ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 537
บทที่ 537 สรรพคุณของยาอินหยาง
เห็นท่าทีกระตือรือร้นและสายตานักสู้ของหวู่เหวินเชี่ยน เฉินเฟิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ความสามารถของหวู่เหวินเชี่ยนไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น วันนี้เธอขึ้นเวทีเป็นคนแรกอีก หากฝืนสู้กับอีกฝ่ายยากที่จะรับประกันว่าอีกฝ่ายจะไม่เล่นถึงชีวิต
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เฉินเฟิงก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “เดี๋ยวหลังจากขึ้นเวทีแล้ว หากไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายก็รีบยอมแพ้……”
“คุณหมายความว่ายังไง?! คุณดูถูกฉันหรือ?” เฉินเฟิงเอ่ยยังไม่ทันจบก็ถูกหวู่เหวินเชี่ยนเอ่ยตัดบท
เมื่อเห็นท่าทีโมโหของหวู่เหวินเชี่ยน เฉินเฟิงก็ส่ายหน้าพลางยิ้มแห้ง “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น คุณคิดมากไปแล้ว ผมแค่กลัวว่าคุณจะบาดเจ็บ……”
กลัวเธอบาดเจ็บงั้นหรือ?
ฉับพลันหวู่เหวินเชี่ยนก็หน้าแดง ที่เขาพูดหมายความว่ายังไง หรือว่าเขาจะชอบตน?
เมื่อเห็นหวู่เหวินเชี่ยนหน้าแดง เฉินเฟิงก็พูดไม่ออกหนักกว่าเดิม ครั้งนี้หวู่เหวินเชี่ยนคิดมากไปเองอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูแลตัวเองเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”
บ่นเสร็จ หวู่เหวินเชี่ยนก็เชิดหน้าเดินขึ้นเวทีไป
ผู้เข้าแข่งขันเบอร์เจ็ดของทางสมาคมการค้าเชียนสุ่ยเป็นเยาวชนตัวเตี้ยคนหนึ่ง
เมื่อเห็นหวู่เหวินเชี่ยนเยาวชนตัวเตี้ยก็เลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว แววตาแสดงออกถึงความหื่น
“มองอะไร?!”
“เชื่อมั้ยว่าฉันควักลูกตาแกออกมาได้!”
เมื่อเห็นสายตาบ้ากามของเยาวชนตัวเตี้ยที่มองตนอย่างประเมิน ฉับพลันหวู่เหวินเชี่ยนก็มีน้ำโห
เมื่อเอ่ยจบหวู่เหวินเชี่ยนก็ลงมือทันที
กระโปรงยาวของเธอเต้นระบำพลางดาบยาวในมือก็วาดลวดลายสวยงามแล้วพุ่งตัวไปทางเยาวชนตัวเตี้ย
เยาวชนตัวเตี้ยมีสีหน้าเย็นชาก่อนจะแสยะยิ้มครั้งหนึ่ง สองเท้าก็กระทืบพื้นอย่างบ้าคลั่ง ทั้งร่างราวกับเป็นลูกธนูที่ถูกยิงออกจากคันธนูพุ่งไปทางหวู่เหวินเชี่ยนอย่างรวดเร็ว
ไม่ถึงหนึ่งวินาทีเยาวชนตัวเตี้ยก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของหวู่เหวินเชี่ยน
หลังจากปรากฏตัวตรงหน้าหวู่เหวินเชี่ยนแล้ว เยาวชนตัวเตี้ยก็ปล่อยหมัดไปยังช่วงทรวงอกของหวู่เหวินเชี่ยน
สีหน้าของหวู่เหวินเชี่ยนเปลี่ยนทันที ราวกับรับรู้ได้ถึงหมัดของเยาวชนตัวเตี้ย เธอจึงรีบขยับถอยหลัง ถอยหลังไปด้วยพลางกัดฟันด่าอีกฝ่าย “หน้าไม่อาย!”
หน้าไม่อายอย่างนั้นหรือ?
เยาวชนตัวเตี้ยแสยะยิ้ม ไม่ได้ดิ้นตามแต่จู่โจมต่อ
พลังลมเย็นเฉียบเคลื่อนไหวอยู่บนเวที กำปั้นเหล็กของเยาวชนตัวเตี้ยรัวราวกับสายฝน ต้อนหวู่เหวินเชี่ยนจนต้องถอยหลังเรื่อยๆ
ไม่ถึงหนึ่งนาที บนหน้าผากของหวู่เหวินเชี่ยนก็มีเหงื่อซึมออกมา
“ไร้ประโยชน์ มีความสามารถแค่นี้เองหรือ?”
