ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 678
บทที่ 678 ต่อสู้กับฉู่เหอ
“ผู้อาวุโสอู่ ผมคิดว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสพูดมันไม่เป็นจริงเท่าไหร่!”
เวลานี้ หวังอีเตาที่เงียบไปครู่หนึ่งจู่ๆก็พูดขึ้นมากะทันหัน เห็นความสามารถของเฉินเฟิง จากความตื่นตะลึงเมื่อครู่ กลายเป็นสีหน้าเย้ยหยันในตอนนี้
“ผมยอมรับว่าความสามารถของเฉินเฟิงศิษย์น้องของเย่หนานเทียนไม่เลว แต่ก็ยังไกลเกินกว่ามาตรฐานของผู้อาวุโส ยังไม่พูดถึงความสามารถของศัตรูที่ประเทศญี่ปุ่น แค่ในวงการบูโดของประเทศหวา เขาสามารถอยู่ตำแหน่งไหน? เห็นได้ชัดว่ายังไปไม่ถึงระดับของเย่หนานเทียน เมื่อพูดแบบนี้แล้ว คำพูดของผู้อาวุโสอู่มันไม่เป็นจริงเท่าไหร่!”
หวังอีเตายังไม่ทันพูดจบ ทุกสายตาก็มองมาที่เขา
“อ่อ? จากคำพูดของปรมาจารย์หวัง เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงเทียบกับลูกศิษย์ของนายไม่ได้?”
สีหน้าของอู่จื่อโจวดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ หวังอีเตาเค้นถามเขาต่อหน้าคนมากมาย เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าเขา
อีกทั้งคนอื่นไม่รู้ แต่เขารู้ดี ความสามารถของเฉินเฟิงที่แสดงออกมาเมื่อครู่เหนือกว่าที่พวกเขาตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งแม้ว่าเมื่อกี้เขาจะบอกว่าตนเองน่าอนาถ แต่ไม่ได้พูดไม่ได้จริงๆ เขารู้สึกนับถือคนรุ่นหลังคนนี้
แน่นอน ยังมีอีกหนึ่งความหมาย การที่ยกยอเฉินเฟิง ก็เพื่อปูทางให้ตนเองเท่านั้น
“หึ พูดไปมากมายก็ไร้ประโยชน์ ลองดูก็รู้!”
หวังอีเตาตอบกลับเสียงเรียบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจและโอหัง
หลังจากได้ยินคำพูดของหวังอีเตา ทุกคนหยุดชะงัก ไม่รู้ว่าหวังอีเตามีความกล้าอะไรกันแน่ ถึงพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคน
ผู้อาวุโสตระกูลต่างๆที่นี่ เมื่อกี้ได้เห็นความสามารถของเฉินเฟิงแล้ว อีกทั้งแอบเอาผู้สืบทอดของตนเองมาเทียบแล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้สืบทอดของพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเฟิง
อีกทั้งอู่จื่อโจวยังบอกอีกว่าเฉินเฟิงเป็นระดับต่ำกว่าหั้วจิ้งชั้นกลางคนแรก
ไม่มีทางที่หวังอีเตาจะมองไม่ออก ในสถานการณ์แบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามยังเชื่อมั่นในตนเองแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ารู้ซึ้งถึงความสามารถของลูกศิษย์ตน
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนคาดหวังกับความสามารถของฉู่เหอ ไม่รู้ว่าฉู่เหออยู่ระดับไหนแล้ว
“ฮ่าๆๆ งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเธอ ฉันจะดูว่าลูกศิษย์ของนายเก่งแค่ไหน!”
อู่จื่อโจวทำหน้าเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามทำให้เขาไม่พอใจ
ไม่รอให้หวังอีเตาพูด จู่ๆฉู่เหอก็เดินขึ้นหน้าแล้วพูด:“ปรมาจารย์อู่ ก่อนหน้านี้ปรมาจารย์บอกว่าถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อสิบปีก่อน ต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเฟิงแน่ๆ พูดอย่างนี้แสดงว่า ความสามารถของเฉินเฟิงแข็งแกร่งกว่าสามคนก่อนหน้านี้ ผมเข้าใจแบบนี้ได้ไหมครับ?”
