ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 638
บทที่ 638 การรวมตัวของยักษ์ใหญ่
เหมือนดูออกว่าจิ่งหยุนหลินสงสัย มู่หยางหัวเราะแล้วพูดอธิบาย:“อาจิ่ง จากข้อมูลที่พวกเรามีนั้น เฉินเฟิงเป็นคนที่ปกป้องครอบครัวของตนเองมาก เขาทนเห็นคนรอบข้างถูกรังแกไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าภรรยาของเขาถูกผมเอามาเป็นสาวใช้ เช่นนั้นเขาก็ต้องมาหาเรื่องผม ถึงเวลานั้น คุณชายก็สามารถลงมือฆ่าเฉินเฟิงได้!”
“แผนการนี้ไม่เลว” ได้ฟังคำพูดของมู่หยาง ดวงตาของจิ่งหยุนหลินเป็นประกายทันที อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม สำหรับอัจฉริยะอย่างเฉินเฟิง ไม่มีอะไรที่จะเสียศักดิ์ศรีได้เท่ากับภรรยาตนเองกลายเป็นสาวใช้ของอู่ถงอีกแล้ว
“เมื่อเทียบกับแผนการนี้ ความเป็นจริงฉันหวังว่าไอ้ขี้ขลาดที่มีชื่อเสียงจอมปลอมสามารถรับคำท้ามากกว่า ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะใช้วิธีที่แข็งแกร่งที่สุดในการฆ่ามัน จากนั้นให้ผู้หญิงของมันคุกเข่าต่อหน้ามู่หยาง อ้อนวอนขอเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้มู่หยาง!”จิ่งเถิงพูดด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราด
ในสายตาของเขา ภรรยาของเฉินเฟิงมาเป็นสาวใช้ของมู่หยาง ถือว่าเล่นของสูงแล้ว
“แบบนี้ก็ดี การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับโชคชะตา จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาด้วย” จิ่งหยุนหลินพยักหน้า แม้ว่าเฉินเฟิงจะถูกตระกูลเฉินลบชื่อออกจากตระกูล แต่ถึงยังไงเขาก็มีเส้นสายที่แข็งแกร่งในสังคม ที่สามารถใช้ทรัพยากรและพลังจากหลายด้าน ถ้าใช้วิธีการที่ต่ำช้า ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลจิ่ง ทว่าถ้าฆ่าตอนที่ประลองกันนั้น ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้
ในเวลาเดียวกัน
ฉู่ชีงฉือและโจวอู่เซิงก็มาถึงทะเลสาบตะวันตกแล้ว
“คุณหนู ถ้าจะให้ผมพูด พวกเรากลับกันเถอะ จนถึงทุกวันนี้เฉินเฟิงยังไม่ปรากฏตัวออกมา ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะหลีกเลี่ยงการประลอง” มองดูสีหน้ายึดมั่นของฉู่ชีงฉือ โจวอู่เซิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเศร้าแล้วพูด
“คุณปู่โจว ฉันได้โทรไปถามคนที่อยู่รอบตัวเขาแล้ว ตอนนี้เฉินเฟิงกำลังเก็บตัวถือศีล ถ้าถึงวันกำหนด แล้วเขายังไม่ลาศีล ก็จะมีคนบอกเรื่องท้าประลอง ฉันคิดว่าถึงเวลานั้นเขาต้องรับคำท้าอย่างแน่นอน”
เผชิญหน้ากับคำเกลี้ยกล่อมของโจวอู่เซิง ฉู่ชีงฉือไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เธอไปที่ยันเจียงมาแล้ว แต่ไม่ได้เจอเฉินเฟิง ดังนั้นครั้งนี้ เธอจึงมาที่ทะเลสาบตะวันตก จากที่เธอรู้จักเฉินเฟิง เธอรู้สึกว่าเฉินเฟิงไม่มีวันหลีกเลี่ยงการประลองอย่างแน่นอน!
