ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 478
บทที่ 478 พี่เขย
“พี่เย่น ไม่ให้ฉันหาเรื่องทะเลาะซะหน่อย แต่มีบางคนจงใจหาเรื่องต่างหาก” เซ่หยูนฟางแค่นเสียงหึ เธอยังต้องไว้หน้าหลินเย่นอยู่ ในบรรดาสี่พี่น้องของตระกูลหลิน หลินเย่นเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด นอกจากตัวเองจะเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจงเสิ้ง หลินเย่นยังมีสามีเป็นเจ้าของโรงแรมมูลค่ากว่าร้อยล้านอีก เธอไม่ไว้หน้าหลินหลันได้ แต่จะไม่กล้าไม่ไว้หน้าหลินเย่น
พอหลินเย่นเข้ามาห้ามทัพ หลินหลันก็ได้ทีดึงตัวเองออกมา ถ้าให้เธอง้างมือตบเซ่หยูนฟางจริง เธอไม่กล้าหรอก เพราะหลินเซียวเสียนยังอยู่ชั้นบน
แถมวันนี้เป็นวันเกิดหลินเซียวเสียน นอกจากคนตระกูลหลินจะมาแล้ว ยังมีญาติของคนตระกูลหลินอีก รวมทั้งเพื่อนร่วมงานทางธุรกิจของหลิวเซียวเสียนก็จะมาด้วย
ถ้าให้คนพวกนี้เห็นเธอทะเลาะกับเซ่หยูนฟาง งั้นตระกูลหลินต้องหน้าแตกไม่รับเย็บแน่
“เมิ่งเหยา เฉินเฟิง พวกเธอมาหาที่นั่งกันก่อนนะ รอคนมากันพร้อมก่อน พวกเราถึงจะออกเดินทางกัน” หลินเย่นเบนสายตาไปที่เสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิง และพูดยิ้มแย้ม ตั้งแต่เจอเรื่องโรงแรมโดนปิดคราวก่อน เธอตัดสินใจแล้วว่า นับจากนี้ต่อไปเธอจะทำดีกับบ้านหลินหลัน
เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ต้องพูดละ เธอเป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป อนาคตถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธออาจจะได้ขึ้นเป็นระดับสูงของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปก็ได้ ถึงเวลานั้นฐานะของเธอก็จะมีมูลค่าเป็นพันล้านเลยทีเดียว
ส่วนเฉินเฟิง ถึงฐานะจะเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย แต่ฐานะที่แท้จริงของเขากลับยิ่งใหญ่กว่าชนิดที่เสี้ยเมิ่งเหยายังทาบไม่ติดเลย
“อืม” เสี้ยเมิ่งเหยาผงกหัวเบาๆ กำลังเตรียมตัวนั่งลง ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นมีเงาร่างหลายร่างเข้ามา
คนเดินนำหน้าเป็นผู้หญิงร่างสูงโปร่งถือกระเป๋าChanel ใส่ชุดแบรนด์เนมคนหนึ่ง
พอเห็นผู้หญิงสูงโปร่งคนนี้ เฉินเฟิงอดหรี่ตามองไม่ได้ ถ้าเขาจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้ชื่อถังรั่วเสวี่ยน ลูกสาวของหลินเย่น
สายตาเฉินเฟิงเบนไปที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนเยื้องไปขวาของถังรั่วเสวี่ยน ตัวผู้ชายร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา ย้อมผมสีแดง ดูเป็นเด็กนอกมาก
ส่วนผู้หญิงให้ความรู้สึกว่าเซ็กซี่มาก
บนตัวเธอใส่เสื้อออกกำลังกายเผยหลังที่อยู่แค่ครึ่งเอว เผยให้เห็นเอวคอดงามงอน ชิ้นล่างใส่กระโปรงสั้น สองขาเรียวยาวงามโผล่ออกมา
การแต่งตัวหวาดเสียวนี้ดูไม่เหมาะกับงานในวันนี้เท่าไหร่
แต่ผู้หญิงเซ็กซี่คนนี้กลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย พอเธอเข้ามาก็ปราดเข้าไปหาเซ่หยูนฟาง: “แม่คะ พวกเราจะไปกันเมื่อไหร่หรอคะ?”
