ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 568
บทที่ 568 จายเถิงเหย่สุงตาย
หลังจากนั้น…
สายตาของเขามองไปตามทิศทางที่เฉินเฟิงเล็งปืน แล้วก็มองเห็นอิงมู่จวั่นเอินล้มลงพื้น
ค่ำคืนมืดมิด ศีรษะของอิงมู่จวั่นเอินถูกกระสุนยิงทะลุ เลือดไหลนองเต็มพื้น
ภาพที่เห็นนี้ ซงเสี้ยจื้อจิ่วตกใจจนแทบขาดใจ
ในขณะเดียวกัน เฉินเฟิงวางปืนกลในมือลง มองดูซงเสี้ยจื้อจิ่วด้วยสีหน้านิ่งเฉย
จบแล้ว
มองดูเฉินเฟิงเดินมา ในใจซงเสี้ยจื้อจิ่วผุดสองคำนี้ขึ้นมา ทั้งร่างกายเหมือนดั่งต้องมนต์ ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ขยับไม่ได้
เพราะ เขาใช้กระเจี๊ยวหว่างขาคิดยังรู้เลยว่า ตามที่เชียนเย่จี๋เจิ้ง จายเถิงเหย่สุงกับนักฆ่าทั้งห้าขององค์กรขวัญนินจาถูกเฉินเฟิงฆ่าตาย แผนการที่พวกเขาวางไว้เพื่อจัดการกับเฉินเฟิงไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว
ค่ำคืนที่มืดมิด ร่างกายของซงเสี้ยจื้อจิ่วสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ท้องกับขาทั้งสองข้างรู้สึกเหมือนเป็นตะคริว หมุนไม่หยุด รู้สึกราวกับว่าจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
แม้ว่าอุณหภูมิในตอนกลางคืนจะไม่ต่ำ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในห้องเย็น หนาวสั่นไปทั้งตัว เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผาก สีหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษ สายตาที่มองดูเฉินเฟิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ไปยังชิงช้าสวรรค์ด้วยกันเถอะ”
เฉินเฟิงหยุดอยู่ห่างจากตรงหน้าซงเสี้ยจื้อจิ่วสามเมตร เขาไม่ได้ลงมือจัดการซงเสี้ยจื้อจิ่ว เพียงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“ได้….ได้”
เสียงคำพูดของเฉินเฟิงดังขึ้นในหู ซงเสี้ยจื้อจิ่วตกตะลึง ผงกหัวเร็วเหมือนไก่จิกข้าว ความรู้สึกนั้นเหมือนกลัวเฉินเฟิงจะจัดการกับเขา
เมื่อพูดเสร็จ ซงเสี้ยจื้อจิ่วสูดหายใจเข้าลึกๆของครั้ง สงบสติอารมณ์ แล้วก็ก้าวเดินไปหาเฉินเฟิง ด้วยฝีเท้าที่สั่นเทา
เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาพาซงเสี้ยจื้อจิ่วไปยังชิงช้าสวรรค์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เดินผ่านศพของเชียนเย่จี๋เจิ้งไปก่อน
“ฉ่า”
ถึงแม้ซงเสี้ยจื้อจิ่วจะรู้แล้วว่าเชียนเย่จี๋เจิ้งถูกเฉินเฟิงฆ่าตายแล้ว แต่เมื่อเขามองเห็นศพเชียนเย่จี๋เจิ้งที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ขยับ ก็ยังคงตกใจอยู่ไม่น้อย จนแทบจะลืมหายใจ
ยังไงเชียนเย่จี๋เจิ้งก็เป็นถึงปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้นินจาชั้นสูงคนหนึ่ง ปรมาจารย์แบบนี้ ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นมีเพียงไม่กี่คน แต่เมื่อเขาตกอยู่ในมือเฉินเฟิง กลับสู้ได้ไม่ถึงครึ่งนาที ก็ถูกเฉินเฟิงยิงหัวระเบิดแล้ว
ในไม่ช้า ขณะที่ซงเสี้ยจื้อจิ่วกำลังตกอยู่ในความสยองขวัญและสับสน เฉินเฟิงเคลื่อนไหวตัวเหมือนดั่งวิญญาณ ปรากฏอยู่ด้านข้างศพเชียนเย่จี๋เจิ้ง แล้วหิ้วศพของเชียนเย่จี๋เจิ้งขึ้นมา
“คุณจะทำอะไร?”
