ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 633
บทที่ 633 หนังสือท้าประลอง
คิดถึงตรงนี้ จิ่งเถิงปรายตามองมู่หยางด้วยสายตาเย็นยะเยือก:“มู่หยาง ใช้ชื่อของฉัน ส่งหนังสือท้าประลองไปให้เฉินเฟิงคนนั้น——สิบวันต่อจากนี้ ฉันจะไปเอาชีวิตของมันที่ทะเลสาบตะวันตก!”
“ครับ คุณชาย!”มู่หยางรับคำสั่งด้วยความดีใจ เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ จากความสำเร็จในการต่อสู้ของเฉินเฟิงช่วงที่ผ่านมานี้ ทำให้จิ่งเถิงอยากจะท้าประลอง
ต่อจากนั้น จิ่งเถิงจะปรากฏตัวในแบบที่ทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน!
วันนี้
ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งลาศีล ท้าประลองกับเฉินเฟิงด้วยชีวิต
ข่าวนี้ราวกับมีปีก แพร่สะพัดไปทั่วหวาเซี่ยและวงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก ทำให้เกิดความตกตะลึงเป็นอย่างมาก
และเพราะความพิเศษของเฉินเฟิง บวกกับเรื่องต่างๆที่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้ทำให้ชนชั้นสูงของหวาเซี่ยและคนทั้งโลกพากันสนใจอย่างมาก!
ตระกูลจิ่งคืออะไร?
จิ่งเถิงเก่งมากหรอ?
หลังจากข่าวแพร่ออกไป นอกจากคนส่วนน้อยที่รู้ข้อมูลของตระกูลจิ่งแล้วนั้น แทบจะภายในใจของคนส่วนมากทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความสงสัย
จากอำนาจ ถึงแม้เฉินเฟิงจะเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเฉิน แต่หลังจากผ่านการเดิมพันระหว่างสมาคมการค้าจงไห่และสมาคมการค้าเชียสุ่ย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเฉินเฟิงมีอำนาจในสมาคมการค้าจงไห่
อย่างน้อยตระกูลฉู่ของจงไห่ยืนอยู่ข้างเดียวกับเฉินเฟิงอย่างเด่นชัด
นอกจากตระกูลฉู่แล้ว เฉินเฟิงยังได้รับการปกป้องและสนับสนุนจากหวู่หวินโป๋ รวมถึงมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่อัจฉริยะหวังเฉียน
แค่อำนาจเหล่านี้ ก็เพียงพอให้ตระกูลส่วนมาในหวาเซี่ยหวาดกลัว
ยิ่งไปกว่านั้นอย่าได้พูดถึงความสามารถของเฉินเฟิงเลย
เขาเป็นถึงจอมยุทธ์ที่บรรลุระดับหั้วจิ้งเร็วที่สุดในหวาเซี่ย!
อีกทั้ง เขายังฆ่านินจาชั้นสูงที่ประเทศญี่ปุ่นไปสองคน รวมถึงอันดับเทพผู้แข็งแกร่งอีกสองคน โศกนาฏกรรมของญี่ปุ่นสั่นสะเทือนไปทั่วโลก!
อีกทั้ง ในตอนหลังทั่วทั้งญี่ปุ่นได้มีการปิดล้อมจับกุมทั่วทั้งประเทศ แต่เขาก็ยังมีชีวิตรอดหนีออกมาจากญี่ปุ่นได้
ตามหลักการแล้ว เวลานี้เฉินเฟงควรจะมีตำแหน่งในอันดับเทพ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ฆ่าอันดับเทพผู้แข็งแกร่งไปสองคน
และเหตุที่เขาไม่มีชื่ออยู่บนอันดับเทพ กล่าวกันว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้ความสามารถของตนเองในการฆ่าอันดับเทพผู้แข็งแกร่งทั้งสอง แต่ใช้อาวุธ
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เขาก็ถูกรัฐบาลของแต่ละประเทศประกาศว่าเป็นบุคคลอันตรายระดับSSS!
หนึ่งในคนที่อันตรายที่สุดในโลก!
ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งในปัจจุบันจิ่งเถิง จู่ๆกลับออกมาประกาศท้าประลองกับเฉินเฟิง จะไม่ให้เป็นที่ตื่นตกใจได้ยังไง?
ตระกูลเฉินยันเจียง ห้องหนังสือของเฉินโป๋ยุง
“ที่รัก จิ่งเถิงคนนั้นคือเรื่องอะไรหรอคะ? เขาเป็นคนที่คุณหามา?”
