ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 496
บทที่ 496 คนไม่ถูกกันมาเจอกัน
“คุณทำอะไรน่ะ?” เฉินเฟิงมองผู้จัดการวัยกลางคนยิ้มๆ
ผู้จัดการปาดเหงื่อที่หน้าผากพลางว่า:
“คุณเฉินครับ เมื่อกี้มีพวกตาไม่มีแววมารบกวนการทานอาหารของคุณ นี่ถือเป็นการชดเชยนะครับ”
พวกตาไม่มีแวว?
เฉินเฟิงยิ้มบางๆ นี่หมายถึงพนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนเมื่อกี้สินะ
“อืม วางไว้นี่ละกันครับ”
เฉินเฟิงผงกหัวเล็กน้อย ของส่งมาแล้วจะไม่รับก็ใช่ที่
“ขอบคุณคุณเฉินมากครับ ขอบคุณคุณเฉินมากครับ” ผู้จัดการวัยกลางคนรีบโค้งขอบคุณ เฉินเฟิงยอมรับไวน์แดงสองขวดนี้ไว้ แปลว่าเขาไม่ถือสาร้านอาหาร ถ้าเฉินเฟิงถือสาล่ะก็ ผู้จัดการอย่างเขาคงโดนเด้งแน่
“คุณเฉิน งั้นผมขอตัวก่อน ไม่รบกวนการทานอาหารของคุณกับคุณผู้หญิงแล้วนะครับ ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้เลยนะครับ”
“อืม เชิญครับ” เฉินเฟิงโบกมือไล่ผู้จัดการวัยกลางคน
จากนั้นเขาหยิบส้อมขึ้นมาตักของหวานชิ้นหนึ่งลงในจานแบ่งของเสี้ยเมิ่งเหยา
“รับทานเถอะ” เฉินฟิงยิ้มบางพลางว่า
“อื้อ”
เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆ ปัดปอยผมข้างขมับ ใช้ส้อมตักของหวานเข้าปากพลางค่อยๆลิ้มรส
“รสชาติเป็นไง?” เฉินเฟิงถามยิ้มๆ เมื่อก่อนตอนอยู่ตระกูลเสี้ย เสี้ยเมิ่งเหยาชอบทานของหวานฝีมือเขาที่สุด แต่เพราะกินของหวานบ่อยแล้วจะอ้วน เสี้ยเมิ่งเหยาพยายามควบคุมตัวเอง เลยตั้งกฎว่าเดือนหนึ่งจะกินของหวานครั้งหนึ่งเท่านั้น
“ไม่อร่อยเท่าที่คุณทำ” หลังจากละเลียดลิ้มรสแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างจริงจังออกมา
เฉินเฟิงหน่ายใจ เชฟของหวานของร้านอาหารนี้ อย่างน้อยก็เป็นระดับโรงแรมห้าดาวเลยนะ มีหรือที่ของหวานของพวกเขาจะอร่อยสู้ของตนไม่ได้?
