ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 622
บทที่ 622 พรหมลิขิต
เนื่องจากสถานการณ์ไม่เหมาะสม เธอจึงไม่ได้ถามคำถามที่เธออยากรู้จากเฉินอิงไฉ
ทว่าตอนนี้เธอก็พึงพอใจมากแล้ว
อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าเฉินเฟิงอยู่ที่ยันเจียง
หลังจากนี้เพียงเธอใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือก็จะสามารถตามหาเฉินเฟิงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาถึงห้องพัก แอนนี่ก็รีบต่อสายหาแฮธาเวย์ในทันทีโดยไม่สนใจแม้แต่จะเปลี่ยนรองเท้าก่อน
เมื่ออีกฝ่ายรับสายแอนนี่ก็รีบเอ่ยปากอย่างร่าเริง “แฮธาเวย์ ฉันเจอเขาแล้ว!”
“เจอใคร?” แฮธาเวย์ที่อยู่อีกฟากของสายก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด เธอใช้อำนาจของตระกูลไปมากกว่าครึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวของเฉินเฟิงเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายแอนนี่กลับหาเจอโดยอาศัยงานเลี้ยงเพียงงานเดียว?
เธอหาเจอได้อย่างไร?
“แฮธาเวย์ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของหัวหน้าเขตเฉิน……”
แอนนี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานเลี้ยงให้แฮธาเวย์ฟังอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบัง
เมื่อฟังจบแฮธาเวย์ก็ตกตะลึง
หากเธอไม่รู้จักเฉินอิงไฉ เธอคงคิดว่าเฉินอิงไฉกำลังหลอกแอนนี่อยู่
บนโลกนี้จะมีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร?
“แฮธาเวย์ เธอคิดว่านี่เป็นพรหมลิขิตของฉันกับเขาหรือเปล่า?” แอนนี่หน้าแดง เธอนึกถึงคำพูดที่แฮธาเวย์เคยเอ่ย ทั้งสองคนขอเพียงมีวาสนาต่อกัน ถึงแม้จะไม่ตั้งใจตามหาสุดท้ายก็ได้พบเจอกันอยู่ดี
“ใช่ คงเป็นพรหมลิขิตของเธอกับเขาจริงๆ” แฮธาเวย์ยิ้มแหย คำพูดนี้ก่อนหน้านี้เธอเพียงต้องการปลอบใจแอนนี่เท่านั้น ทว่าตอนนี้แอนนี่กลับคิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้ว
“ฮิๆ แฮธาเวย์เธอช่วยฉันสืบหน่อยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน หลังจากงานเจรจาการลงทุนในวันพรุ่งนี้จบลง ฉันจะไปหาเขา” แอนนี่เอ่ยขึ้น
“ได้”
แฮธาเวย์ตอบรับอย่างเอือมระอา แอนนี่ในตอนนี้บ้าไปแล้ว……
ขณะเดียวกัน บริเวณชั้นล่างของโรงแรม เฉินอิงไฉมาส่งข้าราชการผู้มีอำนาจหลายคนจนถึงโรงจอดรถ
“เสี่ยวเฉิน วันนี้คุณทำได้ดีมาก พรุ่งนี้ก็พยายามต่อไปล่ะ”
คนที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้มีอำนาจของยันเจียงตบลงบนไหล่ของเฉินอิงไฉพลางเอ่ยชมการทำงานของเขาในค่ำคืนนี้ แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกก็ดูสนิทสนมขึ้นไม่น้อย
“ใช่แล้ว หัวหน้าเขตเฉิน การดึงดูดการลงทุนคงต้องพึ่งคุณแล้วล่ะ”
เมื่อคนเป็นหัวหน้าเอ่ยปาก คนอื่นๆก็พากันเอ่ยชมเฉินอิงไฉ
“หัวหน้าวางใจได้ครับ รับรองภารกิจสำเร็จแน่นอน!”
เฉินอิงไฉให้คำมั่นสัญญาอย่างมั่นใจด้วยใจที่เบิกบาน
เพราะเขารู้ดีว่าหากภารกิจดึงดูดการลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่น เขาไม่เพียงแต่ได้ผลงานเพิ่มในประวัติเท่านั้น เขายังสร้างความสนิทสนมกับผู้มีอำนาจของยันเจียงได้อีกด้วย
หากเป็นเช่นนั้นการทำงานของเขาในอนาคตก็จะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจ การงานก็จะก้าวหน้าได้โดยง่าย
หลังจากได้รับคำเอ่ยชมแล้ว เฉินอิงไฉก็ส่งข้าราชการผู้มีอำนาจทั้งหลายขึ้นรถพลางโบกมือลา
เมื่อเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้เขาจึงกลับไปยังรถของตัวเอง
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ภายในรถ หัวหลินแฟนสาวของเฉินอิงไฉที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเฉินอิงไฉสอดตัวเข้ามาในรถ
เธอรู้ว่าคืนนี้เฉินอิงไฉคงดื่มหนัก เธอจึงไม่ดื่มเพื่อที่จะขับรถพาเฉินอิงไฉกลับไปยังที่พักของตน
“ผมไม่เป็นไร ขอสูบบุหรี่สักมวนก่อนค่อยกลับ”
เฉินอิงไฉส่ายหน้าพลางตอบกลับอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็สูบบุหรี่ยี่ห้อหนานจิงเก้าห้าอยู่ในรถอย่างพึงพอใจ
“คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้ลูกเมียน้อยอย่างเฉินเฟิงจะรู้จักกับเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษ แถมความสัมพันธ์ยังไม่ธรรมดา” หัวหลินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง งานเลี้ยงที่ผ่านมาเมื่อสักครู่เธออยู่เคียงข้างเฉินอิงไฉตลอด ดังนั้นเธอจึงรู้ที่ไปที่มาของเรื่องเป็นอย่างดี
ทว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคงคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
ลูกเมียน้อยคนหนึ่งจะไปรู้จักคนในราชวงศ์ได้อย่างไร?