หวังซิ่วหลันซึ่งเป็นแม่ของเฉินอิงไฉเอ่ยถามเฉินโป๋ยุง เธอไม่รู้แผนการก่อนหน้านี้ของเฉินโป๋ยุง
ตั้งแต่ลูกสาวเฉินอิงโรถูกเฉินเฟิงทำร้ายจนขาหัก เธอก็อยู่ต่างประเทศคอยหาหมอชื่อดังมาโดยตลอด เพราะอยากต่อกระดูกที่ขาให้ลูกสาว
แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนั้นเฉินเฟิงทำรุนแรงมาก
เขาทำให้กระดูกของเฉินอิงโรแหลกเป็นผง ไม่มีความหวังในการรักษาแม้แต่น้อย
ภายใต้ความจนปัญญา เธอทำได้เพียงยอมตัดใจเรื่องการรักษาเฉินอิงโร แล้วเปลี่ยนเป็นคิดหาวิธีแก้แค้นเฉินเฟิง
“อืม”
เฉินโป๋ยุงพยักหน้า แล้วพูดต่อ:“จิ่งเถิงคนนั้นผมเป็นคนหามาเอง”
“คุณหาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ตระกูลจิ่งนั้นเชื่อถือได้ไหม?” หวังซิ่วหลันอดไม่ได้ที่จะถาม
“ผมหาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว แน่นอนว่าตระกูลจิ่งเชื่อถือได้” เฉินโป๋ยุงหัวเราะ แล้วพูด:”คุณคงไม่รู้ ตระกูลจิ่งคือศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหวาเซี่ย พวกเขามีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปีแล้ว”
“พวกเขามีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน พื้นฐานศิลปะการต่อสู้ของพวกเขา ก็ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก!”
“หัวหน้าตระกูลของพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณผม ครั้งนี้ผมกำชับบอกกับพวกเขาว่าทำเพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวและลูกชาย”
“แก้แค้นให้ลูกสาวและลูกชาย ทำไมไม่ให้ผู้แข็งแกร่งที่เป็นระดับผู้อาวุโสของตระกูลจิ่งเป็นคนจัดการคะ?” หวังซิ่วหลันเอ่ยถาม
“ถ้าระดับผู้อาวุโสของตระกูลจิ่งลงมือจัดการด้วยตนเอง ทางสหพันธ์บูโดจะกล่าวโทษได้ อีกทั้งแพร่ออกไปก็ทำให้ชื่อเสียงไม่ดีอีกด้วย”
“ดังนั้น ให้ผู้สืบทอดของตระกูลจิ่งลงมือ โดยใช้การท้าประลองแอบอ้างเพื่อฆ่าไอ้ลูกเมียน้อยนั่น เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว” เฉินโป๋ยุงอธิบาย
“เท่าที่ฉันรู้ ไอ้ลูกเมียน้อยที่สมควรโดนดาบฟันเป็นพันครั้ง ถูกขนานนามว่าชายหนุ่มอันดับหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย คุณแน่ใจหรอคะว่าจิ่งเถิงอะไรนั่นสามารถฆ่ามันได้?” หวังซิ่วหลันถามอีกครั้ง เธอไม่แคร์ว่าตระกูลจิ่งจะเป็นยังไง เธอสนใจแค่ว่าจสามารถฆ่าเฉินเฟิงได้รึเปล่า เธอต้องการแก้แค้นให้ลูกสาว
“ซิ่วหลัน คุณไม่รู้อะไร ชื่อเรียกของไอ้ลูกเมียน้อยนั่นเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น ชนชั้นสูงของสหพันธ์ต้องการให้มีเทพการต่อสู้จึงสร้างเรื่องขึ้นมา”
“แต่จิ่งเถิงของตระกูลจิ่งนั้นไม่เหมือนกัน ในหวาเซี่ย นอกจากเส้าหลิน บู๊ตั๊งที่มีอิทธิพลด้านวิทยายุทธที่ที่โลกรู้แล้ว ยังมีอิทธิพลด้านวิทยายุทธที่แอบซ่อนเอาไว้ ซึ่อิทธิพลด้านวิทยายุทธที่แอบซ่อนเอาไว้เหล่านี้ มีอิทธิพลด้านวิทยายุทธแข็งแกร่งกว่าเหล่าสำนักที่โลกรู้ไม่น้อยกว่าสิบเท่าร้อยเท่า!”
