ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 680
บทที่ 680 ใครกันแน่ที่เป็นคนไร้ประโยชน์
สำหรับนักมีดก็เหมือนกัน มีดคือชีวิตที่สอง
เวลานี้เขากับเฉินเฟิงเพิ่งต่อสู้กัน ถูกเตะจนมีดมังกรหล่นจากมือ
สำหรับนักมีด ตอนต่อสู้แล้วถูกคู่ต่อสู้ทำให้อาวุธหลุดจากมือ เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก อีกทั้งในเวลาสำคัญแบบนี้ นักมีดที่ไม่มีอาวุธ ความสามารถก็ลดลงอย่างมาก อันตรายถึงชีวิต
การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของทั้งสองคน เริ่มได้ไม่นานเฉินเฟิงก็เตะจนมีดในมือของฉู่เหอหล่น กลายเป็นคนที่อยู่เหนือกว่า
ภาพนี้อู่จื่อโจว ฟางเจิ้งและก่วนหนานเทียนที่ดูการต่อสู้อยู่รอบๆ ในใจตกตะลึง
ต้องรู้ก่อนว่าแดนของฉู่เหอสูงกว่าเฉินเฟิง อีกทั้งยังมีมีดมังกร ทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้ ทุกคนคิดว่าเฉินเฟิงไม่มีวันเทียบเท่าฉู่เหอได้ อย่างมากก็จะเสียเปรียบไม่มากเท่านั้น ทว่าคิดไม่ถึงเวลานี้เฉินเฟิงกลับทำให้อาวุธในมือฉู่เหอหล่นลง จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง
ทุกคนกลายเป็นแบบนี้แล้ว ฉู่เหอยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมากมาย เวลานี้รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ไม่เป็นความจริงอย่างมาก
แต่ว่าความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากข้อมูล คอยเตือนเขาอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อครู่เกิดขึ้นตรงหน้า
ถ้าหากเมื่อกี้ฉู่เหอไม่ทันได้ใช้กำลังภายในปกป้องข้อมือเอาไว้ เวลานี้คงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ เขาอาจจะถึงขั้นเสียมือไปเลยก็ได้
ข้อมือของฉู่เหอได้รับบาดเจ็บ เฉินเฟิงจะยอมพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้ยังไง ปรับเล็กน้อย พุ่งไปหาฉู่เหออีกครั้ง หมัดกำแน่น กำลังภายในพลุ่งพล่าน แสดงหักแม่น้ำออกมา!
เสียงลมของหมัดดังระงม ความเร็วสูง
สีหน้าของฉู่เหอเปลี่ยนไป เวลานี้เขาถูกลมปราณของเฉินเฟิงล็อคเอาไว้ สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือหมัดนี้ของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เขารู้สึกว่าไม่สามารถหลบได้
ช่วงเวลาอันตราย กำลังภายในของฉู่เหอรวบรวมไว้ที่แขนเหมือนกัน ฝ่ามือกลายเป็นมีด มือมีดฟันออกไป มือมีดวาดผ่านอากาศ อากาศโดยรอบถูกวาดจนมีช่องว่าง มือมีดนี้ไม่แตกต่างจากมีดล้ำค่าของจริงเท่าไหร่ อย่าว่าแต่คน แม้แต่สัตว์ร้าย ก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดภายใต้มือมีดได้
เวลานี้เขาเตรียมที่จะพุ่งชนกับหักแม่น้ำของเฉินเฟิง
“ตึ้ง!”
เสียงดังขึ้น ทั้งสองชนกระแทกกัน พลังภายในพุ่งฆ่ากัน ร่วมกันทำลายล้าง เหตุเพราะพลังภายในแข็งแกร่งจนเกินไป อากาศโดยรอบถูกทำให้ปั่นป่วน เกิดเสียงดังขึ้น
พื้นดินโคลนรอบๆที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของทั้งสอง แตกเป็นวงกลมทันที จากนั้นหล่นลงไป
“ปั้ง!ปั้ง!ปั้ง!”
