ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 617
บทที่ 617 ขอโทษยกกลุ่ม
หืม?
ผูไห่เสิ้งขมวดคิ้วมุ่นไม่พูดไม่จา ทว่าเดินก้าวใหญ่เข้าไปหาทั้งสอง
“ตุบ!”
เมื่อเห็นว่าผูไห่เสิ้งเดินเข้ามา สุดท้ายทั้งสองคนจึงคุกเข่าลงพร้อมกันด้วยสีหน้าฝืนใจขั้นสุด
“แชะ แชะ แชะ……”
เสียงจากกล้องโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง นักแข่งรถหวาเซี่ยและคนดูจำนวนมากต่างก็บันทึกภาพเหตุการณ์นี้ไว้
“ขอโทษครับคุณเฉิน!”
ท่ามกลางเสียงของการบันทึกภาพและการบันทึกวิดีโอ ผูชางจวู้นหลับตาลงก่อนจะลืมตาแล้วเงยหน้ามองเฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยขอโทษอย่างคับข้องใจ
“ตึก!”
เอ่ยจบร่างกายของเขาก็แนบลงกับพื้น ศีรษะสัมผัสแนบไปกับพื้น
ก้มหัว
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาก้มหัวให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่บรรพบุรุษของตระกูล แถมยังเป็นคนหวาเซี่ยอีก!
“ขอโทษ!”
“ตึก ตึก ตึก……”
เมื่อผูชางจวู้นเริ่มแล้ว นักแข่งรถกาวลี่คนอื่นๆก็ทำได้เพียงละทิ้งศักดิ์ศรีแล้วก้มหัวรับผิดไปตามๆกัน
“ผมไม่ได้ต้องการให้พวกคุณมาขอโทษผม แต่ต้องการให้พวกคุณขอโทษหวาเซี่ยและชาวหวาเซี่ยที่เคยพูดจาไม่ดีก่อนหน้านี้”
เมื่อเห็นภาพนี้เฉินเฟิงก็เอ่ยปากขึ้น ถึงแม้น้ำเสียงจะเรียบเฉยทว่าทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความดุดันของเขา เห็นได้ว่าเขายังไม่พอใจกับการขอโทษของพวกผูชางจวู้น!
“ห๊ะ……”
วินาทีต่อมา นักแข่งรถกาวลี่ทุกคนรวมถึงูชางจวู้นนิ่งอึ้งกันหมด
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพวกเขาถึงกับยอมละทิ้งศักดิ์ศรีขนาดนี้แล้วทว่าเฉินเฟิงก็ยังคงไม่พอใจ!
“ผมยังคงยืนยันคำเดิม ขอโทษหวาเซี่ยและชาวหวาเซี่ยซะ!”
ผ่านไปสักพัก ท่ามกลางการรอคอยของทุกคน ผูชางจวู้นก็เอ่ยขอโทษอีกครั้งตามความต้องการของเฉินเฟิง
“หวาเซี่ยและชาวหวาเซี่ย พวกเราขอโทษ”
พอผูชางจวู้นเอ่ยปาก นักแข่งรถกาวลี่คนอื่นๆก็ทยอยเอ่ยปากขอโทษและยอมรับผิด
“ตึก ตึก ตึก……”
เอ่ยจบพวกเขาก็ไม่รอเฉินเฟิงได้พูดอะไรอีก พากันก้มหัวยอมรับผิดอย่างรู้งาน
ภาพเหตุการณ์นี้ถูกถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอเก็บไว้ในมือถือของคนจำนวนมาก
“หืม……”
เมื่อได้ยินคำพูดของผูชางจวู้นและคนอื่นๆ ผูเหวินจีก็อึ้งไป ฉับพลันเขาก็รู้สึกว่าวันนี้เขาตัดสินใจผิดพลาดไปทว่าก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
“ยอมรับผิด!”