“จริงสิ ยาที่คุณให้ฉันกินคราวที่แล้วคือยาอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหยาจู่ๆก็ถามขึ้นเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“เม็ดยาบัวหิมะซินเจียง” เฉินเฟิงบอกตามจริง เขาฝึกฝนจนทำเม็ดยาบัวหิมะซินเจียงออกมาได้สามเม็ด ขายให้โห้หงเย้นไปหนึ่งเม็ด ให้เจ้าสามหวงเพื่อรักษาตัวไปหนึ่งเม็ด เม็ดที่เหลือก็ลงท้องเสี้ยเมิ่งเหยาไปเรียบร้อย
“เม็ดยาบัวหิมะซินเจียงนั่นยังมีอีกไหม?” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างเขินๆ หลังจากกินยาเม็ดยาบัวหิมะซินเจียงไป เธอรู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด ไม่เพียงอ่อนวัยขึ้น แถมยังมีพลังมากขึ้นอีกด้วย
“ไม่มีแล้วล่ะ” เฉินเฟิงบอกพลางยิ้มเศร้า เม็ดยาบัวหิมะซินเจียงเป็นยาล้ำค่าที่แท้จริง เม็ดที่ขายให้โห้หงเย้นไปได้ถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้าน ถึงอย่างนั้นโห้หงเย้นยังคิดว่าเธอได้กำไรด้วยซ้ำ
“แต่ถ้าคุณอยากได้ ผมจะทำยาอย่างอื่นให้แทน” เฉินเฟิงบอกอีก
ยาที่มีสรรพคุณใกล้เคียงเม็ดยาบัวหิมะซินเจียงมีเยอะมาก เพียงแต่วัตถุดิบของยาพวกนั้นไม่ได้หายากเท่าวัตถุดิบของเม็ดยาบัวหิมะซินเจียงเท่านั้นเอง
เสี้ยเมิ่งเหยาส่ายหัว กำลังจะบอกว่าไม่ต้องหรอก ตอนนี้เองมือถือเธอดังขึ้น
“เมิ่งเหยา ตอนนี้อยู่ที่ไหนน่ะ?” พอกดรับ เสียงหลินหลันก็ดังขึ้นอย่างร้อนรน
“อยู่ร้านอาหารข้างนอก มีอะไรคะ?”
“แม่เห็นยัยบ้านั่นที่โรงพยาบาลเมื่อกี้ พี่ชายยัยบ้านั่นเหมือนกำลังตามหาพวกเรา” หลินหลันพูดอย่างลนลาน
ยัยบ้านั่น?
เสี้ยเมิ่งเหยาขมวดคิ้วถาม: “แม่คะ ยัยบ้าที่แม่ว่า…”
“ก็ยัยบ้าที่ปล่อยหมากัดพ่อเราเมื่อกี้ไง พี่ชายมันพามันมาโรงพยาบาล มันเหมือนจะเห็นแม่แล้ว ตอนนี้ให้คนตามหาแม่ทั่วโรงพยาบาลเลย” หลินหลันพูดอย่างร้อนรน เธอเห็นหลี่หงที่ทางเดิน ตอนนี้หลี่หงกำลังถูกคนหามขึ้นบนเตียงเข็น เธอถึงไม่โดนจับได้
“แม่ อย่าใจร้อนไป หนูกับเฉินเฟิงจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เสี้ยเมิ่งเหยารู้สึกได้ว่าเรื่องมันซีเรียสมาก ถ้าหลี่หงพาคนมาล้างแค้นจริงๆ งั้นหลินหลันกับเสี้ยเว่ยกั๋วซวยแน่งานนี้
ตอนนี้ที่โรงพยาบาลมีการ์ดสูทชุดดำใส่หูฟังจำนวนไม่น้อยกำลังตามหาคนจริงๆ
“เธอแน่ใจว่าพึ่งเห็นพวกบ้านนั้น?”
หลี่อี้มองดูหลี่หงที่นอนแบบบนเตียงเข็นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฉันแน่ใจ!” หลี่หงพูดพลางกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พี่คะ ฉันแน่ใจว่าฉันเห็นยัยป้านั่น หล่อนเป็นพวกเดียวกับไอ้ขยะที่ทำขาฉันหัก!”
“อืม เธออย่าพึ่งร้อนใจไป พี่ต้องช่วยเธอหาคนให้เจอแน่” หลี่อี้ปลอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลี่หงเป็นญาติเพียงคนเดียวของเขา แต่ตอนนี้เธอกลับโดนคนทำร้ายจนพิการ จะไม่ให้เขาโกรธได้ยังไง
“พี่คะ ไอ้ขยะนั่นมันร้ายกาจมาก พี่ให้คนของพี่ระวังหน่อยนะ” หลี่หงพูดอย่างหวั่นๆ ถึงจะเกลียดเฉินเฟิงเข้ากระดูกดำ แต่เธอจำเป็นต้องยอมรับในฝีมือของเฉินเฟิง ลูกน้องที่สามีเธอพามายี่สิบกว่าคน ในเวลาไม่ถึงสิบวินาทีก็โดนเฉินเฟิงจัดการซะหมอบ นี่มันเรื่องเหลือเชื่อชัดๆ
“วางใจเถอะ คนของพี่นะไม่เหมือนคนของสามีเธอ ที่พี่มีน่ะยอดฝีมือทั้งนั้น!” สายตาหลี่อี้ฉายแววมั่นใจ เพื่อแก้แค้นให้หลี่หง เขาขอยืมตัวจอมยุทธ์คนหนึ่งมาจากซงเต่าเฟิง
เขาไม่เชื่อหรอกว่า จะมีใครที่จอมยุทธ์รับมือไม่ได้
ในตอนนี้เอง การ์ดชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักคนไข้
“พี่อี้ เจอตัวแล้วครับ!”