ร่างของฉู่เหอต้านเอาไว้ไม่ไหวจึงถอยหลังออกไป ทุกครั้งที่ถอยหลังหนึ่งก้าว พื้นดินถูกเหยียบจนเป็นหลุมลึก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพลังของมีดน่ากลัวแค่ไหน
เวลานี้มือของพวกเขามีแผลฉีกขาด ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลมปราณในร่างกายแปรปรวนไปหมด อวัยวะภายในถูกแรงสั่นสะเทือนจนเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บ
มองไปที่เฉิงเฟิน เวลานี้ยังคงยืนนิ่ง ยืนอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว มีท่าทางคล้ายกับอู่จื่อโจว
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง ถ้าจะบอกว่าตอนแรกเฉินเฟิงอาศัยประสบการณ์มากมายด้านการต่อสู้ สู้กับฉู่เหอจนเขารับมือไม่ถูก ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้เขากับฉู่เหอสู้กันอย่างพุ่งเข้าชน
ผลสุดท้ายฉู่เหอถอยหลังสามก้าว ทว่าเฉินเฟิงกลับยืนอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นแบบนี้ ทุกคนจะไม่ตกตะลึงได้ยังไง
เพราะคนที่ได้รับการถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้โบราณอย่างฉู่เหอ การฆ่าคนข้ามระดับ ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
ทว่าในทางกลับกันคนที่อยากฆ่าผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมานานอย่างพวกเขา โดยเฉพาะการฆ่าข้ามแดนขนาดใหญ่ เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
อย่าว่าแต่ฆ่าพวกเขา การหนีจากน้ำมือของพวกเขายังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
เฉินเฟิงไม่ใช่ผู้สืบทอดศิลปะการต่อสู้โบราณ แต่กลับบีบต้อนให้ผู้แข็งแกร่งอย่างฉู่เหอถอยหลังติดต่อกัน ยืนนิ่งเป็นคนที่เหนือกว่า ภาพนี้ยากที่จะเชื่อ
เวลานี้ทุกคนต่างก็คิดแบบนี้ จึงอย่าได้พูดถึงฉู่เหอที่เป็นคู่ต่อสู้ของเฉินเฟิงแล้ว
เดิมทีเขาคิดว่า อาศัยความสามารถของเขาก็สามารถจัดการเฉินเฟิงได้ ทว่าคิดไม่ถึงแม้ว่าเขาจะมีมีดมังกรในมือก็ยากที่จะทำให้เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ เวลานี้มีดมังกรหลุดจากมือ เขาเสียเปรียบทุกด้าน
“ความสามารถแค่นี้ ยังกล้าที่จะพูดจาเหิมเกริมอีก!”
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงนิ่งค้าง เสียงของเฉินเฟิงก็ดังขึ้น
ยังไม่ทันพูดจบ เฉินเฟิงลงมืออีกครั้ง ร่างของเขาปรากฏขึ้นข้างๆฉู่เหออย่างรวดเร็ว
ชกไปที่คู่ต่อสู้อีกหนึ่งครั้ง
ฉู่เหอกำลังตกตะลึงอยู่แล้ว เลือดในร่างกายไม่คงที่ อวัยวะในร่างกายได้รับบาดเจ็บ ตอนที่เสียงของเฉินเฟิงดังขึ้นเมื่อกี้ เขาตกอยู่ในภวังค์ความมึนงง
เฉินเฟิงในเวลานี้เหมือนเสือดุร้ายลงมาจากภูเขา น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เมื่อกี้ฉู่เหอเสียเปรียบไปครั้งหนึ่งแล้ว ไม่กล้าสู้กันอย่างท้าชน หลีกเลี่ยงหมัดของเขา รีบหันตัวหนี
ร่างของเฉินเฟิงราวกับเป็นวิญญาณ ตามติดไม่หยุด
“ผวัะ!ผวัะ!ผวัะ!”
เสียงหมัดร้องดังระงม สะท้านไปทั้งหู หมัดของเฉินเฟิงเร็วเหมือนกระแสไฟฟ้า ไล่ตามฉู่เหอแล้วชกไปที่เขา ไม่ให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย ฉู่เหอที่อยู่ภายใต้การไล่ตาม ถอยหลังไม่หยุด แลดูน่าอนาถ
“หื้ม?”
