ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 553
บทที่ 553 เฉินเฟิงคุ้มกันส่งไป
“ถ้าหากมหาปรมาจารย์หลินยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นสมาคมการค้าเชียสุ่ยจับตัวคุณหลินไป ก็เท่ากับรนหาที่ตาย”
“รอให้สักวันหนึ่งมหาปรมาจารย์หลินกลับมา จะต้องบุกฆ่าสมาคมการค้าเชียสุ่ย ทำลายล้างสมาคมการค้าเชียสุ่ย”
“มหาปรมาจารย์ไม่สามารถอับอายขายหน้าได้ กฎข้อนี้วงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลกต่างรู้ดี”
“โดยเฉพาะคนที่สมาคมการค้าเชียสุ่ยจับตัวไปยังเป็นถึงทายาทของมหาปรมาจารย์ ถึงเวลานั้น ต่อให้มหาปรมาจารย์หลินจะทำลายล้างสมาคมการค้าเชียสุ่ย มหาปรมาจารย์แห่งบูโดพวกนั้นของประเทศญี่ปุ่นก็ไม่กล้าพูดอะไร”
พูดถึงตรงนี้ สือโพ่จุนถอนหายใจ:“แต่ว่า สมาคมการค้าเชียสุ่ยทำเรื่องนี้ได้อย่างชาญฉลาดมาก พวกเขาไม่เหลือจุดอ่อนให้มหาปรมาจารย์หลินเลยสักนิด อีกทั้งยังให้ขวัญนินจาจับตัวคุณหลินไป”
“ถึงเวลานั้น ต่อให้มหาปรมาจารย์หลินกลับมา ก็ทำได้เพียงแค่ไปหาเรื่องขวัญนินจา ไม่สามารถไปเอาเรื่องกับสมาคมการค้าเชียสุ่ยได้”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว สือโพ่จุนพูดมีหลักการ ครั้งนี้สมาคมการค้าเชียสุ่ยเล่นอย่างเปิดเผย ต่อให้หลินชิงตี้กลับมาเอาเรื่อง ก็ทำได้แค่เอาเรื่องขวัญนินจา
“หมายความว่า ทำได้เพียงเอาจี้เต้าเจินเจี่ยไปแลกกับหลินหวั่นชีวแค่ทางเดียว?” เฉินเฟิงถอนหายใจแล้วเอ่ยถาม
“สำหรับตอนนี้ มีแค่ทางนี้ทางเดียวจริงๆ” สือโพ่จุนพยักหน้า
“แน่นอน บุกเข้าไปช่วยก็ได้ แต่ว่าตอนนี้คุณหลินอยู่ที่สำนักใหญ่ขวัญนินจา พวกเราไม่สามารถรับรองได้ว่า ระหว่างที่ไปช่วยจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น……”
“ผมเข้าใจ” เฉินเฟิงถอนหายใจยาว สำหรับเขา วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยไปแลกกับหลินหวั่นชีว
แต่การทำแบบนี้สิ่งที่ต้องแลกเท่ากับปล่อยให้ประเทศญี่ปุ่นได้จี๋เต้าเจินเจี่ยฉบับสมบูรณ์ อีกไม่กี่ปีให้หลัง พวกเขาก็จะมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
“ทุกคนมีความคิดยังไง?”
ฉู่ยี่เฟยมองดูผู้รับผิดชอบของสามตระกูลที่เหลือ เพราะถึงอย่างไรจี๋เต้าเจินเจี่ยก็เป็นสมบัติร่วมกันของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ เขาไม่สามารถตัดสินใจด้วยตนเอง
“ผมเห็นด้วยที่จะเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยแลกกับตัวคุณหลิน” เพิ่งสิ้นเสียงฉู่ยี่เฟย ตัวแทนของตระกูลวังก็พูดขึ้น
“ผมก็เห็นด้วย”
ตามด้วยผู้รับผิดชอบของตระกูลฉิน
“ผมเองก็เห็นด้วย” ส้งลี่เฉิงยกมือขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแห้งๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เห็นได้ เพราะคิดว่าหลินชิงตี้ต้องตายแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้ สือโพ่จุนกลับบอกว่า หลินชิงตี้ต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน
ถ้าหลินชิงตี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่เอาจี๋เต้าเจินเจี่ยแลกกับชีวิตของหลินหวั่นชีว วันข้างหน้าหลังจากหลินชิงตี้กลับมา พวกเขาคงซวยแน่
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วย ผมก็จะเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยไปแลกกับคุณหลิน” ฉู่ยี่เฟยพูด
“ไม่มีปัญหา”
“ขอบคุณทุกคน นี่คือบุญคุณที่ผมติดค้างทุกคน” เฉินเฟิงพูดเสียงเคร่งขรึม สาเหตุที่ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ตกลงเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยออกมา ไม่ได้เป็นเพราะเห็นแก่เขา แต่เป็นเพราะพวกเขาเห็นแก่หลินชิงตี้
หลินชิงตี้ที่หายตัวไปนานเกือบยี่สิบปี!