ในใจซงเสี้ยจื้อจิ่วประหลาดใจ แต่ก็ไม่กล้าถามมาก ทำได้เพียงเดินตามอยู่ด้านหลังเฉินเฟิงไปอย่างเงียบๆ
ไม่นาน เขาก็มองเห็นจายเถิงเหย่สุง
จายเถิงเหย่สุงหั้วจิ้งชั้นต้นก็นอนกองอยู่บนพื้นเหมือนกัน ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือด แม้แต่บนพื้นก็นองไปด้วยเลือด
เขายังไม่ตาย เพราะยิงเข้าที่ขา ปอดและกระดูกสันหลัง สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว นอนอยู่บนพื้นเหมือนดั่งสุนัข เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย
นาทีต่อมา ไม่รอให้ซงเสี้ยจื้อจิ่วได้สติกลับมาจากความตกตะลึง เฉินเฟิงที่หิ้วศพของเชียนเย่จี๋เจิ้งไว้ เดินไปตรงหน้าจายเถิงเหย่สุง
“สม…สมควรตาย พวกเราประทาทคุณเกินไป”
จายเถิงเหย่สุงพยายามเงยหัวขึ้น มองดูเฉินเฟิง คำพูดเต็มไปด้วยความเสียใจภายหลังกับการกระทำของตนเอง
ถึงแม้ฝีมือการต่อสู้ของเฉินเฟิงจะเป็นเพียงหั้วจิ้งชั้นต้น อย่างมากก็สามารถฆ่าจอมยุทธ์ชั้นกลางของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ แต่ความสามารถในการใช้อาวุธปืนของเฉินเฟิงโดดเด่นมาก ทั้งสองอย่างมารวมกัน แม้แต่เขากับเชียนเย่จี๋เจิ้งหั้วจิ้งชั้นต้นสองคนก็รับมือไม่ไหว
ปัง ปัง ปัง ปัง
สิ่งที่ตอบกลับจายเถิงเหย่สุงคือเสียงปืนดังสี่ครั้ง เฉินเฟิงยกเท้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหยียบตรงข้อเท้าของจายเถิงเหย่สุงก่อน แล้วตามด้วยข้อมือ
“แก๊ก…”
เสียงกระดูกหักดังขึ้น ข้อมือข้อเท้าของจายเถิงเหย่สุงแตกหัก ด้วยกำลังภายในที่น่ากลัว จนทั้งเลือดทั้งเนื้อดูเลือนราง
ตอนนี้ จายเถิงเหย่สุงหมดสิ้นความสามารถในการต่อสู้แล้วอย่างสิ้นเชิง
ทำทั้งหมดนี้แล้ว เฉินเฟิงค่อยหิ้วจายเถิงเหย่สุงขึ้นมาเหมือนดั่งหิ้วไก่น้อย
ในขณะเดียวกัน ดาบสองเล่มหล่นออกมาจากในแขนเสื้อตกลงบนพื้น
“คุณ…คุณช่างรอบคอบจริงๆ…”
จายเถิงเหย่สุงหัวเราะอย่างขมขื่น เดิมคิดจะใช้โอกาสตอนที่เฉินเฟิงผ่อนคลายที่สุด ลงมืออย่างรวดเร็ว ใช้ดาบในมือแอบลอบทำร้ายเฉินเฟิง กลับคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะไม่ให้เขามีแม้แต่โอกาสนี้
ไม่มีเสียงตอบกลับ มือซ้ายขวาของเฉินเฟิงหิ้วศพของเชียนเย่จี๋เจิ้ง กับจายเถิงเหย่สุงที่ไร้สิ้นความสามารถในการต่อสู้ พาซงเสี้ยจื้อจิ่วเดินต่อไปยังชิงช้าสวรรค์
“เขา…เขาจะทำอะไรกันแน่?”