ภาพนี้ ทำให้อู่จื่อโจว ฟางเจิ้งที่มองดูการต่อสู้อยู่รอบๆพากันตกใจจนนิ่งค้าง
พวกเขาเคยคิดว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นคนถูกล้ม แต่คนที่อยู่ในใจของพวกเขาไม่ใช่ฉู่เหอ แต่เป็นเฉินเฟิง ทว่าตอนนี้กลับตรงกันข้าม
“เริ่มการต่อสู้ด้วยการโจมตีที่รุนแรง จากนั้นทำให้อาวุธของคู่ต่อสู้หล่นลง ตามด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไล่ตามฉู่เหอไม่ให้โอกาสเขาในการเอาคืน การต่อสู้เกิดการเปลี่ยนเป็นทันที!”
“เจ้าเด็กคนนี้ไม่เพียงแต่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีไหวพริบที่หลักแหลม สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือประสบการณ์การต่อสู้ของเขา ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ได้อย่างแม่นยำ!”
“ถูกต้อง ทุกครั้งที่เขาลงมือล้วนมีเป้าหมาย ปูทางให้กับเกมส์การต่อสู้ ไม่พูดไม่ได้จริงๆเฉินเฟิงเป็นผู้สูงส่งในรุ่นเดียวกัน!”
อู่จื่อโจวลอบพยักหน้า เฉินเฟิงแสดงฝีมือได้ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คัดเลือกเมื่อกี้ หรือการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายในตอนนี้ ล้วนทำได้ดีเยี่ยม
ชางโป๋ ฟางเจิ้งไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจชื่นชมกับคำพูดของก่วนหนานเทียน
แม้จะบอกว่าความสามารถของฉู่เหอที่เป็นถึงหั้วจิ้งชั้นกลางทำให้พวกเขาตกใจ ถ้าอย่างนั้นความสามารถของเฉินเฟิงที่แสดงออกมาในตอนนี้ ทำให้เขาตกตะลึง
เวลานี้จียุ่น ศีลสามและเทียนอิงต่างพูดไม่ออก
แม้แต่ศีลสามที่ไม่สนใจศิลปะการต่อสู้ เวลานี้อดไม่ได้ที่จะกล่าวชม:“น้องชายคนนี้ของฉัน ผ่านอะไรมากันแน่? ถึงได้มีประสบการณ์การต่อสู้ที่หลากหลายแบบนี้?”
คนที่ตรงกันข้ามกับพวกเขาอย่างชัดเจนก็คือหวังอีเตา เวลานี้เขาไม่เหิมเกริมและดูถูกคนอื่นแล้ว อีกทั้งสีหน้ายังเคร่งเครียด คิ้วขมวดเป็นปม
เพื่อที่จะพัฒนาการต่อสู้ของฉู่เหอให้สูงขึ้น เขาเองก็มักหาวิธีฝึกซ้อมให้ฉู่เหอ เพิ่มประสบการณ์ ทว่าคิดไม่ถึงเมื่อเทียบกับเฉินเฟิงแล้ว ยังขาดตกบกพร่องไม่น้อย
“แม้ว่าฉู่เหอจะต่อสู้กับศัตรูอยู่บ่อยครั้ง แต่ฉันกลัวเขาจะได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย คู่ต่อสู้จึงอ่อนแอกว่าเขาเล้กน้อย ในสถานการณ์แบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าตนเองไม่มีวันที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงไม่มีความรู้สึกเหมือนเรือจะจม!”หวังอีเตาเป็นระดับปรมาจารย์ ทำการวิเคราะห์โดยสังเขป จึงรู้ว่าปัญหาอยู่ไหน
“ผวัะ!”
เสียงดังขึ้น ฉู่เหอร้องโหยหวนที่ถูกเฉินเฟิงชกตรงหน้าอก ร่างของเขาปลิวไปไกล
“หึ คนไร้ประโยชน์!