“หาเจอแล้ว?” หลี่อี้สีหน้าเย็นชา: “พาฉันไปดู!”
“ครับ พี่อี้”
การ์ดชุดดำพยักหน้า เตรียมจะลุกขึ้น ตอนนี้เองหลี่หงที่อยู่ด้านหลังปรี๊ดร้องแทรกขึ้น
“พี่ ฉันจะไปด้วย!”
หลี่อี้ขมวดคิ้วมองหลี่หง: “บาดแผลของเธอ…”
“บาดแผลฉันไม่เป็นไรหรอก! ฉันไม่เห็นพี่ถลกหนังไอ้ขยะนั่นกับตา ฉันนอนไม่หลับแน่!”
หลี่อี้ถอนหายใจยาว: “งั้นดี ไปด้วยกัน”
หลายนาทีผ่านไป การ์ดชุดดำสองคนช่วยกันหามหลี่หงเดินเข้าห้องพักคนป่วยของเสี้ยเว่ยกั๋ว
ตอนนี้เสี้ยเว่ยกั๋วโดนคนฉุดกระชากลงจากเตียงคนป่วย และบังคับให้เขาคุกเข่าอยู่กับพื้น
หลินหลันโหวกเหวกโวยวายอยู่ข้างๆ: “ปล่อยฉันนะ! พวกแกรู้ไหมว่าลูกเขยฉันเป็นใคร?! ถ้าพวกแกกล้าทำฉัน ลูกเขยฉันฆ่าพวกแกแน่!”
เห็นหลินหลันโดนมัดอยู่แล้วยังกร่างขนาดนี้ หลี่อี้เดือดขึ้นมาทันที: “ตบปาก!”
“ครับ พี่อี้”
การ์ดชุดดำเดินไปที่หน้าหลินหลัน และตวัดมือตบเข้าให้โดยไม่ให้โอกาสหลินหลันได้อ้าปากเลย
“เพี๊ยะ”
“เพี๊ยะ”
“เพี๊ยะ”
ตบไปหลายฉาดจนหลินหลันมีเลือดออกที่มุมปาก
“อย่าตีเมียฉันนะ!” เสี้ยเว่ยกั๋วที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นร้องตะคอกเสียงดังขึ้น
“ไอ้ขยะนั่นล่ะ? มันอยู่ไหน?!” หลี่หงถามเสียงแหลมขึ้น พอเธอเข้าห้องพักมา ก็มองหาร่างเฉินเฟิงก่อนเลย แต่มองไปรอบๆก็ไม่เห็นเฉินเฟิง
“เขาไปกินข้าวข้างนอก กำลังจะรีบกลับมา” หลินหลันรีบบอก เธอสงบเสงี่ยมลงไม่น้อยหลังจากโดนตบไปหลายฉาด
“จะรีบกลับมา?” หลี่อี้แค่นเสียงหึ “รีบเนี่ยเมื่อไหร่?”
“สิบนาที อย่างมากสุดสิบนาที!” หลินหลันรีบบอก
“พี่ หักขายัยป้ากับตาแก่นี่ล้างแค้นให้ฉันก่อนเลย!” หลี่หงมองมาทางหลินหลันกับเสี้ยเว่ยกั๋วอย่างมาดร้าย เฉินเฟิงยังไม่กลับมา ล้างแค้นกับหลินหลันและเสี้ยเว่ยกั๋วก่อนก็ได้นี่