ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 570
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 570 ย้อนกลับ
เธอนึกภาพไม่ออก เฉินเฟิงทำอะไรลงไป ถึงสามารถทำให้คนพวกนี้ที่ฆ่าคนได้อย่างไม่กะพริบตา คุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
ทันใดนั้น ไม่รอให้หลินหวั่นชีวได้สติกลับมาจากความตื่นตระหนก เฉินเฟิงอุ้มเธอ แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เฉินเฟิง ปล่อยวางความคิดที่จะสังหารพวกซงเสี้ยจื้อจิ่วไปชั่วขณะ
เพราะสำหรับเขาแล้ว เวลาตอนนี้การปกป้องหลินหวั่นชีว ให้ปลอดภัยสำคัญที่สุด ส่วนการฆ่าสังหารพวกซงเสี้ยจื้อจิ่ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้
“ฮู้….”
เมื่อเฉินเฟิงจากไปแล้ว พวกซงเสี้ยจื้อจิ่ว ต่างก็โล่งใจพร้อมๆกัน หลังจากรอให้เงาร่างของเฉินเฟิง หายลับไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ต่างก็ค่อยลุกขึ้นมา
ภายใต้ค่ำคืนมืดมิด ความหวาดกลัวกับความไม่สบายใจบนใบหน้าพวกเขาค่อยๆจางหายไป ความหดหู่กลับมาแทนที่ เป็นรู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าการกินข้าว แล้วเจอหนูตายในจานข้าวเสียอีก
สมาชิกที่เหลือทั้งสามสิบคนของขวัญนินจา กับนินจาทั้งเก้าคน เดินไปหาซงเสี้ยจื้อจิ่วอย่างเงียบๆ พร้อมกับความหดหู่
“ท่านซงเสี้ย ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?” จวั่นฉีโย่เอ้อถามขึ้น
“แม่ง กูจะไปรู้ได้อย่างไรว่าจะทำยังไง?”
สีหน้าซงเสี้ยจื้อจิ่วเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ทางด้านขวัญนินจา เขาเป็นหัวหน้ารับผิดชอบ การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นเช่นนี้ เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวอย่างไร
ได้ยินเสียงตำหนิของซงเสี้ยจื้อจิ่ว จวั่นฉีโย่เอ้อหุบปากเงียบอย่างรู้ตัว ไม่หาเรื่องใส่ตัวอีก คนอื่นก็ยิ่งหุบปากเงียบสนิท
แล้วก็ในตอนนี้ มือถือของซงเสี้ยจื้อจิ่วก็ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าดังอยู่ภายใต้ค่ำคืนที่เงียบสงบนี้ฟังแล้วก็แสบหูอย่างมาก
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ซงเสี้ยจื้อจิ่วสั่นไปทั้งตัว และสายตาของพวกจวั่นฉีโย่เอ้อ ต่างก็มองมาหาเขาพร้อมกัน
หลังจากนั้น ภายใต้การจ้องมองของพวกจวั่นฉีโย่เอ้อ ซงเสี้ยจื้อจิ่วหยิบมือถือออกมาด้วยสีหน้าย่ำแย่ หลังจากที่เห็นสายเรียกเข้าที่ปรากฏบนโทรศัพท์คือกงปุ่นป้านฉาง สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม
“ท่าน…”
หลายนาทีผ่านไป ซงเสี้ยจื้อจิ่วยังคงรับโทรศัพท์ สีหน้าเต็มไปด้วยความตำหนิอย่างไม่เป็นสุข เขาไม่รู้จะรายงานกงปุ่นป้านฉางยังไง
“ผมเพิ่งได้รับข่าว โสงเหย่ถูกฆ่าตายทั้งบ้านแล้ว เหตุนี้น่าจะเป็นฝีมือของเฉินเฟิง เขาน่าจะรู้เรื่องแผนการของพวกเราจากโสงเหย่ คืนนี้จะต้องไปหาพวกคุณที่นั่นแน่ พวกคุณเตรียมรับมือด้วย” ปลายสายโทรศัพท์ กงปุ่นป้านฉางพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม
“ท่าน เขามาแล้ว” ซงเสี้ยจื้อจิ่วพูดขึ้นด้วยเสียงขมขื่น
“อะ… อะไรนะ? เขาไปแล้ว?”
