ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 679
บทที่ 679 มีดล้ำค่าหล่น
มองดูการกระทำของลูกศิษย์ฉู่เหอ และปฏิกิริยาของทุกคน ภายในใจของหวังอีเตาหัวเราะ สายตาจ้องมองไปที่เย่หนานเทียน ความแค้นเรื่องแขนที่หักไปในตอนนั้น วันนี้เขาจะทวงมันกลับมาจากเฉินเฟิง
“เสี่ยวเฟิง!”
ฉู่เหอแข็งแกร่งมาก อีกทั้งรังสีสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวของเขา ร่วมกับสายตาของหวังอีเตาเมื่อครู่ เย่หนานเทียนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขารีบตะโกนร้องเรียกชื่อของเฉินเฟิง เขาอยากหยุดการต่อสู้ในครั้งนี้
เขาเองก็รู้ดีว่าการพูดออกไปตอนนี้ ต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของเฉินเฟิงแล้ว ทุกอย่างไม่มีอะไรสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเฉินเฟิงเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น
ทว่าฉู่เหอบรรลุถึงหั้วจิ้งชั้นกลางแล้ว เขาเป็นหัวจิ้งชั้นกลางที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ครึ่งหนึ่ง บวกกับมีดมังกรในมือ เฉินเฟิงมีโอกาสชนะน้อยมาก
อีกทั้งตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต่อสู้อย่างเป็นทางการ เป็นโอกาสหยุดที่ดีที่สุด
“ว้าว เป็นอะไรไป ตอนนี้กลัวแล้วหรอเย่หนานเทียน?”
แทบจะเวลาเดียวกันกับที่เย่หนานเทียนตะโกนชื่อของเฉินเฟิง หวังอีเตาพูดเสียงเย็นยะเยือก:“เย่หนานเทียน ต่อหน้าทุกคน นายอยากจะผิดสัญญาหรอ? อย่าลืมสิ นี่เป็นการต่อสู้ของพวกเขาสองคน ทั้งนายและฉันห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว!”
ดวงตาของหวังอีเตามองไปรอบๆ เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูดต่อ:“แต่ว่าเห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ฉันสามารถให้โอกาสนายหนึ่งครั้ง ไม่ฆ่าเฉินเฟิง แต่ว่าพวกนายศิษย์พี่และศิษย์น้องทั้งสองคน ต้องคุกเข่าหมอบกราบ จากนั้นขอโทษ การแข่งขันเอาเป็นเอาตายครั้งนี้ถือว่าจบลง ว่ายังไง?”
“แก……”
หูของเย่หนานเทียนแดงก่ำ ภายในใจของเขาโมโหเป็นอย่างมาก หวังตีเอาคนนี้เลวร้ายเกินไปแล้ว ถ้าเฉินเฟิงทำแบบนั้นจริงๆ เช่นนั้นวันข้างหน้าเวลาหวนคิดถึงฉู่เหอ หวังอีเตาอาจารย์และศิษย์ ต้องใจไม่นิ่งสงบอย่างแน่นอน ชีวิตบนเส้นทางศิลปะการต่อสู้ก็หยุดลง สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือการต่อสู้เอาเป็นเอาตายในครั้งนี้ดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย เมื่อเฉินเฟิงคุกเข่าขอโทษ ถ้าอย่างนั้นเขาที่อยู่ในวงการจอมยุทธ์ของประเทศหวา ไม่สามารถที่จะยืนหยัดขึ้นมาได้อีก ไม่เพียงแค่นี้ เขาจะถูกคนอื่นทอดทิ้ง กลัวตาย ยอมคุกเข่าให้ศัตรูเพื่อเอาชีวิตรอด
ทั้งหมดนี้เย่หนานเทียนรับไม่ไหว
“ศิษย์พี่วางใจเถอะ!”
ความคิดของหวังอีเตา เฉินเฟิงจะไม่รู้ได้ยังไง ตอนนั้นที่เขารับคำเดิมพันนี้ก็ไม่คิดที่จะถอยหนี ถึงแม้ว่าสุดท้ายเขาต้องตาย ก็ตายอย่างไม่รู้สึกผิด อีกทั้ง เฉินเฟิงเป็นคนธรรมดาหรอ?