แทบจะเวลาเดียวกันกับที่ทุกคนตกลงว่าจะเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยไปแลกกับหลินหวั่นชีว เสียงโทรศัพท์ของฉู่ยี่เฟยดังขึ้นอีกครั้ง
“เป็นเบอร์โทรนิรนาม”
หลังจากมองดูเบอร์โทรที่โชว์บนหน้าจอ ม่านตาของฉู่ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะหดเล็กน้อย เบอร์โทรนิรนามที่สามารถโทรมาในเวลานี้ เกรงว่าจะมีแค่ขวัญนินจาเท่านั้น
“คุณฉู่คิดยังไงแล้วบ้าง?” หลังจากรับสาย เสียงแหบแห้งจากปลายสายก็ดังขึ้น
“แกเป็นใคร?” ฉู่ยี่เฟยไม่ได้ให้คำตอบไปตั้งแต่แรก ทว่ากลับย้อนถาม
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากปลายสาย:“คุณฉู่รู้แล้วไม่ใช่หรอครับ? รู้ทั้งรู้ทำไมต้องถามด้วย?”
“พวกแกคือขวัญนินจา?” สีหน้าของฉู่ยี่เฟยเคร่งขรึม เจ้าของเสียงกล้าพูดแบบนี้ เกรงว่าตำแหน่งที่ตั้งของขวัญนินจาเมื่อก่อนหน้านี้ พวกเขาจงใจปล่อยออกมา
“ขวัญนินจา? ขวัญนินจาอะไรกัน? คุณฉู่กำลังพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“ผมโทรมาหาคุณฉู่ในครั้งนี้ อยากถามคุณฉู่ว่า คิดเรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว? จะเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยมาแลกกับชีวิตของคุณหลินไหม?”
“ฉันต้องมั่นใจก่อนว่าคุณหลินไม่เป็นอะไร” ฉู่ยี่เฟยพูดเสียงเข้ม ถ้าหากหลินหวั่นชีวเป็นลูกสาวของหลินชิงตี้ เช่นนั้นชีวิตของเธอก็จะมีค่ากว่าชีวิตของทุกคนที่นี่รวมกัน เขาไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลินหวั่นชีวแม้แต่น้อย
“คุณฉู่วางใจเถอะ ขอบเขตที่ควรมีพวกเราก็มีอยู่ ถึงอย่างไรคุณหลินก็เป็นทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน พวกเราไม่ทำอะไรเธอหรอก”
“แต่ว่า ถ้าคุณฉู่ไม่รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ พวกผมก็ไม่ถือสา ที่จะเอาตัวคุณหลินโยนลงทะเลให้ปลากิน”
สีหน้าของฉู่ยี่เฟยเย็นยะเยือก:“แกกล้า!”
“หึๆ คุณฉู่สามารถลองดูได้ว่าผมกล้าหรือเปล่า”
“ฉันสามารถให้จี้เต้าเจินเจี่ยกับพวกแกได้ แต่พวกแกห้ามแตะต้องคุณหลินแม้แต่เส้นผม” ฉู่ยี่เฟยพยายามอดกลั้นความโมโหเอาไว้
“วางใจเถอะ พวกผมต้องการแค่จี๋เต้าเจินเจี่ย สำหรับคุณหลินแล้ว……หลังจากที่เธอช่วยพวกผมเปิดจี๋เต้าเจินเจี่ย พวกผมก็จะปล่อยตัวเธอ”
“จริง นอกเหนือจากนี้ พวกเรายังมีเงื่อนไขเล็กๆอีกข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอะไร?” ฉู่ยี่เฟยพูดเสียงเคร่งขรึม
“ให้เฉินเฟิงเป็นคนส่งจี๋เต้าเจินเจี่ยมายังประเทศญี่ปุ่นด้วยตนเอง”
“เป็นไปไม่ได้!” แทบจะไม่คิด ฉู่ยี่เฟยคัดค้านออกไป
ให้เฉินเฟิงไปประเทศญี่ปุ่นเวลานี้ เท่ากับเอาเฉินเฟิงไปตายไม่ใช่หรอ?