“ตระกูลจิ่งคือตระกูลที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาอิทธิพลด้านวิทยายุทธที่แอบซ่อนเอาไว้ จิ่งหยุนเฟิงซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลจิ่งความสามารถด้านการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก จากคำร่ำลือ เขาคือคนที่สิบปีที่ผ่านมานี้มีความหวังว่าจะสามารถบรรลุเป็นจอมยุทธ์หัวจิ้งขั้นสูงสุด! ส่วนจิ่งเถิงนั้นเป็นหลานชายของเขา ได้รับการถ่ายทอดวรยุทธ์จากเขาโดยตรงตั้งแต่เด็ก ในเมื่อวันนี้เขาส่งจิ่งเถิงออกมา แสดงว่าต้องไม่มีปัญหาแน่นอน” เฉินโป๋ยุงพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ!”
ได้ฟังคำพูดของเฉินโป๋ยุงอีกครั้งหนึ่ง หวังซิ่วหลันหัวเราะในลำคอ “ตั้งแต่อิงโรถูกทำร้ายอย่างสาหัส เดิมทีฉันคิดว่าลูกจะเศร้าไปตลอดชีวิต ตอนนี้คิดว่าคงไม่เป็นแบบนั้นแล้ว”
“อื้ม คุณรีบบอกเรื่องนี้กับอิงโรเถอะ เธอจะได้มีแรงฮึดขึ้นมา พยายามมีชีวิตอยู่ต่อ ส่วนเรื่องขาของลูก…..วันข้างหน้าพวกเราค่อยคิดหาวิธีกัน” เฉินโป๋ยุงบอก
“ค่ะ!”
หวังซิ่วหลันพยักหน้า แล้วเดินออกไปจากห้องหนังสือ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
โรงพยาบาลรักษาตัวแห่งหนึ่งในยันเจียง
เฉินอิงโรที่นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง รู้ว่าจิ่งเถิงซึ่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่งกำลังจะฆ่าเฉินเฟิงโดยใช้การท้าประลองมาแอบอ้าง
“ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากรู้ข่าวนี้ เฉินอิงโรที่เดิมทีมีชีวิตอยู่เหมือนซากศพ ราวกับได้ยินเรื่องที่มีความสุขที่สุดในชีวิต เธอหัวเราะเสียงดังราวกับเป็นคนบ้า จากนั้นใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความแค้นและดีใจ
“เฉินเฟิง ไอ้สวะอย่างแก! แกทำร้ายจนขาของฉันต้องหักแล้วยังไงเล่า!”
“อีกไม่นานแกก็จะตายแล้ว ส่วนฉันยังมีชีวิตอย่างสุขสบาย ! ทั้งยังมีชีวิตอยู่อีกนาน!”
“รอก่อนเถอะ รอวันที่ฉันกลับมายืนได้ไหม ฉันจะขุดศพของแกออกมา แล้วสับให้หมากิน!”
…………
ขณะที่เฉินอิงโรรู้ว่าเฉินเฟิงกำลังจะถูกฆ่า แล้วกลับมามีแรงฮึกเหิมในการมีชีวิตอยู่นั้น ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไปพันลี้ สำนักงานใหญ่เสินอิ่นที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ผู้ดูแลสำนักจัานถังเสินอิ่นคนใหม่ได้เรียกรวมตัวสมาชิกคนสำคัญของเสินอิ่น
“วันนี้ ฉันเรียกทุกคนมารวมตัวกัน เพราะเรื่องของไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง คิดว่าทุกคนคงได้ยินเรื่องนี้แล้ว——หวาเซี่ยศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ จิ่งเถิงซึ่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่งได้เข้ามายุ่งกับโลกภายนอกแล้ว เขาประกาศท้าประลองกับไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง!”
เริ่มการประชุม ผู้ดูแลเสินอิ่นคนใหม่เป่ยจายเห้าเอ้อเอ่ยปากพูดก่อน แล้วพูดขึ้น:“โดยมีเปียนตู้คอยชี้แจงที่มาที่ไปของตระกูลจิ่งให้ทุกคนฟัง ในเวลาเดียวกันก็จะมีการวิเคราะห์ผลการต่อสู้ จากนั้นพวกเราก็มาตัดสินโดยอาศัยผลการวิเคราะห์ของเปียนตู้ว่าจะทำตามแผนเดิมที่เรากำหนดไว้ก่อนหน้านี้ไหม”