ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 657
บทที่ 657 ถูกเฉินเฟิงฆ่าตายแล้ว
ความจริงแล้ว เพื่อไม่ให้เห็นเป็นเรื่องตลกในสายตาทุกคน พวกเขาตั้งใจรออยู่ในห้องโดยสาร ตั้งใจว่าเมื่อทุกคนไปแล้วค่อยออกมา สุดท้ายทุกคนต่างก็ไม่ยอมไปกันสักที
ด้วยความที่ไม่รู้จะทำยังไง พวกเขาจึงต้องเดินออกมาจากห้องโดยสาร กัดฟันเดินจากไป ไม่อย่างนั้น มันจะน่ายิ่งอับอาย ทุกคนจะคิดว่าพวกเขาไม่กล้าออกมา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอู่คงอยู่ด้วยหรือเปล่า หรือเป็นเพราะจิ่งหยุนเฟิง จิ่งเซ่อเหมิงทั้งสองคนต่างก็รู้เรื่องในวันนี้ คำพูดที่หยาบคายมีแต่จะเพิ่มความอับอาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรกับเฉินเฟิง ไม่แม้แต่จะมองเฉินเฟิงด้วยซ้ำ เดินออกไปจากที่นี่ทันที เดินไปอย่างรีบร้อน
และต่อให้จิ่งหยุนเฟิง จิ่งเซ่อเหมิงทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดอะไร แต่คนที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็คิดว่า ตระกูลจิ่งไม่มีทางยอมง่ายๆแน่ จะต้องเอาเรื่องเฉินเฟิงให้ถึงที่สุด
เฉินเฟิงเองก็เข้าใจในจุดนี้ดี แต่ท่าทีที่แสดงออกกับสงบนิ่งเหมือนดั่งน้ำ
ในเวลาเดียวกัน หนึ่งในทุกคน มีนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งหยิบมือถือออกมา พิมพ์ข้อความหนึ่ง แล้วก็กดส่ง
หลังจากนั้นสิบนาที
ยันเจียง
เฉินโป๋ยุงสีหน้าเคร่งเครียด กลับบ้านไปด้วยท่าทีคิ้วขมวด
ถึงแม้การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิง ไม่ได้ถ่ายทอดสด และก็ไม่มีคนถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอ แต่เขาก็รู้ผลการต่อสู้ เมื่อการต่อสู้จบสิ้นเป็นอันดับแรกแล้ว และได้รับข่าวในระหว่างที่กลับมาว่า คนของตระกูลจิ่งไม่ได้ลงมือทำอะไรเฉินเฟิง
ผลออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้เขาผิดหวังมาก และก็หงุดหงิดมาก จนเกือบที่จะโทรไปหาจิ่งหยุนเฟิง แต่คิดถึงตระกูลจิ่ง สูญเสียจิ่งเถิงทายาทตระกูลคนนี้ จะต้องกำลังโมโหอยู่อย่างมาก จึงวางโทรศัพท์ลง คิดว่ารออีกสักพักค่อยติดต่อตระกูลจิ่ง
“คุณบอกว่า คนตระกูลจิ่งจะต้องสามารถฆ่าเฉินเฟิง ไอ้ลูกสำส่อนคนไหนได้ไม่ใช่หรือ?”
เฉินโป๋ยุงเข้ามาในบ้าน แม้แต่รองเท้าแตะก็ยังไม่ทันเปลี่ยน ภรรยาหวังซิ่วหลันตะโกนร้องขึ้น พร้อมโดดขึ้นมาจากโซฟา เหมือนแมวถูกเหยียบหาง ตะคอกพูดขึ้นอย่างเสียงดัง ว่า “ทำไมเมื่อกี้ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่า ทายาทตระกูลจิ่งที่คุณพูดถึงไม่ได้ฆ่าเฉินเฟิงตาย กลับถูกเฉินเฟิงฆ่าตายในระหว่างการแข่งขันการต่อสู้?”