“แต่ว่า คุณหนู ผมจำได้ว่าวันมะรืนคุณหนูมีโปรเจคสำคัญที่ต้องไปคุย ถ้าเฉินเฟิงไม่รับคำท้า คุณหนูก็มาเสียเปล่าสิครับ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้วย……” โจวอู่เซิงอดไม่ได้ที่จะพูดเตือน
ทว่าฉู่ชีงฉือกลับส่ายหน้า:“คุณปู่โจว แค่การค้าเดียวเท่านั้น ทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร สำหรับฉันแล้ว เรื่องของพี่เฟิงคือเรื่องใหญ่”
“ครับ” โจวอู่เซิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะอยู่ที่ทะเลสาบตะวันตกกับคุณหนู ประจวบเหมาะจะได้รู้จักเฉินเฟิงด้วย ดูสิว่าเขามีความสามารถแค่ไหน ถึงทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ทั้งหวาเซี่ยให้ความเคารพนับถือ อีกทั้งยังสามารถทำให้คุณหนูยอมทิ้งงานอย่างไม่เสียดาย”
…………
เกสต์เฮาส์ซีหูตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบตะวันตก สามด้านติดกับทะเลสาบ หนึ่งด้านติดกับภูเขา ขนาดกว้าง360,000ตารางเมตร เหตุเพราะสิ่งแวดล้อมรอบๆสวย อาคารสร้างขึ้นได้สวยงาม ตกแต่งอย่างหรูหราจนขึ้นชื่อว่าเป็นเกสต์เฮาส์อันดับหนึ่งของทะเลสาบตะวันตก
เหตุเพราะเฉินเฟิงและจิ่งเถิงนัดประลองกันที่ทะเลสาบตะวันตก ทำให้เวลานี้ทั้งเกสต์เฮาส์ซีหูเต็มไปด้วยแขกเหรื่อ
นอกจากผู้อาวุโสของวงการศิลปะการต่อสู้บางคนแล้ว ยังมียักษ์ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกมาด้วย
“บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูหาง(ซูโจวและหางโจว) สิ่งแวดล้อมของทะเลสาบตะวันตกไม่ได้โอ้อวดจริงๆ แม้ว่าทั้งสี่ฤดูของหนานคุนจะเหมือนฤดูใบไม้ผลิ แต่เมื่อเทียบกับทะเลสาบตะวันตก โดยเฉพาะโดยรอบทะเลสาบตะวันตก ทำให้รู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่าง”
ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้น ชายหนุ่มวัยกลางคนใบหน้าเกลี้ยงเกลาเพิ่งจบการฝึกซ้อมช่วงเช้า โดยมีผู้ที่ปรึกษาคอยอยู่เป็นเพื่อน เดินเล่นไปด้วย พลางชื่นชมดอกบัวของเกสต์เฮาส์ซีหู
ชายหนุ่มวัยกลางคนหน้าตาเกลี้ยงเกลาชื่อว่าเจี่ยหวั้นเหา คือฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียงของโลกตะวันตกเฉียงใต้หวาเซี่ย ฉายาที่คนเรียกคือกษัตริย์ตะวันตกเฉียงใต้!
เขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสในจำนวนมากมายที่เร่งเดินทางมาทะเลสาบตะวันตก
“ท่านเจี่ย ทะเลสาบตะวันตกนี้เป็นสถานที่ที่ชื่นชอบของบัณฑิตตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นสถานที่ที่จักรพรรดินายกรัฐมนตรีมาเที่ยวเล่น แน่นอนว่าต้องมีความพิเศษเป็นของตนเอง” หลังจากเจี่ยหวั้นเหาพูดประโยคนี้จบ ผู้ที่ปรึกษาหลี่ฉือยิ้มแล้วรีบตอบ
“ตื๊ด~”
สิ้นเสียงของหลี่ฉือ ไม่รอให้เจี่ยนหวั้นเหาพูด โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่น
เจี่ยหวั้นเหาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เห็นว่าเป็นลู๋เจิ้งเฟิงซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งหนานกังโทรมา
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณลู๋”
รับสายลู๋เจิ้งเฟิง เจี่ยหวั้นเหารู้ดีแก่ใจถึงสาเหตุที่ฝ่ายตรงข้ามโทรมา แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน เพียงแค่ยิ้มแล้วทักทายตอนเช้าเท่านั้น
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ใหญ่เจี่ย” ปลายสาย ลู๋เจิ้งเฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเกรงใจเหมือนกัน จากนั้นเปลี่ยนบทสนทนา แล้วเอ่ยถาม:“พี่ใหญ่เจี่ย ผมได้ยินว่าพี่ไปถึงทะเลสาบตะวันตกแล้ว?”