มองดูแววตาที่ยังคงยึดมั่นและมั่นใจของเฉินเฟิง เย่หนานเทียนลังเลไปพักหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรอีก เขารู้จักศิษย์น้องของตนเป็นอย่างดี
อีกทั้งเฉินเฟิงก็ไม่มีวันสู้กับการต่อสู้ที่ไม่มั่นใจ ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว แสดงว่าภายในใจต้องมีความมั่นใจ เมื่อคิดได้แบบนี้ความไม่สบายใจและกระวนกระวายใจของเย่หนานเทียนค่อยๆสงบนิ่งลง
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นอู่จื่อโจว ฟางเจิ้ง จีอู๋ฉาง ชางโป๋หรือว่าก่วนหนานเทียน ไม่มีใครมองไปในทิศทางที่ดีกับการต่อสู้ในครั้งนี้
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงจะแสดงออกมาได้ดีเยี่ยม ความสามารถไม่ธรรมดา อีกทั้งยังได้รับการประเมินที่สูงจากอู่จื่อโจว แต่แม้จะเป็นแบบนี้ พวกเขายังคงไม่เชื่อว่าเฉินเฟิงจะชนะ หรือจะพูดว่าโอกาสชนะมีต่ำมาก
ย้อนมองไปที่ฉู่เหอซึ่งเป็นหั้วจิ้งชั้นกลางที่แท้จริง ผู้แข็งแกร่งแบบนี้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน แค่เตะหนึ่งครั้งโดยไม่ใส่ใจ ยังสามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงมีความสามารถอะไรซ่อนเอาไว้ การสามารถประลองวรยุทธ์กับหั้วจิ้งชั้นกลาง ภาพนี้ดูเหมือนจะคุ้นเคย เมื่อกี้ตอนที่เฉินเฟิงแสดงความสามารถออกมา ทุกคนก็คาดเดาฉู่เหอแบบนี้
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”
มองดูแววตาของเฉินเฟิง ฉู่เหออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ความรู้สึกแบบนี้เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผู้ใหญ่ที่มีมีดล้ำค่า
“ตอนนั้นศิษย์พี่ของฉันทำให้อาจารย์ของนายต้องแขนหักไปข้างหนึ่ง วันนี้ฉันจะเอาชีวิตแก!”
แววตาของเฉินเฟิงเย็นยะเยือก ความโกรธของเขาแผ่ออกมา เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเขา แต่ยังเป็นการเรียกคืนศักดิ์ศรีของเย่หนานเทียน ในเวลาเดียวกันก็จะได้เป็นที่หนึ่งของการคัดเลือกศิลปะการต่อสู้ จากจุดนี้ก้าวผ่านไปยังการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก มีแค่แบบนี้เท่านั้นถึงจะสามารถรวบรวมข้อมูลศัตรูของเย่หนานเทียน ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะพูดจากมุมไหน ต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้
“ฮ่าๆ ไม่รู้ที่ตายแล้วรนหาที่ตาย!”
ฉู่เหอหัวเราะในลำคอ:“ที่ฉันร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้ ก็เพื่อแก้แค้นให้กับอาจารย์ ทว่าคิดไม่ถึงเย่หนานเทียนจะถูกคนทำร้ายจนพิการ กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ เมื่อเป็นแบบนี้ความแค้นของเขาต้องให้นายมารับเอาไว้ นายอย่าโทษฉัน ถ้าจะโทษก็โทษที่นายไม่ควรเป็นศิษย์น้องของเย่หนานเทียน!”
“ไปตายซะ!”
