ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 486
บทที่ 486 อุ้มเหลน
หลังจากชูแก้วฉลอง และผลัดกันดื่มอย่างครื้นเครง จนกระทั่งงานฉลองเสร็จสิ้น
แขกเหรื่อของตระกูลหลินต่างทยอยกันกลับบ้าน หลินเสวียนกับหลินอู่เป็นคนไปส่งแขก แทนหลินเซียวเสียน
หลินเซียวเสียนเรียกเสี้ยเมิ่งเหยาและเฉินเฟิงมาอยู่ด้านหน้าของตนเอง
เขาชำเลืองมองเสี้ยเมิ่งเหยาก่อน จากนั้นค่อยมองมาทางเฉินเฟิง “แกชื่อเฉินเฟิงเหรอ?”
“ครับ คุณตา ผมชื่อเฉินเฟิง” เฉินเฟิงพยักหน้ารับ แถมพูดกับหลินเซียวเสียนด้วยความเคารพนบนอบ
“แกแต่งงานกับเหยาเหยา…มาสามปีแล้วนี่?” หลินเซียวเสียนประมาณการ แล้วถามกลับ
“สามปีสามเดือนครับ” เฉินเฟิงตอบ
“สามปีกับสามเดือนแล้วเหรอ? นานแล้ว” หลินเซียวเสียนถอนหายใจ
“แต่งงานกันมานาน พวกแก…ทำไมยังไม่มีลูกกันอีก?” หลินเซียวเสียนถามกลับอีกครั้ง
เฉินเฟิงค้างเติ่ง คำถามของหลินเซียวเสียนที่ถามออกมา มันเป็นคำถามที่เขายังไม่ทันตั้งตัวเลย
“ได้ข่าวว่า พวกแกแต่งงานกันมาสามปี ยังไม่เคยนอนห้องเดียวกันเลย?” หลินเซียวเสียนหรี่ตาพร่ามัว และถามคำถาม
แต่งงานกันมาสามปี ยังไม่เคยนอนห้องเดียวกันเลย?
คำถามนี้ของหลินเซียวเสียน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานในเวลานั้นเหมือนระเบิดลง
หรือว่าข่าวความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาของเสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิงนั้นจะเป็นเรื่องจริง?
“แล้วทำไมไม่อยู่ห้องเดียวกัน” หลินเซียวเสียนมองมาทางเสี้ยเมิ่งเหยา ถึงแม้ว่าสามปีก่อน เขาจะออกคำสั่งให้เสี้ยเมิ่งเหยา ไม่อนุญาตให้ตระกูลเสี้ยเข้ามาเหยียบในตระกูลหลิน แต่สามปีที่ผ่านมานี้ ข่าวคราวของตระกูลเสี้ยเขาก็สนใจมาโดยตลอด
ตอนที่เขาได้รับข่าวมานั้น เฉินเฟิงเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์จริงๆ ราวกับว่าไม่มีที่มาที่ไป
ทว่าเมื่อวันนี้เขาได้เห็นเฉินเฟิงแล้ว มันกลับนอกเหนือจินตนาการที่เขาคิดเอาไว้
เรื่องร่างกายไม่ต้องไปพูดถึง อีกอย่างภูมิหลังก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก
เขาไม่รู้ว่า ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ แล้วทำไมเสี้ยเมิ่งเหยายังไม่พอใจอีก
“คุณตา ฉัน…”
เสี้ยเมิ่งเหยาหน้าแดง เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้หลินเซียวเสียนฟังอย่างไรดี
การที่เธอแต่งงานกับเฉินเฟิงมาสามปีนั้น เธอคอยรักษาระยะห่างมาโดยตลอด การสัมผัสที่แนบชิดแค่การจูบเท่านั้น และยังไม่เคยรุกล้ำมากไปกว่านั้น
หลินเซียวเสียนถอนหายใจ “เหยาเหยา ตามีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่ปี ถ้าแกไม่ยอมอยู่ห้องเดียวกับเฉินเฟิง งั้นตาก็คงหมดหวังที่จะอุ้มเหลนแล้ว”
หลินเซียวเสียนเบนสายตามาทางเฉินเฟิง
“แกอีกคน เฉินเฟิง การเป็นผู้ชาย บางครั้งก็ต้องเป็นฝ่ายรุก เหยาเหยาเขาอาย เธอไม่เข้าใจเรื่องนี้ หรือว่าแกก็อายด้วย แกไม่เข้าใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”
