ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 560
บทที่ 560 ลักลอบเข้าไป
จายเถิงเหย่สุงเบะปาก ไม่ได้เก็บคำพูดของเชียนเย่จี๋เจิ้งมาใส่ใจ เขารู้สึกว่าเชียนเย่จี๋เจิ้งระมัดระวังจนเกินไป เฉินเฟิงจะเป็นอัจฉริยะแค่ไหน เขาก็เพิ่งบรรลุหั้วจิ้งชั้นต้น
ทว่าเขาและเชียนเย่จี๋เจิ้ง ล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่ในหั้วจิ้งชั้นต้นมานานกว่าสิบปีแล้ว
อีกทั้ง นอกจากพวกเขาสองคน ด้านล่างยังมีนินจายอดฝีมือของขวัญนินจานับร้อยคน พลังระดับนี้ เพียงพอที่จะไปทำสงครามแล้ว ไม่ต้องพูดถึงแค่การรับมือจอมยุทธ์คนหนึ่ง
เวลานี้ เชียนเย่จี๋เจิ้งหยิบวิทยุสื่อสารที่ทหารใช้การเฉพาะออกมา เขาพูดเสียงเคร่งขรึม:“บอกคนของพวกนาย ทำตัวตื่นเข้าไว้ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเจออะไร ให้รีบรายงานทันที!”
“ครับ มหาปรมาจารย์เชียนเย่!”
ปลายสายของวิทยุสื่อสาร มีเสียงขานรับด้วยความเคารพนับถือ
ในเวลาเดียวกัน บนภูเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสนุก เฉินเฟิงยืนอยู่บนต้นไม้ หยิบกล้องส่องทางไกลสำหรับกลางคืนออกมา มองดูสวนสนุกอย่างละเอียด
กล้องส่องทางไกลนี้เขาเอามาจากบอดี้การ์ดของซงเต่าโสงเหย่
นอกเหนือจากนั้น เขายังเอาปืนมาด้วยอีกสองกระบอก
เขารู้จากปากของซงเต่าโสงเหย่ แผนการฆ่าถูกจัดขึ้นที่นี่ แต่รายละเอียดของแผนการเป็นยังไง ซงเต่าโสงเหย่เองก็ไม่รู้——เขาไม่ใช่คนที่รับผิดชอบที่เกิดเหตุ
หื้ม?
อย่างรวดเร็ว เฉินเฟิงเห็นเงาของคนที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารของชิงช้าสวรรค์ ไม่ได้มีแค่คนเดียว
การสังเกตเห็นนี้ ทำให้เฉินเฟิงหวั่นใจ จากนั้นก็รีบกวาดมองดูรอบๆ อย่างละเอียด
วินาทีต่อมา
เขาเห็นเงาของคนหลายคนในชิงช้าสวรรค์ เห็นหลินหวั่นชีวถูกมัดตัวแล้วนั่งอยู่ในห้องโดยสารที่อยู่สูงสุดบนชิงช้าสวรรค์
“ฟู่~”
การสังเกตเห็นนี้ ทำให้เฉินเฟิงโล่งใจ——หลินหวั่นชีวไม่เป็นอะไร ดูท่าการที่เขาใช้ความคิดเห็นของผู้คนมากดดันวงการศิลปะการต่อสู้นั้นได้ผล!
ในเวลาเดียวกันที่เขาโล่งใจ เฉินเฟิงเองก็กระจ่างชัด ห้องโดยสารบนสุดของชิงช้าสวรรค์นอกจากหลินหวั่นชีวแล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นคนที่ สไนเปอร์——ที่นั่นคือที่ที่สูงที่สุดในสวนสนุก!
