจากเสินอิ่น ทุกคนต่างเชี่ยวชาญในด้านการลอบสังหาร จอมยุทธ์ที่อยู่ในวงการ โดยทั่วไปแล้วมีไม่กี่คนที่สามารถหลบหลีกการลอบสังหารของพวกเขาได้

ส่วนนักบุญมีดนั้น เป็นปรมาจารย์ทางด้านการใช้มีด ลูกศิษย์ของเขานั้น การฝึกวิทยายุทธ์ของการใช้มีด เมื่อเอานินจาของเสินอิ่นมา เก่งกล้าจนไม่มีที่ติ!

พูดอย่างไม่โอ้อวด ถ้าทางสมาคมการค้าจงไห่จะต้องลงมือต่อไป เมื่อยังคงเดิมพันกับทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยต่อไป ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยคงใช้คนแค่สองคน ก็คงจัดการคนของทางสมาคมการค้าจงไห่สิ้นซาก คงไม่ต้องใช้คนถึงสิบคนหรอก

“พี่เฉินเฟิง อายุของคุณฉันก็ตรวจสอบแล้ว ปีนี้อายุยี่สิบหกปี อายุยังไม่ถึงสามสิบตามเกณฑ์ สิ่งที่ไม่ครบตามกำหนด ก็คือคุณไม่ใช่คนในสมาคมการค้าจงไห่ แต่ว่าอันนี้สามารถจัดการได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันก็จะประกาศให้ทั่ว ว่าคุณเป็นแฟนของชีงฉือ ถึงเวลานั้น คุณก็สามารถขึ้นเวทีได้อย่างเปิดเผย” ฉู่ยี่เฟยพูดออกมา การให้เฉินเฟิงขึ้นเวทีนั้น นี่ไม่ใช่การตัดสินใจคนเดียว แต่ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลฉู่ทุกคนนั่งมาจับเข่าคุยกันแล้วถึงได้ตัดสินใจออกมา

ตั้งแต่เมื่อเห็นภาพวันที่เฉินเฟิงลงมือช่วยเหลือในสถานีรถไฟใต้ดินที่เมืองชางโจวในวันนั้น พลังภายในของเฉินเฟิงนั้น อย่างน้อยก็อ้านจิ้งชั้นกลาง อาจจะไปอยู่ในระดับอ้านจิ้งชั้นสุดแล้ว!

ถ้าเฉินเฟิงอยู่ในขั้นอ้านจิ้งชั้นสุดจริงๆ การเดิมพันในครั้งนี้ เขาก็จะกลายเป็นนักฆ่าที่มีวิทยายุทธ์สูงสุดของสมาคมการค้าจงไห่

เพราะว่าสมาคมการค้าเชียสุ่ยได้ออกกฎมาแล้ว เพราะเป็นจอมยุทธ์ที่มีอายุไม่เกินสามสิบปีตามกฎ ทั้งสองฝ่ายสามารถใช้ได้

ก็สามารถพูดได้ว่า สมาคมการค้าเชียสุ่ย ก็คงไม่มีนินจาที่อายุไม่ถึงสามสิบปี นี่ก็หมายความว่า ทางด้านสมาคมการค้าเชียสุ่ยทางด้านนั้นวิทยายุทธ์ที่สูงที่สุดของนินจา ก็อาจจะอยู่ในขั้นอ้านจิ้งชั้นสุด