ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 563
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 563 เซียนปืน
“ฟู่! ฟู่! ฟู่! ฟู่!”
กระสุนปืนได้ผ่าทะลุศีรษะของพวกเขาทั้งสี่คน เลือดสดๆ พุ่งออกมาเต็มเสื้อสีขาว และเปื้อนทั้งที่นั่ง
หลังจากนั้น ร่างของพวกเขาก็ล้มลงไป และมีหนึ่งคนในนั้นที่ร่างร่วงลงมาที่พื้น
เรื่องทั้งหมดนี้ ดูแล้วซับซ้อนมาก เพราะทุกอย่างเกิดพึ่งเพียงชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นนินจาสิบคนที่เฝ้าชิงช้าสวรรค์ตรงนั้น หรือว่าคนอื่นที่แบ่งกันสอดส่องตามจุด รวมถึงจายเถิงเหย่สุงและเชียนเย่จี๋เจิ้งที่อยู่บนชั้นสาม ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและยังไม่มีสติ!
ในตอนนี้ พวกเขาทั้งหลายต่างมีสีหน้าตกใจกันหมด!
ราวกับว่า จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าเฉินเฟิงนั้นเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นได้ยังไง และยังสามารถหาที่นี่เจอ พลันลงมือจัดการทุกอย่าง!
และคนที่ยังอึ้งอยู่นั้นก็ไม่ใช่แค่พวกเขา หลินหวั่นชีวเองก็ยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลินหวั่นชีวถูกมัดอยู่ด้านบนของชิงช้าสวรรค์ ปากก็ถูกเอาผ้าอุดไว้ จึงไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่นางสามารถได้ยินเสียงจากด้านนอกได้ชัดเจน และก็สามารถมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นางได้ยินเสียงปืนที่ดังสนั่น และก็มองเห็นนักฆ่าทั้งสี่คนที่โดนยิงเข้าที่ศีรษะ จนนอนจมกองเลือด
“เป็นพี่เฉินเฟิงใช่มั้ย?”
และเป็นเพียงแวบนึง ที่ทำให้นางนั้นนึกถึงชื่อของเฉินเฟิงขึ้นมาทันที
นอกจากเฉินเฟิงแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะมาช่วยนางที่นี่อีกแล้ว
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้นางใจสั่นมาก นางเกือบจะลุกขึ้นดู แต่เพราะว่าถูกมัดด้วยเชือก จึงไม่สามารถขยับตัวได้เลย
และในตอนนี้ นางก็พยายามใช้แรงที่มีอยู่ดิ้นให้หลุดจากเชือก แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย และในเวลาเดียวกันนางก็พยายามใช้ลิ้นดันผ้าให้หลุดออกจากปาก แต่ทว่าสุดท้ายก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
นางอยากจะพูดเตือนเขา แต่พูดได้เพียง “อือ อือ”
“พี่เฉินเฟิง ขอให้ท่านอย่าเป็นอะไรนะ!”
หลินหวั่นชีวเริ่มตาแดงขึ้นด้วยความกังวล ดวงตาก็เริ่มมีพร่ามัวเพราะน้ำตาที่กำลังหลั่งออกมา แต่นางก็ทำได้แค่ขอให้เขาปลอดภัย
นางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกมัดอยู่ที่นี่ แต่ว่านางรู้อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือสถานที่แห่งนี้มีนักฆ่าเกือบร้อยๆ คน
และคนพวกนั้น ตอนนี้ก็กำลังยืนปะทะกันกับเฉินเฟิง!
“เฉินเฟิงปรากฏตัวที่หวาเซี่ยแล้ว….”
และในตอนนี้ นินจาที่อยู่รอบชิงช้าสวรรค์ก็พากันได้สติ เพราะมีเสียงคนพูดขึ้นในวิทยุสื่อสาร และเป็นเสียงที่ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้เลยว่าหวาดกลัวอย่างมาก
สำหรับคนที่อยู่ในสำนักนินจานั้น พวกเขาต่างรู้ดี ว่าครอบครัวกงปุ่นได้ติดต่อกับทุกสนามบินแล้ว เกี่ยวกับข้อมูลของคนที่เข้ามาในประเทศ แต่ว่ายังไม่ทันจะมีรายงานมาเฉินเฟิงมาเลย แล้วอยู่ดีๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้น และเพียงชั่วพริบตาเฉินเฟิงก็สามารถจัดการกับนักฆ่าทั้งสี่คนได้อย่างง่าย
แล้ว…..แบบนี้จะไม่ให้พวกเขากลัวกันได้อย่างไร?