เมื่อกำลังเดินอยู่ ในใจซงเสี้ยจื้อจิ่วผุดคำถามที่ประหลาดใจนี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่กล้าถาม ทำได้เพียงเดินตามหลังเฉินเฟิงอยู่เงียบๆ
ด้านล่างชิงช้าสวรรค์ ขวัญนินจายอดฝีมือที่เหลือหกกลุ่มสามสิบคน ยังคงอยู่รวมตัวกันไว้ตามที่ซงเสี้ยจื้อจิ่วสั่งไว้ก่อนหน้านี้
แต่นินจาทั้งเก้าคนของสำนักนินจา ยังคงทำตามแผน ซ่อนตัวอยู่ในท่ามกลางต้นไม้
“ไม่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก การต่อสู้น่าจะจบสิ้นแล้ว?”
ท่านใดนั้น ยอดฝีมือของขวัญนินจาคนหนึ่ง พูดขึ้นอย่างอดทนไม่ไหว เมื่อกี้เขาถูกเฉินเฟิงฆ่าจนหวาดกลัว แทบจะกลิ้งไปกับพื้นมาถึงที่นี่
ตอนนี้ ถึงแม้รอบข้างเขาจะเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนพวกเดียวกัน และต่างคนต่างก็มีปืนอยู่ในมือ แต่เขาก็ยังคงไม่รู้สึกถึงปลอดภัย
“นั่นยังต้องพูดอีกหรือ? มหาปรมาจารย์เชียนเย่กับมหาปรมาจารย์จายเถิงเหย่สุงร่วมมือกัน เฉินเฟิงสิบคนก็ไม่พอฆ่า? ยอดฝีมือของขวัญนินจาคนหนึ่งพูดขึ้น ไม่เหมือนกับคนที่พูดก่อนหน้านี้คนนั้น เขาไม่เป็นห่วงเลยสักนิด”
เพราะเขาเชื่อว่า เฉินเฟิงถูกฆ่าตายไปแล้ว
“เขายังมีชีวิตอยู่อีกหรือ?”
ภายในที่นั่งด้านบนสุดของชิงช้าสวรรค์ หลินหวั่นชีวถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ จึงมองไม่เห็นด้านล่าง หลังจากได้ยินขวัญนินจาคนนั้นพูดขึ้น ในใจก็ตื่นตระหนก สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและไม่เป็นสุข
“แม่ง หากเฉินเฟิงคนนั้นไม่ลักลอบฆ่า โจมตีพวกเราอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเราจะต้องสูญเสียพี่น้องมากมายขนาดนั้นหรือ?”
“ใช่ หากมหาปรมาจารย์เชียนเย่ กับหาปรมาจารย์จายเถิงเหย่สุงลงมือตั้งแต่แรก เฉินเฟิงคนนั้นก็จะไม่สามารถฆ่าคนของพวกเรามากมายขนาดนี้ได้อย่างง่ายดาย…”
สิ่งที่ตอบหลินหวั่นชีวคือแต่ละเสียงที่พูดคุยกัน คนแทบทั้งหมดต่างก็คือว่าเฉินเฟิงถูกฆ่าตายไปแล้ว แต่เมื่อชายคนหนึ่งพูดได้เพียงครึ่งเดียว ก็รู้สึกเหมือนถูกคนบีบคอ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก
ภายใต้ค่ำคืนมืดมิด เขาเบิกตาโต มองดูตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เหมือนกำลังมองสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นบนโลกนี้แบบนั้น
ฝุบๆฝุบๆฝุบ…
ทันใดนั้น สายตาอีกมากมายหันไปมองด้านหน้า รอบๆทั่วทั้งชิงช้าสวรรค์ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด
ไม่ว่าจะเป็นพวกขวัญนินจายอดฝีมือ หรือนินจาทั้งเก้า สายตาของพวกเขามองไปทางด้านหน้าพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ภายใต้แสงไฟอันน้อยนิด สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บนใบหน้าของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เพราะตามที่พวกเขาเห็น สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เฉินเฟิงหิ้วเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุง พร้อมกับพาซงเสี้ยจื้อจิ่ว กำลังเดินมาทางด้านหน้า
ไม่อยากเชื่อหรือ?
นาทีต่อมา ไม่รอให้พวกยอดฝีมือขวัญนินจากับนินจาทั้งเก้าได้สติ เฉินเฟิงลงมือแล้ว