เมื่อวานก่อนเฉินเฟิงเพิ่งฆ่าอัจฉริยะของประเทศญี่ปุ่นไปสองคน เวลานี้ ครึ่งหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้ในประเทศญี่ปุ่นต่างพากันเกลียดเฉินเฟิงเข้าไส้
ถ้าเฉินเฟิงกล้าไป จุดจบคือการตายอย่างแน่นอน!
“เป็นไปไม่ได้?” จู่ๆ ปลายสายมีเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกของชายหนุ่มดังขึ้นมา:“คุณฉู่ ผมคิดว่าคุณคงไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ตอนนี้ระหว่างพวกเราไม่ใช่การต่อรอง แต่คือการที่ผมพูดอะไร คุณก็ต้องทำแบบนั้น!”
“ผมให้เวลาคุณแค่สามวัน หลังจากสามวัน ถ้าผมยังไม่เจอตัวเฉินเฟิงและจี๋เต้าเจินเจี่ย พวกคุณก็รอรับศพคุณหลินเถอะ”
“ตู๊ดๆ”
หลังจากพูดจบประโยคนี้ ปลายสายก็ตัดทันที
สีหน้าของทุกคนแตกต่างกันไป
ส้งลี่เฉิงแลดูดีใจในความโชคร้ายของคนอื่น เขาคิดไม่ถึงว่า สมาคมการค้าเชียสุ่ยจะกระเพาะใหญ่ขนาดนี้ ที่จะเอาทั้งจี๋เต้าเจินเจี่ยและจะเอาทั้งชีวิตของเฉินเฟิง
ตอนนี้ก็ดูแค่ว่าเฉินเฟิงจะเลือกยังไง
“เสี่ยวเฟิง นายไปไม่ได้ นี่เป็นหลุมพราง!”
สีหน้าของสือโพ่จุนดูแย่มาก อย่างไม่ต้องสงสัย การกระทำของสมาคมการค้าเชียสุ่ยในครั้งนี้ เพื่อแก้แค้นเฉินเฟิง
พวกเขาคงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเฟิงกับหลินหวั่นชีวมานานแล้ว ไม่แน่ จี๋เต้าเจินเจี่ยในครั้งนี้ก็แค่รวดเอาไปด้วยเท่านั้น เป้าหมายหลักของพวกเขา เกรงว่าจะเป็นการจัดการเฉินเฟิง!
เพราะถึงอย่างไรเฉินเฟิงก็อยู่ระดับหั้วจิ้งชั้นต้นตั้งแต่อายุยี่สิบห้า ในอนาคตถ้าไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เฉินเฟิงต้องบรรลุเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโดได้อย่างแน่นอน ส่วนจี๋เจ้าเจินเจี่ย ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่าสามารถช่วยให้จอมยุทธ์หั้วจิ้งขึ้นเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโด แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่โอกาสที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น ไม่ได้รับรองร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การกำจัดเฉินเฟิง คือเรื่องด่วน
“ผมรู้ว่านี่คือหลุมพราง” เฉินเฟิงยิ้มเศร้า “แต่ผมไม่มีทางเลือก”
“ไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะรายงานเรื่องนี้กับสำนักงานใหญ่ แล้วให้สำนักงานบอกให้วงการศิลปะการต่อสู้ที่ประเทศญี่ปุ่นกดดันพวกมัน ปล่อยให้พวกมันปล่อยตัวหวั่นชีวกลับมา”
เฉินเฟิงส่ายหน้า:“พี่สือ สำนักงานใหญ่ไม่มีวันกดดันวงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่นหรอก ถอยหลังหมื่นก้าวมาพูดนะครับ ต่อให้สำนักงานใหญ่บอกให้วงการศิลปะการต่อสู้ที่ประเทศญี่ปุ่นกดดัน วงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นก็ไม่มีวันยอมให้ขวัญนินจาปล่อยตัวหวั่นชีวกลับมา ไม่แน่น พวกเขาอาจจะลอบสนับสนุนขวัญนินจาก็ได้”