อู่จื่อโจวได้ฟังคำพูดนี้ ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นคิดจะทำอะไร ขมวดคิ้วเป็น :“ถูกต้อง!”
“ถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่า เรื่องมันง่ายมาก ผมไม่ต้องเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้แล้ว!” แววตาของฉู่เหอเหี้ยมโหด มองไปที่เฉินเฟิงแล้วพูด:“ขอแค่ฆ่ามันทิ้ง ผมกลายเป็นอันดับหนึ่งของการคัดเลือกศิลปะการต่อสู้ได้เลยไหม!”
คำพูดของฉู่เหอไม่เก็บซ่อนเจตนาฆ่าแม้แต่น้อย
“นายแน่ใจว่าจะทำสัญญาเป็นตายต่อหรอ?”
อู่จื่อโจวขมวดคิ้ว มองฉู่เหออย่างพิจารณา อยากจะมองเห็นอะไรบางอย่าง เฉินเฟิงแสดงความสามารถที่น่าเกรงขามออกมาแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ฝ่ายตรงข้ามยังคงจะทำตามสัญญา เขามีไพ่อะไรซ่อนเอาไว้กันแน่
“ในเมื่อก่อนหน้านี้ฉันรับปากไปแล้ว แน่นอนว่าต้องทำตามสัญญา คิดว่าผู้อาวุโสอู่คงไม่ยื่นมือมาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ”
รอยยิ้มของฉู่เหอเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าภายในใจได้เห็นเฉินเฟิงพ่ายแพ้ ถูกเขาฆ่าตาย สิ่งเดียวที่เขาเป็นกังวลในตอนนี้ ก็คืออู่จื่อโจวเข้ามายุ่ง
ถ้าหากอู่จื่อโจวเข้ามาหยุด แม้ว่าจะทำผิดกฎ แต่หวังอีเตาและฉู่เหออาจารย์และศิษย์สองคนนี้ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
“ปรมาจารย์หวัง นายต้องคิดดูให้ดีแล้วค่อยทำ!”
อู่จื่อโจวไม่ได้มองฉู่เหอ แต่มองไปที่หวังอีเตา
“หึ วันนี้ลูกศิษย์ของผมต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับศิษย์น้องของเย่หนานเทียน ฆ่ามัน!”
คำพูดของหวังอีเตาโหดเหี้ยมมาก แสดงความเกลียดแค้นและต้องการฆ่า ต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างไม่ปกปิด
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร บนโลกใบนี้มีคนมากมายที่ไม่เจียมตน ในเมื่อเขาอยากรนหาที่ตาย ผมก็จะทำให้เขาสมหวัง!”
แววตาเย็นยะเยือกของเฉินเฟิงมองไปที่ฉู่เหอ ไม่สนใจคำขู่ของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย
“แกว่งเท้าหาเสี้ยน ฆ่าแกไม่ต้องเปลืองแรง!”ฉู่เหอหัวเราะในลำคอ ในมือถือของมีดล้ำค่าที่สืบทอดมาจากตระกูล มีดมังกร เดินไปหาเฉินเฟิง
“ครืด!”
“ครืด!”
“ครืด!”
ฉู่เหอก้าวเดินไป ทุกก้าวที่ก้าวลงไปนั้น ล้วนมีน้ำหนัก โคลนไม่สามารถรองรับได้ ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ เวลานี้ฉู่เหอดูมีสง่ามาก เขาให้ความรู้สึกเหมือนเทพเจ้าสงคราม
ขณะที่ก้าวเดิน ลมปราณของเขาขึ้นสูงเรื่อยๆ มองดูแล้วเหมือนจะไม่สิ้นสุด บรรจุระดับหั้วจิ้งชั้นต้นแล้ว
“หั้วจิ้งชั้นกลาง!”