เสียงคำพูดของซงเสี้ยจื้อจิ่วดังขึ้น กงปุ่นป้านฉางตกตะลึง รีบถามขึ้นว่า “ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง? พวกคุณจัดการเขาแล้วหรือยัง?”
“เปล่า เขาฆ่าเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุง ปรมาจารย์ทั้งสองท่านตายแล้ว ตัวประกันก็ช่วยเหลือไปแล้ว…”
“นี่… เป็นไปได้ยังไง?”
ครั้งนี้ ไม่รอให้ซงเสี้ยจื้อจิ่วพูดเสร็จ กงปุ่นป้านฉางพูดขัดจังหวะเขา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตำหนิกับไม่อยากเชื่อ
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัวกงปุ่น เขารู้ความสามารถของเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงเป็นอย่างดี สำหรับเขาแล้ว ทั้งสองคนลงมือฆ่าเฉินเฟิง ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
แต่ตอนนี้ ซงเสี้ยจื้อจิ่วกลับบอกเขาว่า เฉินเฟิงฆ่าสองคนนั้นตายแล้ว และยังช่วยหลินหวั่นชีวไปแล้ว…
เวลานี้ เขารู้สึกเหมือนได้ยินคำพูดที่ไร้สาระที่สุดในชีวิต
เป็นไปได้หรือ?
ไร้สาระหรือ?
“ตักๆตักๆตัก…”
สิ่งที่ตอบกลับกุงปุ่นป้านฉางคือเสียงกระสุนปืนคำรามดังสนั่นอย่างรุนแรง
ห่างออกไปร้อยเมตร เฉินเฟิงถือปืน ยิงใส่ฝูงคนอย่างบ้าคลั่ง
เขาย้อนกลับมาฆ่า
เฉินเฟิงไปแล้วก็หวนกลับ
หลังจากที่พาหลินหวั่นชีวไปซ่อนไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว ก็รีบหวนกลับมา ฆ่าพวกซงเสี้ยจื้อจิ่วอย่างสิ้นซาก
“พัฟๆพัฟ…”
หลังจากเสียงปืนดังขึ้น ลูกกระสุนคำรามเข้าหาฝูงคน เหมือนกับการเกี่ยวข้าว ตัดล้มเป็นกองในทันที เลือดสาดกระจายไปทั่วทิศ
“อ๊าก…”
“เฉินเฟิงคนนั้นกลับมาอีกแล้ว”
“เขาจะฆ่าพวกเราทั้งหมด”
“รีบหนีเร็ว”
ทันใดนั้น ทุกคนแตกตื่น คนที่ไม่ถูกยิงเหมือนจะกลายเป็นบ้า ตะโกนด้วยความหวาดกลัวไปด้วย หนีไปคนละทิศคนละทางไปด้วย
“หมอบลง”
ในขณะเดียวกัน จวั่นฉีโย่เอ้อผลักซงเสี้ยจื้อจิ่วที่ตกอยู่ในอาการนิ่งอึ้งล้มลง แล้วก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง เตือนให้ทุกคนหมอบลง
เพราะการหนีไม่ใช่ทางรอด มีแต่จะทำให้ตกเป็นเป้าหมาย
ในขณะที่เสียงเตือนของจวั่นฉีโย่เอ้อดังขึ้น ก็มองเห็นลูกน้องแต่ละคนล้มจมอยู่ในกองเลือด ซงเสี้ยจื้อจิ่วตกใจจนสั่นไปทั้งตัว มือถือที่อยู่ในมือแทบหล่น
“เกิดอะไรขึ้น?”