“ถึงแม้จะไม่น่าเชื่อ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เป็นประโยชน์กับผม คุณว่าผมควรจะขอบคุณไอ้ลูกเมียน้อยไหม?” เฉินอิงไฉเอ่ยอย่างขำขัน เขาไร้ซึ่งยางอายแถมยังรู้สึกเป็นเกียรติอีก
“พูดถึงเรื่องนี้ก็อดที่จะนับถือความหัวไวของคุณไม่ได้”
หัวหลินมองเฉินอิงไฉด้วยความรักและนับถือ เธอและเฉินอิงไฉเป็นคนประเภทเดียวกันที่คิดว่าผลลัพธ์สำคัญกว่าวิธีการ แม้แต่การใช้วิธีสกปรกเพื่อบรรลุเป้าหมาย
“คุณว่าลูกพี่ลูกน้องคนนั้นของผม หากมันรู้ว่าความสัมพันธ์ของมันและเจ้าหญิงแห่งอังกฤษทำให้ผมได้ผลงานชิ้นใหญ่ มันจะโมโหจนหมดสติไหม?” เฉินอิงไฉเอ่ยถามแปลกๆ
“ฮ่าฮ่า……”
หัวหลินได้ยินดังนั้นก็หัวเราะจนตัวโยน ราวกับว่าข้อสันนิษฐานของเฉินอิงไฉตลกนักหนา
เฉินอิงไฉเองก็หัวเราะ บนใบหน้าเขาปรากฏความพึงพอใจอย่างชัดเจน
ตอนนี้แอนนี่ยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเฉินอิงไฉและเฉินเฟิง เธอกำลังจินตนาการอยู่ว่าพรุ่งนี้ตอนเจอเฉินเฟิงจะเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกันเสียงของสาวใช้ก็ดังขึ้นนอกห้องอาบน้ำ “เจ้าหญิงเพคะ ชุดที่เจ้าหญิงต้องการหม่อมฉันเตรียมไว้ให้แล้ว เจ้าหญิงต้องการให้หม่อมฉันช่วยอาบน้ำไหมเพคะ?”
“ไม่ต้อง เธอไปรอฉันที่ห้องรับแขก”
แอนนี่เอ่ยปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดร่างกาย
ตอนเจ็ดโมงเช้า ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาถึงห้องสูทชั้นพิเศษ
เขาเป็นสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษทว่าไม่ใช่โดยตรง ตอนนี้เขาทำงานอยู่ในตำแหน่งสำคัญฝ่ายการคลัง มีอำนาจใหญ่โตอยู่ในมือ
ครั้งนี้เขาติดตามแอนนี่มาถึงยันเจียงในฐานะตัวแทนของราชวงศ์และตัวแทนของรัฐบาล
“สีหน้าเจ้าหญิงดูไม่ค่อยดีนักเป็นเพราะเจ็ทแลคเลยนอนไม่หลับหรือครับ?”
เมื่อเห็นแอนนี่ชายวัยกลางคนก็พบว่าแอนนี่ขอบตาคล้ำบวม ถึงแม้จะแต่งหน้าก็ยังกลบไม่มิด
“เหรอคะ?”
แอนนี่จับหน้าตัวเองอย่างตระหนก เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับจริงๆเพราะเมื่อคิดถึงเรื่องที่จะได้เจอเฉินเฟิง เธอก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ
ชายวัยกลางคนส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนเอ่ย “เจ้าหญิงตามกำหนดการของวันนี้ ตอนเก้าโมงเราต้องไปเข้าร่วมการประชุมกับฝ่ายรัฐบาลที่เมืองยันเจียง ข้าราชการคนสำคัญของทางหวาเซี่ยจะมาพบเรา จากนั้นข้าราชการของทางยันเจียงจะอธิบายสภาพการณ์ลงทุนและสิทธิพิเศษแก่เราโดยใช้ppt”
“ตอนบ่ายเราจะตามข้าราชการของยันเจียงและนักธุรกิจไปประเมินและตรวจสอบพื้นที่จริง หากเจ้าหญิงพักผ่อนไม่เพียงพอ กระผมแนะนำให้เจ้าหญิงเข้าร่วมเฉพาะการประชุมในช่วงเช้า ไม่ต้องลงพื้นที่จริงในช่วงบ่ายแล้ว” ชายวัยกลางคนรายงานกำหนดการและเสนอความคิดเห็น
“เดี๋ยวช่วงเที่ยงค่อยว่ากันใหม่”
แอนนี่ตอบกลับก่อนเอ่ยถาม “อ้อใช่แล้ว อามู่เล่อมาหาฉันถึงที่นี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เรียนเจ้าหญิงที่เคารพ ข้าราชการของยันเจียงที่ชื่อเฉินอิงไฉมาถึงโรงแรมพร้อมกับขอร่วมรับประทานอาหารเช้าพร้อมเจ้าหญิง กระผมให้เขารอคำตอบจากเจ้าหญิงอยู่ที่ห้องโถง” ชายวัยกลางคนนามว่ามู่เล่อบอกจุดประสงค์ของการมาเยือน
“บอกเขาว่าฉันจะรีบลงไป”
เมื่อได้ยินคำตอบจากมู่เล่อ แววตาหม่นหมองของแอนนี่ก็เป็นประกายทันที ใบหน้าสมบูรณ์แบบราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย