ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 629
บทที่ 629 เกียรติของเฉินเฟิง
“เฟิงที่รัก เฉินอิงไฉคนนั้นน่ารังเกียจมากจริงๆ เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และน่ารังเกียจที่สุด เท่าที่ฉันเคยพบเจอ”
“คุณคงไม่ถือสาถ้าฉันจะลงโทษเขาใช่ไหมคะ?” ขณะที่พูด แอนนี่ก็เอ่ยถาม
บทลงโทษที่เธอพูดถึง ก็คือการดับอนาคตข้าราชการของเฉินอิงไฉ
เธอรู้ดี สำหรับเฉินอิงไฉที่อยู่ในตระกูลใหญ่แบบนี้ การดับอนาคตข้าราชการของเขา ทำให้เขาเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าฆ่าเขา
“ไม่ถือสาครับ” เฉินเฟิงยิ้ม อย่างที่เขาพูด เขาไม่เคยเห็นตัวตลกอย่างเฉินอิงไฉอยู่ในสายตา
ดังนั้น เขาไม่มีทางเป็นฝ่ายขอร้องให้แอนนี่ทำอะไรเฉินอิงไฉ
แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าแอนนี่คิดจะจัดการเฉินอิงไฉ เขาเองก็ไม่มีวันห้าม
เวลาต่อจากนั้น แอนนี่เหมือนเด็กน้อยช่างสงสัย เธอทั้งสงสัยและสนใจเรื่องของเฉินเฟิง แทบจะถามคำว่าเพราะอะไรเป็นแสนครั้ง
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้ถามเรื่องความรักของเฉินเฟิง
คล้ายกับว่า เธอจงใจที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องนี้
หลังจากสองชั่วโมงผ่านไป อาคารค่ำได้จบลงแล้ว อาหารบนโต๊ะเหลือแค่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนมากล้วนถูกเฉินเฟิงกินไปเกือบหมด เหล้าMoutaiเหลือแค่ก้นขวดเท่านั้น
“เฟิงที่รัก นี่เป็นอาหารค่ำที่ฉันเคยกินแล้วมีความสุขที่สุดในชีวิตของฉัน เหล้าของหวาเซี่ยรสชาติดี อาหารก็อร่อยเหมือนอย่างที่ร่ำลือ แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ฉันได้เจอคุณอีกครั้ง”
แอนนี่พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้เธอจะดื่มเหล้าไปแค่ครึ่งขวด แต่เวลานี้หน้าที่สวยเหมือนตุ๊กตาของเธอเริ่มแดงระเรื่อ ดวงตาสีฟ้าครามราวกับอัญมณีสีน้ำเงินเต็มไปด้วยความเปล่งประกาย ทำให้เธอน่าดึงดูดมากขึ้น
“พวกเราไปกันเถอะครับ ผมพาคุณออกไปดูข้างนอก” เฉินเฟิงยิ้ม จากนั้นพาแอนนี่เดินออกไปห้องอาหาร
ด้านนอกห้องอาหาร บอดี้การ์ดของแอนนี่ราวกับเป็นรูปปั้นแกะสลัก พวกเขายืนตัวตรง ไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่งเฉิงเฟิงและแอนนี่เดินออกไป พวกเขาจึงโค้งตัวลงแล้วกล่าวทักทาย:“องค์หญิง คุณเฉิน”
“ล็อกเคอร์ เฉินเฟิงจะพาฉันไปเดินเล่นที่หาด นายไม่ต้องตามมา” แอนนี่พูด
“ครับ องค์หญิงที่เคารพ”
ล็อกเคอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเห็นด้วยกับการตัดสินใจของแอนนี่ จากนั้นพูดกับเฉินเฟิงด้วยสีหน้าเคารพ:“ผมเชื่อในความสามารถของคุณเฉินครับ ทั่วทั้งหวาเซี่ยนี้ ไม่มีใครสามารถทำอันตรายองค์หญิงได้”
เฉินเฟิงได้ยินแบบนี้ เขารู้ทันทีว่าฝ่ายนั้นรู้เรื่องของตน จึงคลายยิ้มบางๆ แล้วพูด:“ขอบคุณในความเชื่อใจของคุณครับ ผมจะส่งแอนนี่กลับโรงแรมอย่างปลอดภัย”
สิ้นเสียง เฉินเฟิงพาแอนนี่ออกไปจากร้านอาหาร เดินตรงไปยังหาด
เดินผ่านถนนที่เจริญรุ่งเรืองของถนนหนานจิง จนมาถึงหาดที่แสงไฟส่องสว่าง ตลอดทางที่เดินมานั้นแอนนี่ทิ้งความเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษที่สูงศักดิ์และสง่างาม เธอเหมือนนกน้อยออกจากกรง กระโดดโลดเต้น พูดร้องตะโกน อย่างมีความสุข
ถึงแม้จะพูดกันว่าทุกวันนี้หวาเซี่ยมีคนต่างชาติมากมาย อีกทั้งยังไม่ขาดเหลือสาวสวยที่เป็นชาวต่างชาติ แต่ตลอดทางที่เดินมานั้นแอนนี่ดึงดูดสายตาผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน เฉินเฟิงเองก็กลายเป็นผู้ชายที่มีคนอิจฉา
“เฟิงที่รัก ขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนฉันนะคะ คืนนี้ฉันมีความสุขมากค่ะ”
หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป แอนนี่ยืนอยู่ตรงริมชายหาด มองดูทิวทัศน์ของชายหาดยามค่ำคืน เธอโน้มตัวพิงหัวไหล่ของเฉินเฟิงเหมือนนกน้อย ลมยามค่ำคืนพัดผ่าน พัดผมสีบรอนด์ทองยาวสลวยของเธอ ปิดบังใบหน้าสวยของเธอเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถปกปิดหัวใจที่เต้นแรงของเธอได้
“คุณมีความสุขก็ดีแล้วครับ ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ผมส่งคุณกลับไปไหมครับ?” เฉินเฟิงยิ้ม แล้วเอ่ยถาม
“ค่ะ”
เสียงของเฉินเฟิงดังขึ้นที่ข้างหู แม้ว่าแอนนี่อยากให้เฉินเฟิงอยู่กับเธอนานกว่านี้ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดออกไป
สี่สิบนาทีผ่านไป เฉินเฟิงขับรถส่งแอนนี่ไปถึงโรงแรม
“เฟิงที่รัก ขึ้นไปดื่มไวน์บนห้องฉันไหมคะ แล้วคุยกันอีกสักพัก” หน้าประตูทางเข้าโรงแรม แอนนี่ยังคงอาลัยอาวรณ์ไม่อยากแยกกัน ในเวลาเดียวกันที่เธอพูดชวนเฉินเฟิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ไม่ดีกว่าครับ ผมยังมีเรื่องต้องจัดการ ถ้าพรุ่งนี้คุณมีเวลาว่าง โทรมาหาผมได้นะครับ”
เฉินเฟิงปฏิเสธอย่างรักษามารยาท
เขารู้ว่าที่แอนนี่บอกให้ขึ้นไปดื่มไวน์ด้วยกันมันหมายความว่าอะไร แต่เขาในวันนี้ เป็นผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว
ขอบเขตบางอย่าง เขาไม่มีวันทำลายมันทิ้ง
อย่างรวดเร็ว วันที่สองก็มาถึง
แม้ว่าอาหารค่ำเมื่อคืน เฉินเฟิงไม่ได้พูดเรื่องลงทุนของบริษัทอังกฤษแม้แต่นิดเดียว แต่เช้าวันที่สอง แอนนี่ก็พาคณะผู้นำทางธุรกิจบริษัทอังกฤษไปยังห้องสัมมนาจาวซางของยันเจียง ที่นี่คือสถานที่ที่จัดให้มีการประชุมเพื่อเชิญชวนเพื่อร่วมลงทุนของบริษัทอังกฤษโดยเฉพาะ