ขณะนั้นเองเยาวชนตัวเตี้ยก็เอ่ยท้าทาย
ฉับพลันคำพูดนั้นก็ทำให้ไฟที่สุมอยู่ในอกของหวู่เหวินเชี่ยนปะทุออกมา
“ฉันจะฆ่าแก!”
หวู่เหวินเชี่ยนกัดฟันแน่น ก่อนจะกรีดร้องแล้วขยับดาบพุ่งไปทางเยาวชนตัวเตี้ย
ฉับพลันการเคลื่อนไหวนี้ของเธอก็เปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา
เยาวชนตัวเตี้ยแสยะยิ้ม ช่างเป็นคนที่อกโตแต่ไร้สมอง โดนเขายั่วโมโหได้อย่างง่ายดาย
ฉวยโอกาสตอนที่หวู่เหวินเชี่ยนเผยจุดอ่อนของตัวเอง เยาวชนตัวเตี้ยก็ปล่อยมัดไฟออกไป
“ผลั่ก”
หวู่เหวินเชี่ยนลอยกระเด็นตกเวทีก่อนจะกระแทกพื้นอย่างแรง
“ศิษย์น้องหวู่เหวิน”
จอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยหลายคนรีบวิ่งเข้าไปดูอาการ
หวังเฉียนที่นั่งเงียบๆอยู่บนเก้าอี้พลางขมวดคิ้วมุ่น ความพ่ายแพ้ของหวู่เหวินเชี่ยนไม่ได้เหนือความคาดหมายของเขา
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเฉินเฟิงแล้วสินะ
หากเฉินเฟิงก็แพ้ เช่นนั้นล่ะก็การต่อสู้ของสมาคมการค้าจงไห่ในครั้งนี้ก็ประกาศจบได้เลย
เพราะว่าความสามารถของเบอร์เก้าและเบอร์สิบที่เหลือเทียบไม่ได้กับหวู่เหวินเชี่ยนด้วยซ้ำ
ไม่นานผู้ตัดสินวัยกลางคนบนเวทีก็ประกาศผล
หวู่เหวินเชี่ยนแพ้ เยาวชนตัวเตี้ยชนะ
ดังนั้นเยาวชนตัวเตี้ยจึงอยู่บนเวทีต่อเพื่อเผชิญหน้ากับผู้เข้าแข่งขันเบอร์แปดของสมาคมการค้าจงไห่หรือก็คือเฉินเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย
จอมยุทธ์หลายคนของทางสมาคมการค้าจงไห่เกิดความท้อแท้ เมื่อหวู่เหวินเชี่ยนแพ้นั่นหมายถึงการต่อสู้ในครั้งนี้ของสมาคมการค้าจงไห่ไร้ซึ่งความหวังแล้ว
ในสามคนที่เหลือ ความสามารถด้อยแล้วด้อยอีก หนึ่งในนั้นยังมีเฉินเฟิงที่เป็นจอมยุทธ์ฝึกเอง
ความสามารถแบบนี้จะเอาอะไรไปสู้กับสมาคมการค้าเชียสุ่ย?
“ศิษย์น้องเฉิน หากเกินความสามารถของมนุษย์แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาเถอะ” จางเทียนเซอถอนหายใจครั้งหนึ่ง เขาก็ไม่ได้คาดหวังในตัวเฉินเฟิง ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาและหูฉี่ซิงจะเดาว่าเฉินเฟิงคงไม่ธรรมดา ทว่าเมื่อคืนเฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บจะไม่ธรรมดายังไงก็ไม่น่ารอด
ตอนนี้สิ่งที่เขาคาดหวังก็คือหลังจากเฉินเฟิงขึ้นเวทีไปแล้วอย่าแพ้ในสภาพอเนจอนาถเกินไปก็พอ อย่างน้อยก็ไว้หน้าสมาคมการค้าจงไห่บ้าง
“ศิษย์พี่จางพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก อะไรคือหากเกินความสามารถของมนุษย์แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา? ศิษย์น้องเฉินความสามารถเก่งกาจมาก ถ้าเกิดเขาขึ้นเวทีแล้วโลกเกิดระเบิดขึ้นมา ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพ่ายแพ้ไปล่ะจะทำยังไง?”