ไม่มีคำตอบ
เฉินโป๋ยุงวางกระเป๋าทำงาน แล้วเปลี่ยนสวมรองเท้าแตะ แล้วก็เดินเข้าห้องหนังสือไปอย่างไม่พูดไม่จา
“คุณพูดอะไรหน่อยสิ”
หวังซิ่วหลันตามอยู่ด้านหลังอย่างไม่ยอมปล่อย
“คุณอยากให้ผมพูดอะไร?” เฉินโป๋ยุงหยุดฝีเท้าลง ขมวดคิ้วมองดูภรรยาที่ถูกความแค้นครอบงำจนเสียสติไปแล้ว “คุณคิดว่าผมอยากได้ผลแบบนี้หรือ?”
“คุณ…อย่างน้อยคุณก็ลองถามคนของตระกูลจิ่งหน่อยไหม?”
“จะมีประโยชน์อะไร?” เฉินโป๋ยุงพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “พวกเราเพียงแค่ยังไม่สามารถแก้แค้นให้กับอิงโรเท่านั้น และตระกูลจิ่งก็สูญเสียทายาทตระกูลไป คุณจะให้ผมถามอะไรพวกเขา? จะให้ผมถามว่าทำไมทายาทตระกูลจิ่ง ถึงถูกเฉินเฟิงฆ่าตายหรือ? หรือคุณคิดว่าพวกเขาอยากที่จะเห็นทายาทตระกูลของตอนเองถูกฆ่าตายหรือ?”
“แต่คุณพูดว่า ตระกูลจิ่งพูดเองอย่างมั่นใจว่าไม่มีปัญหาไม่ใช่หรือ?” หวังซิ่วหลันยังคงไม่ลดรา
“พวกเขาพูดแบบนี้ แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดแบบนั้น และก็ไม่ใช่ผลที่พวกเราอยากได้” สีหน้าเฉินโป๋ยุงย่ำแยะมาก
“งั้นพวกเราก็จะไม่ทำอะไรเลยหรือ? ให้ไอ้ลูกสำส่อนนั่นมีชีวิตอยู่อย่างลอยนวล?” หวังซิ่วหลันโกรธมาก ความรู้สึกนั้นอยากที่จะเห็นเฉินเฟิงถูกฆ่าตาย ถึงจะพอใจ
“ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดถึงแผนต่อไป อย่างน้อยวันนี้ไม่ควรที่จะไปพูดอะไรกับตระกูลจิ่ง” เฉินโป๋ยุงพูดพร้อมกับไม่สนใจภรรยาอีก หันหน้าเดินเข้าไปในห้องสมุด
เขาจะไปอยู่ในห้องสมุดคนเดียว เพื่อระงับอารมณ์
“เฉินโป๋ยุง เพราะคำพูดของคุณ ฉันได้บอกกับอิงโรอย่างมั่นใจ ว่าครั้งนี้เฉินเฟิงตายแน่ ตอนนี้ผลกลายเป็นแบบนี้ คุณเคยคิดไหม อิงโรได้ยินเข้าจะคิดยังไง? ฉันจะบอกคุณ นี่อาจจะกลายเป็นความกดดัน ทำลายความหวังสุดท้ายของเธอ ให้ความหวังที่อยากจะมีชีวิตต่ออันน้อยนิดนั้นของเธอดับสลาย” หวังซิ่วหลันพูดขึ้นอย่างโกรธแค้น ก่อนหน้านี้ได้ยินคำพูดของเฉินโป๋ยุง เธอไปบอกกับเฉินอิงโรอย่างมั่นใจว่า จะต้องฆ่าเฉินเฟิงตายแน่ ผลสุดท้ายตอนนี้ กลับเป็นจิ่งเถิงที่ถูกเฉินเฟิงฆ่าตาย นี่จะให้เฉินอิงโรยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร?
