ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 643
บทที่ 643 ลาศีล
ฉึบๆๆ……
ได้ยินคำพูดที่น่าตกตะลึงของหวู่เหวินโป๋ ทุกคนหันไปมองเสี้ยเมิ่งเหยาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เตรียมจะให้เสี้ยเมิ่งเหยาตัดสินใจ
เสี้ยเมิ่งเหยายกข้อมือขึ้น มองดูเวลา สี่โมงยี่สิบนาที
“ทำแบบนี้กันเถอะ พี่หวัง รบกวนพี่เข้าไปปลุกเฉินเฟิงหน่อย แล้วพวกเราค่อยเข้าไป” เสี้ยเมิ่งเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอกกับหวังเฉียน
ท่ามกลางทุกคน หวังเฉียนวรยุทธ์สูงที่สุด เธอคิดว่าหวังเฉียนไปปลุกเฉินเฟิง น่าจะทำให้ส่งผลกระทบต่อเฉินเฟิงน้อยที่สุด
“ได้”
หวังเฉียนพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเดินไปที่วิลล่า จู่ๆกลับได้ยินเสียงเครื่องรับวิทยุดังขึ้น:“คุณชายโป๋ มีคนพยายามจะบุกเข้าไปในวิลล่า หนึ่งในนั้นเป็นจอมยุทธ์ พลังของเขาน่ากลัวมาก ลูกศิษย์หลายคนถูกทำลายจนแย่กันหมดแล้ว ไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้!”
ฉึบ!
ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน สีหน้าของหวู่เหวินโป๋เปลี่ยนไปทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
สีหน้าที่เปลี่ยนไปของหวู่เหวินโป๋อยู่ในสายตาของทุกคน เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะถาม
“มีคนทำร้ายคนของฉัน พยายามจะบุกเข้ามาให้ได้ เดาว่าคนที่มาคงไม่ได้มาดี!” หวู่เหวินโป๋ขมวดคิ้วเป็นปม หมุนตัวหันหลัง มองไปที่ทางเดินเข้าไปในวิลล่าด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ได้ยินคำพูดตกตะลึงของหวู่เหวินโป๋ เสี้ยเมิ่งเหยาชะงัก จากนั้นหันไปมองทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
นาทีถัดไป
ขณะที่ทุกคนกำลังมองไป จิ่งหรินและมู่หยางเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันเข้ามา
พระอาทิตย์ตก ทั้งสองเดินอกผายไหล่ผึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก แม้ว่าจะเห็นคนยืนอยู่นอกวิลล่ากล่าวสิบคน ก็ยังคงมีสีหน้าแบบนี้
“เสี้ยเมิ่งเหยาอยู่ไหม?”
คล้ายกลับว่าเป็นการตอบกลับหวู่เหวินโป๋ เสียงดังก้องขึ้น
สิ้นเสียง ปรากฏตัวคนออกมา
มู่หยางอยู่ในระดับอ้านจิ้ง ตอนที่เขาปรากฏตัวออกมานั้น ราวกับวิญญาณปรากฏต่อหน้าทุกคน มองไปที่พวกเขาด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง ตามหาเสี้ยเมิ่งเหยา
“ฉันคือเสี้ยเมิ่งเหยา พวกนายเป็นใคร?” ตามด้วย ตอนที่สายตาของมู่หยางมองไปที่เสี้ยเมิ่งเหยา เสี้ยเมิ่งเหยาก้าวขึ้นมาด้านหน้าหนึ่งก้าว พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“ฉันคือมู่หยางอู่ถงของคุณชายจิ่งเถิง” มู่หยางแนะนำตัวตนเองก่อน จากนั้นพูดด้วยความทระนง:“เสี้ยเมิ่งเหยา ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของไอ้คนไร้ประโยชน์นั่น ถ้าอย่างนั้นเธอก็น่าจะรู้ เรื่องสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายระหว่างสามีไร้ประโยชน์กับคุณชายจิ่งเถิงของฉัน”