เฉินเฟิงได้แต่ยิ้มให้อย่างขมขื่น เขาไม่คิดเลยว่า หลินเซียวเสียนจะพูดเรื่องนี้ต่อหน้า แต่ว่าเป็นไปตามที่หลินเซียวเสียนพูด ระหว่างการคบกันของเสี้ยเมิ่งเหยานั้น ปัญหาของเขานั้นมีมากมาย การเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขายังไม่เคยริเริ่มรุกก่อนเลย
“คราวหน้าเจอกัน ตาหวังว่าจะเห็นพวกแกพาลูกมาด้วย” น้ำเสียงหลินเซียวเสียนพูดอย่างให้ความหวัง
“อื้อ” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าให้อย่างเชื่อฟัง ในใจเกิดความสับสนมากมาย ครั้งหน้า? ยังมีครั้งหน้าอีกเหรอ? ตาคงไม่รู้ว่า เธอกับเฉินเฟิงนั้นหย่าขาดจากกันแล้ว
หลินหลันที่อยู่ด้านข้างไม่ได้คิดมากมายอะไร สิ่งที่เธอสนใจในวันนี้คืออารมณ์ของหลินเซียวเสียนหลินเซียวเสียนพูดคุยกับเฉินเฟิงในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ายอมรับเฉินเฟิงในฐานะหลานเขยแล้ว การทดสอบเฉินเฟิงในวันนี้ เฉินเฟิงผ่านฉลุย
ปัญหาใหญ่หลวงในเวลานี้ คือจะทำยังไงให้เฉินเฟิงกลับมาคืนดีกับเสี้ยเมิ่งเหยา…
หรือว่า ให้เขาสองคนนอนห้องเดียวกันไปเลย…
หลังจากส่งบรรดาแขกเหรื่อกลับไปแล้ว หลินเซียวเสียนก็นั่งรถของหลินเสวียนออกไปจากโรงแรมจินหม่า
เฉินเฟิงรวมทั้งหมดสามคนเดินออกมาจากโรงแรมจินหม่า
“แม่ พ่อฉันล่ะ? ทำไมเขาไม่ยอมมา?” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยปากถามหลินหลัน เมื่อวานเสี้ยเว่ยกั๋วเดินทางออกจากเมืองชางโจวมาแล้ว ตามหลักแล้ว วันนี้เขาน่าจะมางานฉลองวันเกิดทัน แต่ตอนนี้ งานฉลองวันเกิดของหลินเซียวเสียนก็เลิกแล้ว แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี้ยเว่ยกั๋ว
“ใช่สิ พ่อแกล่ะ?” หลินหลันเอามือทาบที่หน้าอก เพราะว่าเพิ่งคิดได้ว่าเสี้ยเว่ยกั๋วยังไม่มา
“งั้นเดี๋ยวฉันโทรศัพท์หาเขาดีกว่า” เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วโก่ง พลันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
แต่ว่าก็โทรไม่ติด แต่โทรศัพท์ของหลินหลันก็ดังขึ้นมาแทน
“เบอร์โทรศัพท์ของพ่อแก” หลินหลันมองหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นก็กดรับสาย
“เว่ยกั๋ว…”
หลินหลันเตรียมพูด แต่ปลายสายมีเรียกแสบแก้วหูดังขึ้นมาแทน “คุณคือหลินหลันใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเจ้าของเสียงว่าเป็นผู้หญิง หลินหลันตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นน้ำเสียงก็เปลี่ยนไปในทางไม่ดี “ฉันคือหลินหลัน แล้วแกเป็นใคร? ทำไมเอาโทรศัพท์ของสามีฉันมาใช้?”
“สามี? ที่แท้ไอ้บ้านนอกนี่คือสามีของแก” เสียงหญิงสาวปลายสายหัวเราะอย่างเย็นชา
“ไอ้บ้านนอกเป็นสามีของแก งั้นเรื่องก็ถือว่าไปได้ดี สามีของแกมาทำร้ายลูกชายของฉัน แกรีบเอาเงินมาที่จิ่งซวี่โก๋จี้”
“อะไรนะ? เขาทำร้ายลูกชายของแก?” หลินหลันตะลึง เสี้ยเว่ยกั๋วเนี่ยนะอยู่ดีๆ จะไปทำร้ายลูกชายคนอื่นทำไมกัน?