ขณะนั้นเองหูฉี่ซิงก็เอ่ยคำพูดแปลกประหลาด คนมีความรู้ใครก็ฟังออกว่าคำพูดนี้กำลังเยาะเย้ยเฉินเฟิงอยู่
เฉินเฟิงยกยิ้มจางๆไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหูฉี่ซิง
ขณะนั้นเองฉู่ยี่เฟยก็เดินเข้ามา
“เสี่ยวเฟิง เมื่อครู่ฉันส่งคนไปสืบมา เมื่อวานยาที่เยาวชนชุดดำคนนั้นกินตอนลงสนามมีชื่อว่ายาอินหยาง ยาอินหยางเป็นยาเฉพาะที่สำนักอินหยางของประเทศญี่ปุ่นทำขึ้นมาเพื่อปลุกพลังภายในของจอมยุทธ์ เมื่อจอมยุทธ์กินมันลงไปจะทำให้ความสามารถแข็งแกร่งขึ้นสองถึงสามเท่าในระยะเวลาอันสั้นซึ่งจะทำให้ความสามารถเกินมาตรฐานของลำดับขั้น” ฉู่ยี่เฟยมีสีหน้าดุดัน เขาก็เพิ่งได้ทราบถึงสรรพคุณของยาอินหยาง
หลังจากทราบถึงสรรพคุณของยาอินหยางเขาก็รีบมาที่นี่ทันทีเพื่อบอกข้อมูลนี้แก่เฉินเฟิง
“สองถึงสามเท่าหรือ?!”
จางเทียนเซออดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าประเทศญี่ปุ่นจะทำยาที่น่ากลัวขนาดนี้ขึ้นมา ยาที่ทำให้ความสามารถเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าได้ในระยะเวลาอันสั้น สรรพคุณของยานี้เรียกได้ว่าเป็นกบฏสววรคเลยล่ะ
หากจอมยุทธ์ขั้นอ้านจิ้งชั้นกลางกินยาอินหยางลงไป ภายในระยะเวลาอันสั้นจอมยุทธ์ขั้นอ้านจิ้งชั้นกลางก็จะข้ามขั้นไปเป็นอ้านจิ้งชั้นสุด!
ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อวานหวังเฉียนจะบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น แท้จริงแล้วความสามารถของจิ่วจิ่งถึงซิวก็ใกล้เคียงกับขั้นอ้านจิ้งชั้นสุดแล้ว หลังจากกินยาอินหยางความสามารถของเขาก็พุ่งสูงไปถึงจุดสูงสุดของขั้นอ้านจิ้ง
จอมยุทธ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นอ้านจิ้งก็ใกล้เคียงกับการไร้คู่ต่อสู้
หากไม่ได้ปะทะกับปีศาจอย่างหวังเฉียน จิ่วจิ่งถึงซิวก็คงไม่ตายอย่างอนาถขนาดนี้
“ใช่ สองถึงสามเท่า” ฉู่ยี่เฟยพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“แล้วยังต้องแข่งอะไรอีก หากจอมยุทธ์ของทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยล้วนกินยาอินหยาง การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เราก็ยอมแพ้ไปเถอะ” หลินเสวียนผู้เข้าแข่งขันเบอร์เก้าที่อยู่ด้านหลังของเฉินเฟิงเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำโห ขนาดอัจฉริยะอย่างหวังเฉียนปะทะกับจิ่วจิ่งถึงซิวที่กินยาอินหยางยังเกือบตาย คนธรรมดาอย่างพวกเขาที่อยู่ในขั้นอ้านจิ้งชั้นกลาง หากต้องปะทะกับจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยที่กินยาอินหยาง เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะยอมแพ้ยังไม่มีด้วยซ้ำ”
ฉู่ยี่เฟยขมวดคิ้วมองไปยังหลินเสวียนก่อนเอ่ย “อย่าเอ่ยคำพูดท้อแท้แบบนี้ จำนวนของยาอินหยางนั้นน้อยมาก จอมยุทธ์ของประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถกินได้ทุกคน”
“อีกอย่างยาอินหยางก็ไม่ใช่ไม่มีจุดอ่อน สรรพคุณของมันอยู่ได้แค่ห้านาทีเท่านั้น หลังจากห้านาทีแล้วหากจอมยุทธ์ที่กินยาอินหยางยังคงต่อสู้ต่อ สภาพก็จะเหมือนกับจิ่วจิ่งถึงซิว ระเบิดออกทันที”