“วันนี้ ไอ้สามีไร้ประโยชน์ไม่กล้าสู้กับคุณชายจิ่งเถิงของฉัน”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจึงมาตามคำสั่งคุณชายจิ่งเถิง มารับเธอไปเป็นสาวใช้ หวังว่าเธอจะไม่ขัดขืน เพราะถึงอย่างไร การมาเป็นสาวใช้ของมู่หยาง ถือว่าเป็นวาสนาที่เธอทำบุญมาแปดชาติก็ไม่มีวันได้เป็น”
“ไอ้โง่ สมองของนายถูกลาเตะมารึไง?” ได้ยินเสียงโอหังของมู่หยางดังขึ้น มองดูท่าทีเหิมเกริมของมู่หยาง ทุกคนต่างโมโห หวู่เหวินโป๋จึงด่ากราดออกไป
“ถึงแม้คุณชายจิ่งเถิงแค่สั่งให้ฉันมาจับตัวผู้หญิงชั้นต่ำเสี้ยเมิ่งเหยากลับไป แต่ถ้ามีคนไม่ให้ความเคารพฉัน ฉันก็ไม่ถือสาที่จะสั่งสอนมัน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดแกหุบปาก” มู่หยางได้ยินแบบนั้น จึงมองไปที่หวู่เหวินโป๋ด้วยสายตาเย็นยะเยือก เขายังคงหยิ่งผยองเหมือนเดิม ถึงขึ้นจะลงไม้ลงมือถ้าได้ยินคำพูดไม่เข้าหู
“นี่ไม่ใช่โลกที่ใช้พละกำลัง แต่เป็นโลกที่มีกฎระเบียบมากมาย หนึ่งในกฎระเบียบนั้น จอมยุทธ์ก็ต้องทำตามกฎ ไม่ต้องพูดถึงนาย แม้แต่เจ้านายของนาย หรือว่าทั้งตระกูลจิ่งก็ไม่มีใครกล้าแหกกฎนี้ แต่นายกลับคิดอยากจะแหกกฎ——แกรู้ไหมมันหมายความว่าอะไร?” เผชิญหน้ากับคำขู่ที่หยิ่งผยองของมู่หยาง สัมผัสได้ถึงรังสีน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวมู่หยาง หวังเฉียนเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าวอย่างเย็นยะเยือก ยืนอยู่ข้างเสี้ยเมิ่งเหยา จ้องมองไปที่มู่หยางแล้วพูดทีละคำๆ
“ฉันไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ฉันรู้แค่ว่าคำสั่งของคุณชายสำคัญมาก”
คำเตือนของหวังเฉียนไม่ได้ทำให้มู่หยางรู้สึกกลัว เขาไม่มีท่าทีจะถอยหนีแม้แต่นิดเดียว เขายังคงทำท่าทีว่าจิ่งเถิงเป็นพี่ใหญ่ส่วนเขาเป็นพี่รอง มองไปที่เสี้ยเมิ่งเหยา แล้วพูดขึ้น:“เสี้ยเมิ่งเหยา ทางเลือกเดียวของเธอในตอนนี้ก็คือ คุกเข่าต่อหน้าฉัน ขอร้องให้ฉันรับเธอไปเป็นสาวใช้ของฉัน
“รังแกคนเกินไปแล้ว!”
ได้ยินคำพูดโอหังอีกครั้งของมู่หยาง เฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเหวินโมโหแล้ว ได้ยินทั้งสองคนร้องตะโกนด้วยความโมโห จากนั้นเสียง”ชิ่ง”ดังขึ้น ชักกระบี่ออกมา ปลายกระบี่ชี้ไปทางมู่หยาง
“ใช้ไม้อ่อนไม่ชอบ ต้องให้ใช้ไม้แข็ง!” มู่หยางหัวเราะในลำคอ จากนั้นเท้าของเขาหมุนเล็กน้อย ปรากฏตัวตรงหน้าทั้งสองทันที
เร็ว!
การเคลื่อนไหวของมู่หยาง เร็วมากถึงมากที่สุด!
แม้แต่จิ่งเถิงก็ไม่สามารถตามจับความเร็วของเขาได้ !
แม้ว่ามู่หยางจะเป็นอู่ถงของจิ่งเถิง แต่วรยุทธ์ของเขาฝึกฝนไปจนถึงระดับอ้านจิ้งชั้นสูงสุดแล้ว อีกทั้งฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดมาจากตระกูลจิ่ง แข็งแกร่งกว่าอ้านจิ้งชั้นสูงสุดของจอมยุทธ์ในยุคปัจจุบันมาก ถึงขั้นไม่ด้อยไปกว่าศิษย์อัจฉริยะของสำนักใหญ่ ไม่ใช่คนที่เฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเหวินสามารถเทียบได้
ฟู่!