“ผมรู้ แต่ผลก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว อย่างน้อยตอนนี้เป็นแบบนี้” เฉินโป๋ยุงหยุดฝีเท้าลง แต่ไม่ได้หันหน้ามา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “อีกอย่าง หากเธอยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ งั้นต่อให้มีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“คุณ….” หวังซิ่วหลันอึ้ง คิดไม่ถึงว่าเฉินโป๋ยุงจะพูดจาโหดเหี้ยมแบบนี้ออกมา
“คุณหุบปากไปเลย ผมเหนื่อยแล้ว อยากอยู่เงียบๆคนเดียว” ครั้งนี้ ไม่รอให้หวังซิ่วหลันพูดเสร็จ เฉินโป๋ยุงหันมา ตะคอกพูดขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน
หวังซิ่วหลันตกใจจนตัวสั่น กลืนคำพูดที่มาถึงคอกลับลงท้องไป
ในฐานะที่เป็นภรรยาเฉินโป๋ยุง เธอรู้ดี ปกติเฉินโป๋ยุงจะไม่โมโหเช่นนี้ หากโมโหขึ้นมา เธอไม่ควรที่จะไปยุ่งเป็นการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาจะแย่มาก
แต่ว่า ถึงแม้หวังซิ่วหลันจะโมโหใส่เฉินโป๋ยุงไม่ได้
แต่ความเกลียดชังที่มีต่อเฉินเฟิงนั้น ถึงจุดสูงสุดที่ไม่อาจหวนคืนแล้ว เกลียดจนแทบอยากกินเนื้อ ดื่มเลือดของเฉินเฟิง
และตอนนี้ เธอยิ่งเป็นห่วงความรู้สึกของเฉินอิงโร เมื่อรู้ข่าวนี้แล้ว
ในขณะเดียวกัน สถานพักฟื้นหรูแห่งหนึ่งในยันเจียง
หลังจากที่พวกผู้ป่วยทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว กลุ่มคนสามถึงห้าคนพร้อมผู้ดูแลยืนคุยกันอยู่
ส่วนเฉินอิงโร กำลังกำมือถือในมือแน่น อยู่ในห้องพิเศษห้องหนึ่ง เหมือนกำลังรอข่าวอะไรบางอย่าง
เวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“คุณเฉิน เมื่อกี้ได้ทราบข่าวว่า การต่อสู้ระหว่างเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงจบสิ้นแล้ว….” พยาบาลพูดขึ้นมาตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม
“ไอ้ลูกสำส่อนคนนั้นตายอย่างอนาถไหม?” เฉินอิงโรถามขึ้นอย่างตื่นเต้น
“เอ่อ” มองดูเฉินอิงโรที่มีท่าทีตื่นเต้นเหมือนฉีดเลือดไก่ พยาบาลลังเลไปแปบหนึ่ง แล้วก็พูดตามความจริงว่า “คุณเฉิน ตามข่าวที่ได้รับทราบมา คนที่ตายคือจิ่งเถิง เขาถูกเฉินเฟิงเหยียบตายด้วยเท้า”
ฝุบ
สีหน้าเฉินอิงโรบิดเบี้ยว แล้วก็มองดูพยาบาลอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอ…เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“เฉินเฟิงฆ่าจิ่งเถิงตายในขณะที่มีการแข่งขันการต่อสู้” พยาบาลพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด แม่ให้คนตั้งใจมาบอกฉันว่า ครั้งนี้ไอ้ลูกสำส่อนนั่นตายแน่” ได้ยินพยาบาลพูดขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของเฉินอิงโรไม่มีความตื่นเต้นอีกแล้ว มีแต่ความตื่นตระหนก ถึงขั้นพูดได้ว่าขาดสติไปแล้ว “ข่าวของเธอไม่เป็นจริงแน่นอน”
“…….” พยาบาลไม่รู้จะพูดยังไงต่อ เลือกอยู่เงียบๆอย่างฉลาด
เพราะเธอดูออกว่า ตอนนี้สติอารมณ์ของเฉินอิงโรไม่ปกติแล้ว เวลาแบบนี้ ต่อให้เธอพูดจนปากเปื่อย เฉินอิงโรก็ไม่มีทางยอมรับความจริงนี้ได้
“เธอไปสืบมาอีก ฉันต้องการคำตอบที่ถูกต้อง คำตอบที่ถูกต้อง เธอเข้าใจไหม?” เห็นพยาบาลไม่พูดอะไร เฉินอิงโรเหมือนอย่างคนบ้า คว้าคอเสื้อของพยาบาลมา เหมือนดั่งมารร้าย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง
เธอไม่ได้บ้า แค่ไม่อยากฟื้นขึ้นมาจากความฝัน
โรงแรมหูเจียงตั้งอยู่ที่ทะเลสาบตะวันตกเขตปีนเจียง เป็นโรงแรมห้าดาวที่มีทั้งร้านอาหาร ห้องงานเลี้ยง ที่พัก สถานบันเทิง สถานที่พักผ่อนครบวงจร