“ป้าง!”
ต่อมา เฉินเฟิงก็ไม่รอให้เขาได้พูดจบ พลันมีเสียงปืนดังขึ้นอีกรอบ
ในยามค่ำคืนเช่นนี้ เฉินเฟิงมีความสามารถในการฟังอย่างมาก แล้วสามารถรู้ตำแหน่งที่หลบของนินจาคนนั้นได้อย่างแม่นยำ แล้วเล็งไปที่นั่นทันที หลังจากนั้นก็ลั่นไกปืน พลันยิงออกไปและก็ยิงไปโดนศีรษะของนินจาผู้นั้นอย่างจัง
นัดเดียวโดนศีรษะเต็มๆ!
เหมือนกับสี่คนที่โดนยิงก่อนหน้านี้อย่างไงอย่างงั้น และเขาก็ใช้กระสุนเพียงนัดเดียวก็จัดการได้แล้ว
เหตุการณ์นี้ ทำให้นินจาที่หลบอยู่อีกเก้าคนต่างพากันตะลึงอย่างมาก ไม่กล้าขยุกขยิกเลย และก็ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงออกมา เพราะกลัวว่าจะมีจุดจบแบบคนก่อนหน้านี้
“นี่……..นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
และในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงของจายเถิงเหย่สุงดังขึ้นในวิทยุสื่อสาร ตอนนี้เขาดึงสติกลับมาได้แล้ว แล้วก็รู้ว่าตอนนี้เฉินเฟิงได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว จึงถามขึ้น
ไม่มีเสียงตอบกลับมา นินจาทั้งเก้าคนนั้นไม่กล้าปริปากออกมาเลยสักคน เพราะพวกเขากลัวว่าถ้าพูดขึ้นมาแล้วจะทำให้เฉินเฟิงรู้ตำแหน่ง!
“รายงานนายท่าน เสียงปืนนั้นดังมาจากทางด้านชิงช้าสวรรค์ ตอนนี้พวกเราก็ยังไม่ทราบเรื่องที่แน่ชัด!”
“นายท่าน พวกเรากำลังจะรีบไปที่ชิงช้าสวรรค์ขอรับ!”
นินจาทั้งเก้าคนที่เหลือนั้นไม่กล้าจะรายงาน แต่ว่าเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยลาดตระเวนและสอดส่องเป็นคนพูดขึ้น แล้วก็รีบตรงดิ่งมาที่ชิงช้าสวรรค์ทันที
ดูตามแผนที่วางไว้ ถ้าหากว่าเฉินเฟิงปรากฏตัวขึ้น พวกเขาต้องรีบไปรวมตัวที่ชิงช้าสวรรค์โดยทันทีเพื่อเตรียมการรับมือ แล้วก็รวมกำลังกันเพื่อเอาชนะเฉินเฟิงให้ได้
พอได้ยินพวกนั้นรายงานดังนั้น เฉินเฟิงก็ถือปืน แล้วเก็บไว้ที่เอว จากนั้นก็หายตัวไปในความมืดทันที
“แม่ง จวั่นฉีโย่เอ้อ บอกข้าที ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
จายเถิงเหย่สุงที่อยู่ชั้นสามมีสีหน้าไม่ดี และพูดในวิทยุสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่ต่ำมาก
จวั่นฉีโย่เอ้อที่เขาพูดนั้นก็คือ นินจาที่เป็นหัวหน้าของทั้งสิบคนนั้น และรับผิดชอบในการรับคำสั่งของนินจาที่เหลืออีกเก้าคนในการยิงเฉินเฟิง
“นายท่าน ที่หวาเซี่ยเฉินเฟิงได้เข้ามาใกล้บริเวณชิงช้าสวรรค์ ก่อนหน้านั้นเขาได้ฆ่านินจาไปสี่คน จากนั้นก็ได้ฆ่าพวกเราไปอีกหนึ่งคนขอรับ!”