หมัดที่ต่อยออกมามีเสียงลมร้องโหยหวน!
หมัดของมู่หยางเร็วราวกับไฟกระพริบ ชกจนเฉินจื๋อหลี่และเฉินจื๋อเหวินทั้งสองคนตัวปลิวออกไป
พู่!
ทั้งสองล้มลงบนพื้น กระอักเลือดออกมา
ตามด้วย ไม่รอให้เสี้ยเมิ่งเหยาได้ทำอะไร มือใหญ่ของมู่หยาง ราวกับยกของขึ้นมา คว้าคอของเสี้ยเมิ่งเหยาเอาไว้ ยกตัวเสี้ยเมิ่งเหยาขึ้น
“ทางที่ดีที่สุดเธออย่าขยับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ถือสาที่จะบีบคอของเธอจนแหลกละเอียด!”
เดิมทีตามสัญชาตญาณ เสี้ยเมิ่งเหยาจะขัดขืน แต่เธอยังไม่ทันได้ขัดขืน มู่หยางก็พูดขึ้นก่อน น้ำเสียงของเขาเย็นเฉียบยิ่งกว่าป่าลึก
“ปล่อยเธอ!” เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนต่างตกใจ ร้องตะโกนบอกให้หยุด
หวังเฉียนชักกระบี่ออกมาด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก
หุบปาก!”
เผชิญหน้ากับความโมโหของทุกคนและการคุกคามของเสี้ยเมิ่งเหยา มู่หยางยังคงทำหน้าไม่หวาดกลัว หัวเราะในลำคอแล้วพูดขึ้น:“สวะอย่างพวกแก ถ้ายังกล้าพูดมาก ฉันไม่ถือสาที่จะสั่งสอนพวกแก!”
“——”
ได้ยินคำพูดของมู่หยางอีกครั้ง รับรู้ว่ามู่หยางไม่เห็นใครอยู่ในสายตา รวมถึงหวังเฉียนด้วย ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่ขมวดคิ้วเป็นปม จ้องมองมู่หยางด้วยความโกรธ
เพราะว่า พวกเขากลัวมู่หยางฟังไม่เข้าหูแล้วจะลงมือต่อ ถ้าเป็นแบบนั้น เสี้ยเมิ่งเหยาก็จะตกอยู่ในอันตราย!
“ไปเรียกพี่เฟิง!”
หลังจากเงียบเป็นเวลาสั้นๆครู่หนึ่ง อยู่ดีๆหวู่เหวินโป๋ก็ร้องตะโกนเสียงดัง จากนั้นวิ่งเข้าไปในวิลล่า
หื้ม?
มู่หยางชะงัก ความรู้สึกนั้นเหมือนกำลังถามว่า:พี่เฟิงเป็นใคร?
“แกปล่อยเธอเดี๋ยวนี้ แล้วคุกเข่าสำนึกผิด กลับตัวกลับใจ ฉันสามารถไว้ชีวิตแกได้ ไม่อย่างนั้น วันนี้แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยแกได้!” ตอบกลับมู่หยางด้วยความโมโห
ตะโกนด้วยความโมโห พร้อมการปรากฏตัว
วินาทีต่อมา เฉินเฟิงเดินออกมาจากสวนในวิลล่า ตัวของเขาราวกับไฟฟ้า โผล่มาด้วยความรวดเร็ว!
เป็นดังที่พูดเอาไว้คนที่ไม่รู้ย่อมไม่กลัว
ในฐานะอู่ถงของจิ่งเถิง มู่หยางตั้งแต่เล็กตนโต นอกจากเมื่อหกปีก่อนได้ติดตามจิ่งเถิงออกมาจากพื้นที่บรรพบุรุษตระกูลจิ่งออกมาเที่ยวเตร่แล้วนั้น นี่เป็นครั้งที่สอง
คอยปรนนิบัติรับใช้ชีวิตประจำวันของจิ่งเถิง คอยฝึกฝนวรยุทธ์กับจิ่งเถิง——นี่คือหน้าที่ของเขา และเกือบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขาตลอดยี่สิบสองปีที่ผ่านมา
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องภายนอก ทั้งยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของโลกแม้แต่น้อย ขาดความหวาดกลัว ท่าทีของเขาไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน——อาศัยที่ตนเองมีวรยุทธ์แข็งแกร่ง ทำตัวตามอำเภอใจ!