“เดี๋ยวนี้แหละ รอคุณปู่ลูกอาบน้ำเสร็จ พวกเราก็ไปกันเลย” เซ่หยูนฟางมองลูกสาวอย่างรักใคร่
“งั้นต้องรออีกนานแค่ไหนอ่ะ” ลูกสาวเบ้ปาก เหมือนไม่ค่อยพอใจ
“ใกล้แล้วๆ ลูกรัก อย่าร้อนใจไปสิ” เซ่หยูนฟางปลอบ
ลูกสาวเดินไปหาเซ่หยูนฟาง ถังรั่วเสวี่ยนกับชายหนุ่มผมแดงเดินมาหาหลินเย่น
แต่ถังรั่วเสวี่ยนกลับไม่ได้คุยกับหลินเย่นทันที เธอเบนสายตามาที่เสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิง และหัวเราะถามเอาใจว่า: “พี่ พี่เขย มากันตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย?”
“พึ่งมาถึงน่ะ” เสี้ยเมิ่งเหยาตอบเสียงเรียบ
“พี่?”
“รั่วเสวี่ยน เธอเรียกสาวสวยคนนี้ว่าพี่?” ตอนนี้ชายหนุ่มผมแดงที่ยืนข้างถังรั่วเสวี่ยนพูดขึ้น
“อืม พี่เมิ่งเหยาเป็นลูกสาวน้าสาม นายน่าจะเคยเจอตอนเด็กนะ” ถังรั่วเสวี่ยนบอก
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง” ชายหนุ่มผมแดงผงกหัวเบาๆ “พี่เมิ่งเหยา สวัสดีครับ ผมคือหลินโย่ว เพราะเรียนหนังสือที่อเมริกาเลยไม่ค่อยได้กลับประเทศ ดังนั้นผมเลยไม่รู้จักญาติตั้งหลายคน พี่อย่าถือสาเลยนะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” เสี้ยเมิ่งเหยายิ้มบาง หลินโย่วคนนี้เป็นลูกชายของลุงใหญ่หลินเสวียน โดนส่งไปเรียนอเมริกาตั้งแต่เด็ก ประถมจนถึงมหาลัยแทบจะอยู่ที่อเมริกาตลอด
“คนนี้คือ…พี่เขยใช่ไหม?” หลินโย่วเบนสายตามาทางเฉินเฟิง ถึงจะไม่รู้จักเสี้ยเมิ่งเหยา แต่เรื่องในบ้านเขาก็พอรู้อยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องที่เมื่อสามปีก่อนตระกูลเสี้ยรับลูกเขยเข้าบ้านมาแต่งกับเสี้ยเมิ่งเหยา เล่าลือกระฉ่อนในตระกูลหลินอย่างมาก หลินเซียวเสียนที่ปกติจิตใจดีมีเมตตา ความโกรธขั้นรุนแรงอย่างที่หาได้ยาก คนตระกูลหลินหลายคนต่างโดนผลกระทบไปตามๆกัน
“เขาเป็นพี่เขยนาย เขาชื่อ…เฉินเฟิง” เหมือนกลัวหลินโย่วจะทำให้เฉินเฟิงไม่พอใจ ถังรั่วเสวี่ยนรีบออกตัวแนะนำให้
“เฉินเฟิง…” หลินโย่วทวนชื่อเฉินเฟิง และยิ้มพลางยื่นมือออกมา: “พี่เขยสวัสดีครับ”
“สวัสดี” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ พลางยื่นมือออกมาเช็คแฮนด์กับหลินโย่ว ถึงหลินโย่วจะปกปิดไว้ดีมาก แต่เฉินเฟิงก็ยังเห็นแววหยันซ่อนอยู่ในแววตาเขา
ไม่ผิดจากที่เฉินเฟิงคิด วินาทีต่อมาหลินโย่วก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา: “ได้ยินว่างานก่อนหน้านี้ของพี่เขยคือ…ส่งของเดลิเวอร์รี่?”