แอนนี่มาที่นี่ แน่นอนว่าเพื่อให้บริษัทอังกฤษร่วมลงทุนกับยันเจียง
แต่การลงทุนในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของเฉินอิงไฉ แต่เพราะเห็นแก่หน้าของเฉินเฟิง
เป็นเพราะเฉินเฟิง เธอจึงร่วมลงทุนกับยันเจียง
ข้อนี้ เมื่อคืนเธอบอกกับเซ่หย่วนอย่างชัดเจนแล้ว
หลังจากที่แอนนี่และคณะผู้บริหารระดับสูงมาถึง นำโดยเซ่หย่วน เป็นคนพาข้าราชการระดับสูงออกมาต้อนรับ ท่าทีของผู้เขากระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
การประชุมผ่านไปอย่างราบรื่น เริ่มจากคนของหวาเซี่ยเป็นฝ่ายพูดก่อน เซ่หย่วนพูดจากมุมมองของหวาเซี่ยและยันเจียง เกี่ยวกับลงทุนและนโยบายทางด้านสิทธิพิเศษต่างๆ ของหวาเซี่ยและยันเจียง โดยมีการบรรยายร่างแผนการอย่างละเอียดที่ทำให้คนพากันคาดหวัง
หลังจากเซ่หย่วนบรรยายจบ นักธุรกิจของประเทศอังกฤษก็เริ่มสอบถามข้อสงสัยทางด้านการลงทุน โดยมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องในแผนกต่างๆและแผนกเชิญชวนร่วมลงทุนของยันเจียง รวมถึงจางตั๋วซึ่งเป็นคนที่มีความสามารถเป็นอันดับสองของเขตฝางซานคอยตอบข้อสงสัย บรรยากาศภายในงานเป็นไปได้ด้วยดี
“ต่อจากนี้ขอเชิญองค์หญิงแอนนี่ที่เคารพขึ้นมากล่าวครับ”
วาระสุดท้ายของการประชุม เซ่หย่วนที่เป็นพิธีกร ได้เชิญแอนนี่ขึ้นมาพูด ทำให้เกิดเสียงปรบมือดังก้อง
“หวาเซี่ยมีประวัติที่ยาวนานและวัฒนธรรมที่งดงาม เป็นหนึ่งในสี่ของประเทศโบราณ”
“ก่อนจะมาหวาเซี่ยในครั้งนี้ โดยมากฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับหวาเซี่ยจากหนังสือเท่านั้น ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันมาถึงหวาเซี่ย ฉันได้ชื่นชมความสวยงามของหวาเซี่ย กินอาหารเลิศรสของหวาเซี่ย ชื่นชมขนบธรรมเนียมของหวาเซี่ย ทั้งหมดนี้มอบความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับฉัน และทำให้ฉันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆกับประเทศที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์นี้
“เมื่อครู่ ฉันได้ฟังคุณเซ่หย่วนและข้าราชการคนอื่นๆตอบคำถามเรื่องการลงทุนแล้ว ฉันพอใจกับการร่วมลงทุนกับหวาเซี่ยมาก และคาดหวังกับการลงทุนนี้ ฉันข้อพูดสองข้อที่นี่นะคะ”
“ข้อแรก ฉันและนักธุรกิจชาวอังกฤษทุกคนต่างคาดหวังกับการลงทุนของยันเจียงตลอดไปจนถึงหวาเซี่ย พวกเราให้ความสนใจกับการลงทุนนี้มาก และพวกเราได้เปลี่ยความสนใจเป็นการลงมือทำแล้ว——หลังจากนี้ ฉันขอเป็นพยานของคุณมู่เล่อซึ่งเป็นตัวแทนนักธุรกิจที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถของพวกเราในการร่วมเซ็นสัญญาการลงทุนกับยันเจียงค่ะ