“สำนึกผิด!” เฉินเฟิงเอ่ยจบไม่ว่าจะเป็นนักแข่งรถหวาเซี่ย คนดูในสนามหรือพนักงานของสนามแข่งรถใต้ดิน ทุกคนล้วนรู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอก เลือดพลุ่งพล่านขึ้นศีรษะจนรู้สึกชาไปทั้งหัว พร้อมกับโบกมือพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายพลางเอ่ยตะโกนอย่างสุดเสียง
ในยามค่ำคืน เสียงตะโกนกึกก้องอย่างพร้อมเพรียงดังไปทั่วทุกสารทิศราวกับเป็นเสียงปีศาจจากนรกอเวจี กระแทกจิตใจของผูชางจวู้นรวมถึงนักแข่งรถกาวลี่เหล่านั้น
วินาทีนี้ผูชางจวู้นและคนอื่นๆเงยหน้าขึ้นแล้ว ทว่าสีหน้าของแต่ละคนนั้นแย่ถึงขีดสุดราวกับกินหนูลงไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขาเห็นคนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ พวกเขาแทบจะมุดหลบเข้าไปในรูหนู
เพราะพวกเขารู้ดีว่าในค่ำคืนนี้ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่รู้สึกอัปยศแต่ยังรวมไปถึงวงศ์ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังด้วย หรือแม้แต่ทั้งกาวลี่ที่ต้องอัปยศไปด้วย!
และพวกเขาจะกลายเป็นคนบาปของกาวลี่ ถูกตราหน้าอยู่บนเสาแห่งความอัปยศจนวันที่พวกเขาตายก็อาจจะไม่ถูกลบล้าง แต่ว่าถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตลอดกาล
ไม่เพียงแต่พวกเขา ผูเหวินจีที่อยู่ไกลก็มีสีหน้าย่ำแย่เป็นอย่างมาก เขาไม่พูดไม่จาแล้วกดวางสายวิดีโอคอลไปเลย
เรื่องมาจนถึงขั้นนี้หากเขายังไปท้าทายเฉินเฟิงเกิดเฉินเฟิงเปลี่ยนใจฆ่าผูชางจวู้นขึ้นมา เช่นนั้นคงเสียหายมากกว่าเดิม จะร้องไห้ก็คงไม่ทันแล้ว
“คุณเฉิน คุณชายซงจิ่งและคนอื่นๆก็ทำตามที่คุณต้องการแล้ว พวกเรากลับได้หรือยังครับ?”
ขณะนั้นเองผูไห่เสิ้งก็ย้ายสายตาไปจับจ้องอยู่ที่เฉินเฟิงก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทั้งเกลียดทั้งกลัว
“ไสหัวไป!”
เฉินเฟิงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบราวกับกำลังไล่กลุ่มแมลงวันที่น่ารำคาณ
ทว่า
คำพูดที่แฝงไว้ซึ่งการเหยียดหยามกลับทำให้ผูชางจวู้นและพวกที่รู้สึกหนักอึ้งลอบถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง
“เพื่อนๆกาวลี่ หวาเวี่ยต้อนรับพวกคุณเสมอ!”
“เพื่อนๆกาวลี่ ครั้งหน้าระวังตัวหน่อยนะ อย่าทำตัวยโสแบบนี้”
“เพื่อนๆกาวลี่ ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว หวาเซี่ยไม่ใช่สถานที่ๆพวกคุณจะทำอะไรตามใจได้!”
เมื่อเห็นผูชางจวู้นและพวกจากไปก็มีคนจำนวนไม่น้อยตะโกนเยาะเย้ยอย่างอารมณ์ดี
ถึงแม้ผูชางจวู้นและพวกจะไม่เข้าใจเสียงตะโกนพวกนี้ ทว่าพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเยาะเย้ยในน้ำเสียง แต่ละคนจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นโดยไม่ได้นัดหมายเพื่อออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้ว การอยู่ที่นี่ต่อแม้เพียงหนึ่งนาทีก็คือความทุกข์!
ส่วนผูไห่เสิ้งและบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งของผูชางจวู้นก็หามศพของหลี่ตงชิงตามหลังผูชางจวู้นและพวกไป
ในขณะเดียวกันก็มีคนในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยแชร์รูปที่ถ่ายเมื่อสักครู่ลงในโมเมนต์
“เฉินเฟิงแข่งรถชนะราชารถกาวลี่ แถมยังทำให้นักแข่งรถกาวลี่กลุ่มหนึ่งต้องคุกเข่าสำนึกผิด!”
“ให้พวกเราได้กดไลก์ให้กับเฉินเฟิง คืนนี้เขาคือฮีโร่ของชาวหวาเซี่ย!”
เกือบทุกคนที่ลงรูปหรือวิดีโอในโมเมนต์จะต้องพิมพ์คำบรรยายสักท่อนหนึ่ง หรือไม่ก็บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ หรือแสดงความคิดเห็นของตัวเอง
หนึ่งโพสต์ สองโพสต์ สามโพสต์……
โพสต์ในโมเมนต์มากมายถูกส่งจากสนามแข่งรถใต้ดินคุนซาน จากนั้นก็มีการแชร์และแสดงความคิดเห็นต่อๆกัน
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โมเมนต์ของชนชั้นสูงของทั้งหวาเซี่ยก็ปรากฏชื่อเฉินเฟิงอีกครั้ง!
และการกระทำของเฉินเฟิงในคืนนี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างล้นหลาม!
สิบนาทีต่อมาโมเมนต์ของคนทั้งหวาเซี่ยล้วนพูดถึงเรื่องนี้!
เฉินเฟิงกายเป็นคนดังในชั่วพริบตา!
สำหรับคนทั่วไปนั้นพวกเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงและไม่รู้ด้วยว่าเฉินเฟิงทำเรื่องดีๆอะไรไว้แต่หลังจากเห็นข่าวในคืนนี้แล้วต่างพากันกดไลก์และตั้งฉายาให้กับเฉินเฟิงว่าเป็นฮีโร่ของชนเผ่า!
ทว่าสำหรับตระกูลชั้นสูงเฉกเช่นตระกูลฉู่นั้นรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงอยู่แล้ว
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือเฉินเฟิงไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่น่าทึ่ง เรื่องการแข่งรถก็น่าทึ่งพอกัน!
ขณะที่โมเมนต์ของชาวหวาเซี่ยเต็มไปด้วยข่าวของเฉินเฟิง กระทู้ของสนามแข่งรถใต้ดินทั่วโลกก็ร้อนแรงอีกครั้ง!
กระทู้ที่นักแข่งรถกาวลี่และหวู่เหวินโป๋เคยโพสต์ก่อนหน้านี้ถูกยกเลิกและไม่ได้จัดอยู่ในกระทู้นิยมแล้ว ส่วนกระทู้ที่มาแทนที่สองกระทู้เก่าก็คือสองกระทู้นี้
“เฉินเฟิงนักแข่งรถแห่งหวาเซี่ยดริฟต์อย่างสวยงาม ใช้เวลาเพียง24นาทีในการแข่งขันที่สนามแข่งรถใต้ดินคุนซาน ทำลายสถิติของสนามนี้ซึ่งเขาใช้เวลาน้อยกว่าสถิติเดิมถึง5นาที ขณะเดียวกันก็ทำเวลาได้ดีกว่าผูชางจวู้นราชารถกาวลี่(32นาที)ถึง8นาที นำหน้าราชารถกาวลี่โดยสมบูรณ์!”
“ก่อนการแข่งขันผูชางจวู้นราชารถกาวลี่ลงพนันกับเฉินเฟิงด้วยสองชีวิตและเงินอีกหนึ่งพันล้านดอลล่าร์ ทว่าหลังจบการแข่งขันผูชางจวู้นกลับผิดคำพูด ไม่ยอมทำตามที่พนันกันไว้ สุดท้ายถูกบังคับให้คุกเข่าขอโทษ—นักแข่งรถกาวลี่แพ้การแข่งขันแถมยังเสียหน้า!”