จากการมองดู สไนเปอร์ของฝ่ายตรงข้าม เฉินเฟิงรู้ว่าการฆ่ากันในครั้งนี้อันตรายมาก เขาไม่ได้เข้าไปช่วยทันที แต่ยังคงใช้กล้องส่องทางไกลมองดูสวนสนุกทั้งสวนสนุก
เขาสังเกตดูรอบๆชิงช้าสวรรค์ก่อน
จากที่เขาดูนั้น ในเมื่อหลินหวั่นชีวถูกจับมัดเอาไว้ในห้องโดยสารบนชิงช้าสวรรค์ เช่นนั้นชิงช้าสวรรค์ก็ต้องเป็นที่ที่ศัตรูนำคนเฝ้าเอาไว้มากที่สุด
เป็นจริงตามนั้น——
ขวัญนินจาทั้งสิบคนของสำนักนินจาที่อยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์ล้วนได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี พรางตัวเก่ง พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ใช้ไม้มาบังตนเอง บวกกับแสงอันน้อยนิดในกลางคืน ทำให้แทบจะรวมเป็นหนึ่งกับความมืด
เฉินเฟิงมองดูถึงสองนาที ไม่เห็นเงาคนแม้แต่คนเดียว แต่เขาเชื่อว่าที่นั่นมีศัตรู เพียงแต่ศัตรูซ่อนตัวเอาไว้เป็นอย่างดี
สำหรับสิ่งนี้ เฉินเฟิงไม่ได้สังเกตดูรอบๆชิงช้าสวรรค์ต่อ แต่เขาเปลี่ยนไปมองอีกด้านหนึ่ง สังเกตดูเป้าหมายที่สอง——อาคารสามชั้น
อาคารสามชั้นเป็นอาคารเดียวในสวนสนุก อีกทั้งยังมีไฟสว่าง ที่นั่นต้องมีคนแน่ๆ
“คนบัญชาการในภารกิจครั้งนี้น่าจะอยู่ในอาคารสามชั้น แต่ที่ประตูไม่มีคนเฝ้า แสดงว่าด้านในมียอดฝีมือ ถึงขั้นที่ว่าคนบัญชาการคือยอดฝีมือเสียเอง”
หลังจากสังเกตการณ์แล้ว เฉินเฟิงทำการตัดสินใจ จากนั้นหมุนปรับกล้องส่องทางไกล เริ่มสังเกตดูจุดอื่นๆของสวนสนุก
อย่างรวดเร็ว เฉินเฟิงพบว่าทั้งสวนสนุกมีคนเต็มไปหมด คนพวกนั้นสวมชุดสูทสีดำ ใส่หูฟัง พกปืนเอาไว้ พวกเขาแบ่งเป็นห้าคนหนึ่งกลุ่มเพื่อทำการสำรวจรอบๆสวนสนุก แทบจะทั่วทั้งสวนสนุก ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีคน
“จากแผนการของศัตรู ที่อันตรายที่สุดคือยอดฝีมือที่อยู่บนอาคารสามชั้น รองจากนั้นก็คือสไนเปอร์ที่อยู่บนชิงช้าสวรรค์ สุดท้ายคือศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆชิงช้าสวรรค์”
“หวั่นชีวอยู่ห้องโดยสารบนสุดของชิงช้าสวรรค์ ถ้าอยากจะช่วยเธอลงมาโดยไม่ให้ยอดฝีมือที่อยู่บนอาคารสามชั้นรู้ แทบจะเป็นไปไม่ได้——ต่อให้ฉันลอบฆ่าสไนเปอร์ ฆ่าคนที่อยู่รอบๆชิงช้าสวรรค์ รอให้ฉันเจอตัวหวั่นชีว ยอดฝีมือที่อยู่บนอาคารสามชั้นต้องรีบออกมา ทำให้ฉันไม่สามารถหนีได้”
“สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ จำเป็นต้องรู้ว่ายอดฝีมือที่อยู่บนอาคารสามชั้นมีความสามารถระดับไหน”
หลังจากมองดูสถานการณ์ทั้งหมดของสวนสนุกแล้ว เฉินเฟิงเอากล้องส่องทางไกลลง แล้วครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ เฉินเฟิงไม่รอช้าอีก รีบเก็บกล้องส่องทางไกล อาศัยช่วงที่ฟ้ายังมืด แฝงตัวเข้าไปในสวนสนุก
ถึงแม้เขาจะรู้ว่า คนเราจะอ่อนเพลียที่สุดตอนประมาณตีสามถึงตีสี ทั้งยังเป็นนาทีทองในการลอบฆ่า แต่สำหรับเขาแล้ว ยิ่งลงมือเร็วยิ่งดี
ด้านหนึ่ง เขาใช้ตัวตนของคนกาวลี่ในการเข้ามาประเทศญี่ปุ่น ปิดบังทุกคนเอาไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเขามาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ศัตรูจะหละหลวมในเวลานี้ สามารถโจมตีศัตรูโดยที่พวกมันทำตัวไม่ถูก
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เขาลอบฆ่าพ่อลูกซงเต่าโสงเหย่และบอดี้การ์ด ถึงแม้เขาจะเอาศพเข้าไปในวิลล่าแล้ว แต่นั่นก็มีโอกาสที่จะถูกพบ
ถ้าข่าวการตายของซงเต่าโสงเหย่ถูกแพร่ออกไป ศัตรูก็จะเดาออกว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ไม่เพียงแต่ศัตรูที่อยู่ในสวนสนุกจะตื่นตัวในการสู้ แม้แต่จำนวนคนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ถ้าเป็นแบบนั้น การช่วยในครั้งนี้ก็จะยากมาก!