และในตอนนี้ ปลายสายโทรศัพท์มีเสียงของกงปุ่นป้านฉางดังขึ้นอีกครั้ง เขาได้ยินเสียงปืน และได้ยินเสียงตะโกนร้องอย่างวุ่นวาย
“ท่าน…ท่าน เฉินเฟิงคนนั้นย้อนกลับมาฆ่าอีกครั้งแล้ว…”
ซงเสี้ยจื้อจิ่วตอบโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงสั่นเทา จนพูดจาไม่ชัดเจน
“อย่าไปต่อสู้กับเขา รีบพาคนหนีไป” กงปุ่นป้านฉางได้ยินแล้ว ก็โกรธจัดขึ้นมาทันที หลังจากโกรธแล้ว เขาก็พูดสั่งการอย่างเด็ดขาด
แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่น้อยที่สุดเพื่อผลประโยชน์สูงสุด เป็นสไตล์การกระทำของเขา
ตอนนี้ เฉินเฟิงได้ฆ่าเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงตาย และยังช่วยหลินหวั่นชีวไปแล้ว พวกซงเสี้ยจื้อจิ่ว ไม่มีตัวประกันให้เฉินเฟิงต้องเป็นกังวล หากต่อสู้กับเฉินเฟิง ถือเป็นการตีก้อนหินด้วยก้อนกรวดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ครับ ท่าน”
ซงเสี้ยจื้อจิ่วรีบตอบ แล้วก็กดวางสายโทรศัพท์
ในขณะเดียงกัน ขณะที่ทุกคนกำลังหมอบอยู่บนพื้น เสียงปืนหยุดลง เฉินเฟิงหยุดยิง หลายลับเข้าไปในความมืด
ถึงแม้เสียงปืนจะหยุดแล้ว แต่ความหวาดกลัวภายในใจของซงเสี้ยจื้อจิ่ว กับทุกคนไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เพราะพวกเขาต่างก็รู้ เฉินเฟิงยังอยู่ เพียงแค่หยุดโจมตีชั่วขณะเท่านั้น เช่นเดียวกับพายุฝนที่หยุดกระหน่ำไปชั่วคราว ความตายจะมาถึงในทุกเวลา
“ท่านซงเสี้ย เฉินเฟิงคนนั้นกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้แน่ ท่านจะต้องตัดสินออกคำสั่ง ทำอะไรสักอย่างโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งหมดที่นี่ ล้วนต้องตายอยู่ที่นี่”
นับว่าจวั่นฉีโย่เอ้อค่อนข้างมีสติ เขารีบพูดเตือนซงเสี้ยจื้อจิ่วว่า “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเราจะหนีไปพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ ผมขอเสนอให้พี่น้องสำนักจัานถังยิงคุ้มกัน ให้พี่น้องสำนักนินจาของเราพาท่านหนีไป”
“อืม”
ซงเสี้ยจื้อจิ่วได้ยินเช่นนี้ ก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตน เขารู้ว่าที่จวั่นฉีโย่เอ้อพูดนั้นถูกต้อง
อย่างแรก พวกเขาอยากที่จะมีชีวิตรอดทั้งหมด ยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นฟ้า
อีกอย่างหนึ่ง คนพวกสำนักจัานถัง ถึงแม้ก็เป็นยอดฝีมือของขวัญนินจา แต่นินจาของสำนักนินจา เป็นยอดฝีมือของยอดฝีมือ เป็นรากฐานของขวัญนินจา ชีวิตของพวกเขาสำคัญ และมีค่ากว่าพวกสำนักจัานถัง ตายไปหนึ่งคนถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
“เฉินเฟิงจะฆ่าพวกเราทั้งหมด พวกเราจะยอมเขาไม่ได้ ตอบโต้ ต้องตอบโต้”
ซงเสี้ยจื้อจิ่วตะโกนพูดสั่งขึ้นว่า “พี่น้องสำนักจัานถังทั้งหมด หยิบอาวุธของพวกคุณขึ้นมา ขอเพียงเฉินเฟิงปรากฏตัว ให้ลงมือยิงทันที”
“ครับ ท่านซงเสี้ย”
เมื่อได้ยินคำสั่งของซงเสี้ยจื้อจิ่ว ถึงแม้ยอดฝีมือที่เหลือของสำนักจัานถัง ถูกเฉินเฟิงฆ่าจนหวาดกลัว แต่ก็ยังรับคำสั่งเป็นอันดับแรก
นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าการควบคุมจัดการของขวัญนินจา การทำตามคำสั่งแทบจะสามารถใช้คำว่ากระทำโดยไม่ต้องประนีประนอม