“ข่าวของคุณลู๋แม่นยำมากเลยนะครับ ผมเพิ่งมาถึง คุณก็รู้แล้ว——คุณคงไม่ได้ส่งคนมาสะกดรอยตามผม คิดไม่ซื่อกับผมใช่ไหม?” เจี่ยหวั้นเหาหัวเราะแล้วพูดหยอกล้อ คนระดับพวกเขาล้วนต้องให้ความสนใจเรื่องของกันและกัน ลู๋เจิ้งเฟิงรู้ว่าเขามาถึงทะเลสาบตะวันตก ไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆ ผมกลัวแค่ว่าตนเองมีใจคิดไม่ซื่อแต่ก็ไม่กล้าทำนะสิครับ”
ลู๋เจิ้งเฟิงหัวเราะฮ่าๆ จากนั้นก็ไม่พูดอ้อมค้อมอีก พูดตรงประเด็นทันที “พี่ใหญ่เจี่ย เท่าที่ผมรู้ จนถึงทุกวันนี้เฉินเฟิงยังไม่รับคำท้าของผู้สืบทอดตระกูลจิ่งเลย พี่รีบไปทะเลสาบตะวันตกแบบนี้ มีข้อมูลภายในอะไรรึเปล่า? สะดวกบอกผมหน่อยไหม?”
“คุณลู๋ประเมินผมสูงเกินไปแล้ว ผมจะมีข้อมูลภายในอะไรได้ยังไง” เจี่ยหวั้นเหายิ้มเศร้า
“ในเมื่อพี่ใหญ่เจี่ยไม่มีข้อมูลภายใน ทำไมต้องรีบเดินทางไปที่ทะเลสาบตะวันตกด้วย?” ลู๋เจิ้งเฟิงไม่เข้า
“ผมไม่มีข้อมูลภายใน และไม่รู้ว่าทำไมเฉินเฟิงถึงไม่ยอมให้คำตอบเรื่องคำท้าของจิ่งเถิงนั่นสักที ที่ผมมานั้น เป็นเพราะคิดว่าเขาต้องรับคำท้าอย่างแน่นอน”
เจี่ยหวั้นเหาตอบในสิ่งที่ลู๋เจิ้งเฟิงต้องการ จากนั้นหัวเราะแล้วพูดหยอกล้อ “นอกจากนี้ผมรู้สึกว่าทะเลสาบตะวันตกสภาพแวดล้อมรื่นรมย์ ผู้หญิงสวยเยอะมาก อยากลองดูว่าจะได้เจอผู้หญิงหรือไม่”
“ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่เจี่ยน่าสนใจจริงๆ” ลู๋เจิ้งเฟิงหัวเราะ แล้วพูดต่อ:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมขอไปสนุกกับพี่ใหญ่เจี่ยหน่อยแล้วกัน วันนี้ผมจะรีบไป จริงด้วย พี่ใหญ่เจี่ยพักอยู่ที่ไหน?”
“เกสต์เฮาส์ซีหู”
เจี่ยหวั้นเหาพูดเสียงอ่อนโยน ภายในใจกลับรู้สึกละอายเล็กน้อย เดิมทีเฉินเฟิงไม่ได้รับความสนใจจากผู้อาวุโสในแต่ละมุมโลก ทว่าหลังจากที่เฉินเฟิงไปประเทศญี่ปุ่น ทำลายองค์กรใต้ดินสำนักขวัญนินจาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นแล้วนั้น ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม
เฉินเฟิงสามารถทำลายองค์กรใต้ดินสำนักขวัญนินจาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น ถ้าอย่างนั้นเขาก็สามารถทำลายองค์กรใต้ดินจำนวนไม่น้อยของหวาเซี่ยได้เหมือนกัน สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลทำให้ผู้อาวุโสขององค์กรใต้ดินทั่วโลกต่างมาที่นี่ สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นโอกาสดีในการทำความรู้จักเฉินเฟิง
ไม่ว่าผลการต่อสู้ของเฉินเฟิงและจิ่งเถิงจะเป็นยังไง พวกเขาจำเป็นต้องทำความรู้จักเฉินเฟิงที่เป็นเทพสังหารคนใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วันหนึ่ง มีคนใต้บังคับบัญชาไม่รู้เรื่องรู้ราวหาเรื่องเฉินเฟิง…