จวั่นฉีโย่เอ้อนั่นห่างจากเฉินเฟิงอยู่มาก เขาหมอบมาตามพื้น และรีบหาต้นไม้ใหญ่เพื่อหลบการโจมตีของเฉินเฟิง หลังจากนั้นจึงหันไปรายงานซงเสี้ยจื้อจิ่ว
“อะ……อะไรนะ?”
ครั้งนี้ เขาไม่รอให้จายเถิงเหย่สุงได้พูดขึ้น เชียนเย่จี๋เจิ้งจึงรีบชิงพูดขึ้นก่อน: “เจ้าบอกว่ามันฆ่านินจาของเราไปสี่คนงั้นหรือ?”
“ใช่ขอรับ ท่านเชียนเย่จี๋เจิ้ง เขาเพียงแค่ง้างปืนสี่อัน ก็สามารถจัดการกับนินจามือปืนสี่คนของเราได้หมด…..” จวั่นฉีโย่เอ้อพูดไป ก็ขนลุกไป
ถึงตัวเขาเองจะเป็นถึงนินจาชั้นกลาง และก็เคยฝึกการใช้ปืนมาก่อน แถมเคยเจอกับมือปืนตัวฉกาจมาแล้ว แต่เขาก็ยังนึกไม่ถึงว่า ทำไมเฉินเฟิงถึงสามารถใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาก็สามารถจัดการกับสี่คนนั้นได้!
อีกอย่าง ถ้าหากไม่ใช่ว่าเขาเห็นด้วยตาตัวเอง เขาก็ยังเชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่บริสุทธิ์ และไม่มีทางเชื่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน!
“มัน……มันจะเป็นไปได้ยังไง? หรือว่าเป็นเพราะพวกนั้นยืนซื่อบื้อเลยโดนลอบทำร้ายกันแน่?” ไม่ว่าจะเป็นจวั่นฉีโย่เอ้อ หรือเชียนเย่จี๋เจิ้งต่างก็ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาอุตส่าห์ให้นักฆ่าทั้งสี่คนแยกกันเพื่อที่จะได้มองเห็นได้ง่าย และก็ยังแบ่งนินจาออกเป็นข้างหน้าสองคนกับข้างหลังสองคนอีก แต่กลับถูกเฉินเฟิงง้างแค่ปืนสี่อันก็สามารถจัดการได้แล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันเกิดความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ
“เขาปลอมเสียงเป็นคนของเรา เพื่อให้ทุกคนสนใจ หลังจากนั้นก็ใช้โอกาสนี้จัดการกับสี่คนนั้น และในระหว่างนั้นก็ใช้เวลาจัดการประมาณหนึ่งวินาที”
เชียนเย่จี๋เจิ้งพูดขึ้น เพื่ออธิบายให้จายเถิงเหย่สุงเข้าใจ และก็เหมือนยังสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อยู่
“แม่ง มันเป็นเซียนปืนหรือไงกัน?”
แล้วเสียงก็ดังขึ้นในหูฟังเป็นคำตอบให้เชียนเย่จี๋เจิ้ง เพราะจายเถิงเหย่สุงทนไม่ไหวจึงด่าว่าเขาอย่างหนัก
สำหรับคนที่เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อย่างเขานั้น ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าการที่จะยิงปืนออกไปพร้อมกันสองด้าน และยิงถึงสี่คนนั้นมันยากขนาดไหน เขาเองก็รู้ดี
แต่ว่า……..
“ป้างป้างป้างป้างป้าง………”
และเสียงที่ตอบจายเถิงเหย่สุงนั้นกลับกลายเป็นเสียงปืนที่ดังต่อกันห้านัด และก็ดังออกมาจากหูฟังสนั่นหวั่นไหวอย่างมาก
“มันเกิดอะไรขึ้นอีก?” จายเถิงเหย่สุงพูดขึ้นอย่างตกใจ
“ท่านจาย…….จายเถิงเหย่สุง ข้ามองเห็นเขาแล้ว! เขาอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และเมื่อครู่เขาก็พึ่งฆ่านินจากลุ่มเก้าอีกห้าคน…….”
กองกำลังที่แปดที่หลบอยู่ด้านล่างของชิงช้าสวรรค์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ พูดขึ้น
“ป้าง!”
แต่ทว่า——-
เขาไม่ทันจะพูดจบ กระสุนปืนก็ยิงทะลุศีรษะของเขาทันที และจบชีวิตลงทันที ทำให้เสียงของเขาหยุดลงเพียงเท่านั้น