“ใช่ เมื่อก่อนผมทำงานส่งของเดลิเวอร์รี่จริงๆ” เฉินเฟิงยิ้มบางพลางพยักหน้ารับ
เห็นเฉินเฟิงพยักหน้ารับ หลินโย่วยิ้มมุมปากอย่างเยาะหยัน ดูท่าข่าวลือไม่ผิด ตระกูลเสี้ยหาลูกเขยขยะมาเป็นสามีให้เสี้ยเมิ่งเหยาจริงๆ ได้ยินว่าตั้งแต่แต่งงานมา ก็ทำงานส่งเดลิเวอร์รี่มาโดยตลอด…
“พี่เขยตอนนี้ยังส่งเดลิเวอร์รี่อยู่หรอ? คิดจะเปลี่ยนอาชีพไหม?” หลินโย่วถามยิ้มๆ
“ตอนนี้ไม่ส่งเดลิเวอร์รี่แล้วล่ะ” เฉินเฟิงส่ายหัว
“ไม่ส่งเดลิเวอร์รี่แล้ว?” หลินโย่วอึ้งก่อน และถามออกมาโดยไม่คิดว่า: “งั้นตอนนี้พี่เขยทำงานที่ไหนล่ะ?”
“บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป”
“บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป?” หลินโย่วสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขาเคยได้ยินชื่อบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปมาบ้าง นั่นเป็นบริษัทผลิตยาระดับโลกที่มีไม่กี่บริษัทของหวาเซี่ย เข้าทำงานยากมาก พวกบริษัทห้าร้อยอันดับแรกของโลกยังไม่เข้าทำงานยากเท่าบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปเลย คนทำงานเดลิเวอร์รี่คนหนึ่งเข้าไปได้ยังไงกัน
“พี่เขยทำงานอะไรที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปหรอ?” หลินโย่วอดถามไม่ได้
“พนักงานฝ่ายขาย”
เหมือนเดาได้ว่าหลินโย่วจะถามแบบนี้ เฉินเฟิงตอบเสียงเรียบ
พนักงานฝ่ายขาย…
พอได้ยินว่าเฉินเฟิงเป็นแค่พนักงานฝ่ายขาย หลินโย่วถอนหายใจโล่งอก
พนักงานฝ่ายขายของบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ถึงจะรับคนยาก แต่ก็ไม่ได้ยากมาก เฉินเฟิงแค่ตั้งใจเตรียมตัวสักหน่อย บวกกับโชคอีกนิดหนึ่งก็สามารถเข้าไปได้แล้ว
“พี่เมิ่งเหยาล่ะ ตอนนี้ทำงานที่ไหน?” หลินโย่วเบนสายตาไปที่เสี้ยเมิ่งเหยาอีก
“บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป”
เสี้ยเมิ่งเหยาพูดออกมาเสียงเรียบ
“บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป?” หลินโย่วลากเสียง: “พนักงานฝ่ายขายเหมือนกัน?”
“เปล่า” เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัว
“งั้นอะไรล่ะ?” หลินโย่วถามต่อทันที
ตอนนี้เองหลินเย่นก้าวเข้ามาพูดยิ้มๆ: “หลินโย่ว นี่เรายังไม่รู้ล่ะสิ? พี่เมิ่งเหยาน่ะเขาเป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปสาขาจงไห่นะ…”
บู้ม!
คำพูดของหลินเย่นเหมือนโยนระเบิดลงบนผิวน้ำก็ไม่ปาน ทำให้เกิดระลอกคลื่นยกใหญ่
คนมากมายที่เงี่ยหูแอบฟังบทสนทนาทางนี้ พอได้ยินคำว่าบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ความคิดในหัวก็เริ่มทำปฏิกิริยา
นี่มันล้อเล่นระดับชาติเลยนะ!
เสี้ยเมิ่งเหยาได้เป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!