สิ้นเสียงของฉู่เหอ เฉินเฟิงร้องตะโกนเสียงดัง ลมปราณของเขาขึ้นสูง ท่าทางของเขาขึงขัง พลังภายในรวมกันไว้ตรงใต้ฝ่าเท้า ทำให้ความเร็วขึ้นสูงมาก หายไปจากที่ที่ยืนอยู่ทันที
ราวกับมังกรบ้าคลั่ง พุ่งไปที่ฉู่เหอ
เฉินเฟิงในตอนนี้ต้องการฆ่าไม่น้อยไปกว่าฉู่เหอ ตัวของเขาราวกับเป็นกระบี่แหลมคม ที่ไม่สามารถต้านเอาไว้ได้
เฉินเฟิงปรากฏตัวออกมา ยกกำปั้นขึ้นพุ่งไปทางฉู่เหอ
กำลังภายในผสานเข้ากับแขนทั้งสองข้าง ทำให้หมัดของเขารุนแรงมาก ง้างขึ้นทั้งซ้ายและขวา หมัดทั้งสองข้างละลายกลายเป็นเงา พุ่งไปยังฉู่เหอ
ฝีเท้าเร็วดุจมังกร
เฉินเฟิงไม่ได้ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่คิดค้นขึ้นมาเอง แต่ใช้วิชาหมัดศิลปะการต่อสู้อื่น โจมตีฉู่เหอ เขาเข้าไปใกล้ฉู่เหอ หมัดของเขาราวกับพลังของฟ้าร้อง ส่งเสียงดังสนั่น
“รนหาที่ตาย!”
ม่านตาของฉู่เหอหดเล็ก เฉินเฟิงโจมตีเร็วมาก ฉู่เหอไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ รีบถอยหลัง
เฉินเฟิงเห็นแบบนี้จึงรีบไล่โจมตีเขา ขาซ้ายเตะไปอย่างแรง พื้นดินโคลนแตกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นฝ่ามือกลายเป็นกรงเล็บ ข่วนไปที่หน้าของฉู่เหอ
มองดูเหมือนเฉินเฟิงจะบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก โจมตีติดต่อกัน ทว่าภายในใจของเขากลับนิ่งสงบ กระบวนท่าแรกไม่ได้ทำเป็นอย่างเร่งรีบ มือซ้ายของเฉินเฟิงโจม มือขวาปกป้องเอาไว้ กล่าวได้ว่าสามารถโจมตีได้ และถอยเพื่อปกป้องได้ ขอเพียงแค่ตอนที่อยู่เหนือกว่าต้องรีบโจมตี ถ้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต้องรีบถอยเพื่อปกป้อง วางแผนได้อย่างรัดกุม
“ถอยออกไป!”
ฉู่เหอโมโห เมื่อกี้ตอนที่เขาลงมือก็ถูกเฉินเฟิงรั้งเอาไว้ เวลานี้ถูกเขาพัวพันเอาไว้ ไม่สามารถใช้ความสามารถทั้งหมดออกมาได้ ตะโกนเสียงดังแล้วเตะออกไป เตรียมที่จะทิ้งระยะห่างระหว่างสองคน
ฉู่เหอแข็งแกร่งกว่าเฉินเฟิงเล็กน้อย เขาจึงเตรียมที่จะสู้อย่างเต็มไปที่กับเฉินเฟิง ทว่าคิดไม่ถึงเฉินเฟิงจะไม่ทำตามกลอุบาย อีกทั้งยังขยับเข้ามาใกล้ฉู่เหอ ทำให้เขาไม่สามารถดึงมือออกมาได้
ฉู่เหอเตะออกไปหลายครั้งติดต่อกัน ทว่าเฉินเฟิงกลับหลบ จากนั้นมือและขาจึงเตรียมที่จะจัดการเฉินเฟิง
ในเวลานี้เอง อยู่ๆเฉินเฟิงก็เปลี่ยนกระบวนท่า โจมตีด้านล่างท้องของฉู่เหอ
เปลี่ยนจากหมัดเป็นเท้า เฉินเฟิงเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้ในระยะเวลาสั้นๆ ฉู่เหอไม่สามารถโต้ตอบได้
“ปั้ง” เสียงดังขึ้น เฉินเฟิงเตะข้อมือของฉู่เหอ เหตุเพราะรู้ตัวช้าเกินไป รวมถึงระยะห่างที่สั้นมาก ฉู่เหอหลบไม่ทัน จึงทำได้เพียงใช้พลังภายในผสานไปที่แขน ปกป้องตนเองให้ปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้จะเป็นแบบนี้ ข้อมือของเขาส่งเสียงด้วยความเจ็บปวด นิ้วมือฉีกขาด เลือดไหลออกมา สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เพราะความเจ็บปวดที่มือ เขาจึงคลายมือ มีดล้ำค่าในมือจึงหล่นลงมา
สำหรับทหาร ปืนคือชีวิตที่สอง