“ตี๊ดๆ”
หลินหลันยังอยากถามรายละเอียดต่อ แต่ว่าทางนั้นดันตัดสายทิ้ง
“แม่ เป็นอะไรไป?” เสี้ยเมิ่งเหยาสีหน้าเป็นห่วงจนต้องถามกลับอย่างอดไม่ได้
“มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาบอกว่าพ่อแกไปทำร้ายลูกชายของเขา ให้พวกเราเอาเงินไปด้วย” หลินหลันพูดอย่างกังวง
“พ่อฉันเนี่ยนะไปทำร้ายลูกชายของเขา” เสี้ยเมิ่งเหยาเลิกคิ้วโก่ง เสี้ยเว่ยกั๋ว ไม่ใช่คนที่หาเรื่องใส่ตัวไปทั่ว
“ที่ไหนเหรอ? เรารีบไปกันเถอะ” เฉินเฟิงพูด โทรศัพท์ของเสี้ยเว่ยกั๋วก็ถูกยึดเอาไว้แล้ว คนก็น่าจะถูกคุมตัวไว้แล้ว งั้นเรื่องมันรีบร้อนขนาดนี้ต้องรีบไป
“จิ่งซวี่โก๋จี้”
สิบห้านาทีหลังจากนั้น เฉินเฟิงขับรถมาที่จิ่งซวี่โก๋จี้ตามที่หลินหลันพูด
เมื่อมาถึงตรงประตูจิ่งซวี่โก๋จี้ เฉินเฟิงก็เห็นคนกำลังยืนล้อมอยู่ พร้อมทั้งชี้ไปทางไกล
เฉินเฟิงมองไปตามมือที่ชี้ไป เมื่อเห็นภาพสีหน้าก็ขรึมลงทันที
“เว่ยกั๋ว!”
“พ่อ!”
หลินหลันกับเสี้ยเมิ่งเหยาส่งเสียงตะโกนอย่างตกใจ พร้อมทั้งรีบเปิดประตูรถ แล้ววิ่งลงไปหาทันที
ไม่ไกลนัก มือทั้งสองข้างของเสี้ยเว่ยกั๋วกอดเข่าแน่น ท่าทางเจ็บปวดจนอาศัยต้นไม้ใหญ่พิงหลัง ใบหน้าของเขามีแต่เลือดไหลนอง มือทั้งสองข้างที่กอดเข่ามีแต่เลือดไหลไม่หยุด จนสามารถเห็นกระดูกขาวโผล่ออกมา
“พ่อ พ่อเป็นไงบ้าง?”
เสี้ยเมิ่งเหยาและหลินหลันเดินมาตรงหน้าเสี้ยเว่ยกั๋ว ตอนเมื่อเห็นขาเล็กมีกระดูกโผล่ออกมา หัวใจของเสี้ยเมิ่งเหยาเจ็บปวดทรมาน ดวงตางดงามตาแดงแจ๋
“เมิ่งเหยา หลันหลัน พวกเธอมาได้ยังไง?” น้ำเสียงของเสี้ยเว่ยกั๋วมองสองคนอย่างอ่อนล้า
“เว่ยกั๋ว ใครเป็นคนทำ?!” ดวงตาหลินหลันลุกโพลน พร้อมทั้งน้ำเสียงความโกรธเคือง ขาของเสี้ยเว่ยกั๋วก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เมื่อก่อนเคยมีแผลเก่าอยู่ ครั้งนี้ถูกคนทำร้ายถึงขั้นนี้ ต่อไปจะให้เขาเดินได้ยังไง?
“แกก็คือเมียของไอ้บ้านนอกนี่ใช่ไหม?”
เสี้ยเว่ยกั๋วยังไม่ทันพูด ด้านหลังของหลินหลันก็มีเสียงแสบแก้วหูดังขึ้น
ทันใดนั้น ก็มีหญิงสาววัยกลางคนที่ผมหยิกสีแดงสด ใส่กระโปรงตัวโคร่ง รูปร่างเจ้าเนื้อเดินเข้ามาหา