จียุ่นมองสังเกตการณ์มาโดยตลอด ตอนที่รังสีแผ่ออกมาจากตัวของฉู่เหอ สีหน้าของเขาเปลี่ยนกะทันหัน ลมปราณบนตัวเขา เป็นของหั้วจิ้งชั้นกลางเท่านั้น
ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์พากันตกตะลึง พูดได้ว่านอกจากเฉินเฟิงแล้ว แทบจะทุกคนล้วนถูกฉู่เหอหั้วจิ้งชั้นกลางดึงดูด
ในใจของพวกเขารู้ หั้วจิ้งชั้นกลางอย่างฉู่เหอ มาจากสำนักที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน หัวจิ้งชั้นกลางในสำนักทั่วไปไม่สามารถเทียบได้ คนละระดับกัน
สำนักที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน วรยุทธ์ที่ฝึกซ้อมโดยส่วนมากเป็นศิลปะการต่อสู้โบราณ พวกเขาไม่สามารถบรรลุได้ง่ายๆ ในแดนเดียวก็หยุดนิ่งไปหลายปี ฝึกฝนแดนนี้ได้อย่างถี่ถ้วนแล้ว หลังจากไร้ช่องโหว่ จึงจะสามารถหดลมปราณกลับเข้าไปในร่างกายแล้วบรรลุแดน
พูดง่ายๆก็คือ จอมยุทธ์ในยุคปัจจุบันทำได้เพียงใช้ลมปราณประมาณหนึ่งครึ่งถึงจะบรรลุ พูดได้ว่าแม้แดนจะสูง แต่ความสามารถที่แท้จริงนั้นไม่เท่าไหร่ เป็นเพียงแค่ชื่อเสียงเล็กๆเท่านั้น
ทว่าลูกศิษย์ที่อยู่ในสำนักที่สืบทอดมานาน บีบอัดลมปราณนับครั้งไม่ถ้วน จนได้ประมาณสิบเท่าถึงจะบรรลุ
สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนนี้ทั้งๆที่แดนอยู่ที่ระดับชั้นต้น แต่กลับสามารถฆ่าจอมยุทธ์ชั้นกลางได้ เป็นเพราะลมปราณภายในคนละระดับ
จนกระทั่งตอนนี้ทุกคนถึงเข้าใจ ลูกศิษย์ของหวังอีเตายังคงไม่เปลี่ยนสัญญา หลังจากที่เฉินเฟิงเผยความสามารถออกมา หั้วจิ้งชั้นกลาง อีกทั้งยังเป็นต่อสู้ครั้งแรกของหั้วจิ้งชั้นกลางที่แท้จริง แค่ลมหายใจก็สามารถข่มคู่ต่อสู้ได้แล้ว
ฉู่เหอลงมือในตอนท้ายก็มีแผนการเหมือนกัน เวลานี้เขาเผยความสามารถที่แท้จริงออกมา ก็เพื่อฆ่าเฉินเฟิง
เวลานี้สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ ยังไม่รอให้พวกเขาดึงสติกลับมา ลมปราณของฉู่เหอขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด จากนั้นแผ่ออกมาล็อคเฉินเฟิง
ลมปราณนี้เต็มไปด้วยรังสีสังหาร มองออกไป ฉู่เหอราวกับเป็นปีศาจจากนรก
รังสีสังหารที่ทำให้คนหายใจไม่ออก ไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจของเฉินเฟิง เขาในตอนนี้ยังคงนิ่งงัน
ทางด้านจียุ่น ศีลสามและเทียนอิงที่มองดูอยู่ข้างๆ กลับตกใจ ฉู่เหอแข็งแกร่งมาก พวกเขาถามตนเองว่าถ้าได้ต่อสู้กับฉู่เหอ คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจที่แท้จริง ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์
“สามารถตายด้วยน้ำมือฉัน เป็นบุญที่แกทำมาชาติที่แล้ว แกสามารถนอนตายตาหลับได้!”
เวลานี้ฉู่เหอท่าทีขึงขัง มองไปที่เฉินเฟิง เหมือนเสือกำลังมองดูเหยื่อของตนเอง