ในเวลาเดียวกันกับที่เฉินเฟิงแฝงตัวอยู่ใกล้สวนสนุก ไม่ว่าจะเป็นสไนเปอร์ทั้งสี่คนที่อยู่บนชิงช้าสวรรค์ หรือจะเป็นนินจาสามคนที่อยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์และขวัญนินจายอดฝีมือนับร้อยที่รับผิดชอบลาดตระเวนอยู่รอบๆ ล้วนได้รับคำสั่งให้เพิ่มการระมัดระวัง
หนึ่งในนั้น ในห้องโดยสารทั้งสองห้องบนชิงช้าสวรรค์ สไนเปอร์ทั้งสี่คนต่างแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบสังเกตการณ์คนละตำแหน่ง
พวกเขาทั้งสี่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทุกคนรับผิดชอบทางด้านทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ คนละทิศ มาบวกกันแล้ว ไม่มีมุมบอด
“ท่านเชียนเย่ระวังเกินไปแล้วรึเปล่า?”
อย่างรวดเร็ว หนึ่งในห้องโดยสาร สไนเปอร์ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบสังเกตการณ์ทางด้านทิศตะวันออก พูดขึ้น:“ตอนนี้ พวกเรายังไม่ได้รับข่าวว่าเฉินเฟิงหว่าเซี่ยเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น เพิ่มการระมัดระวังมากขึ้นจะมีประโยชน์อะไร?”
“จริงด้วย จากที่ฉันดู พวกเราไม่ควรมาทำภารกิจนี้ดว้ยซ้ำ มีท่านเชียนเย่และท่านจายเถิงอยู่ ต่อให้เฉินเฟิงมีสิบชีวิตก็ตายแน่ๆ!”สไนเปอร์ที่รับผิดชอบทางทิศเหนือก็ลดกล้องส่องทางไกลลง แล้วพูดเห็นด้วย
เขาและสไนเปอร์ที่รับผิดชอบทางทิศตะวันออกหนึ่งอยู่ในห้องโดยสารห้องหนึ่ง ส่วนสไนเปอร์อีกสองคนนั่งอยู่ในห้องโดยสารอีกห้องหนึ่ง โดยมีห้องโดยสารของหลินหวั่นชีวกั้นกลาง
ไม่เพียงแต่พวกเขาที่ไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ทำงานด้วยความไม่ตั้งใจ สไนเปอร์อีกสองคนที่อยู่ห้องโดยสารอีกห้องหนึ่งก็เหมือนกัน
ภารกิจครั้งนี้ กลุ่มขวัญนินจาดูเหมือนทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงกองกำลังใต้ดินของประเทศญี่ปุ่น แต่ความเป็นจริงเพียงแค่ออกแรงช่วย เพื่อที่จะเพิ่มความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวซงเต่าและตระกูลกงปุ่น
ในเวลาเดียวกัน นินจาสิบคนที่อยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ
ตามแผนการที่วางไว้ หน้าที่ของพวกเขาคือรอเฉินเฟิงเข้ามาใกล้ชิงช้าสวรรค์แล้วค่อยปรากฏตัวออกมา เพื่อขวางไม่ให้เฉินเฟิงช่วยหลินหวั่นชีว เพื่อที่จะช่วยดึงเวลาให้กับจายเถิงเหย่สุงและเชียนเย่จี๋เจิ้งมาถึงที่นี่ทันเวลา